xs
xsm
sm
md
lg

จับตากองเงินฝาก-ไพรเวตฟันด์ สองพระเอกดันNAVทั้งระบบพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แอสเซทพลัส คาดอีก 3-5 ปีภาพรวมอุตสาหกรรมจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากกองทุนแบบคล้ายเงินฝาก และกองทุนส่วนบุคคล พร้อมมั่นใจบริษัทมีสินค้าหลากหลายตอบสนองความต้องการของนักลงทุน เตรียมวางแผนเน้นขยายฐานลูกค้ารายย่อยที่เป็นกลุ่มลูกค้าเงินฝากมากขึ้น ขณะเดียวกันเล็งออกโปรดักต์ที่มีนวัตกรรมทางการเงินและช่องทางการลงทุนที่หลากหลายรับกลุ่มนักลงทุนที่มีความรู้

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถาบันคุ้มครองเงินฝาก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมเป็นต้นมา คาดว่าในระยะสั้นอาจจะไม่มีผลต่ออุตสาหกรรมกองทุนรวมมากนั้น เพราะโครงสร้างเงินฝากในปัจจุบันมีผู้ฝากรายย่อยที่มีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท มีอยู่ประมาณ 98.5% ซึ่งหมายความว่าผู้ที่มีเงินฝากมากกว่า 1 ล้านบาทมีเพียง 1.5% ของเงินฝากทั้งระบบเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในระยะยาว 3-5 ปี อุตสาหกรรมกองทุนรวมจะขยายตัวมากขึ้นจากเม็ดเงินที่เริ่มไหลเข้ามาในกองทุนที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก เช่น กองทุนคุ้มครองเงินต้น หรือกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตร ที่ให้ผลตอบแทนแน่นอนจากการลงทุน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ในลักษณะเดียวกับเงินฝากประจำ หรือกองทุนตราสารหนี้อื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นในระดับความเสี่ยงที่ไม่มากนัก และกองทุนส่วนบุคคลที่มีรูปแบบการบริหารเงินแบบส่วนตัวก็คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งกองทุนของบริษัทเองก็น่าจะขยายตัวในลักษณะเช่นเดียวกับอุตสาหกรรม ทั้งส่วนของกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล

"คาดว่าช่วงแรกเม็ดเงินที่จะไหลเข้าอุตสาหกรรมกองทุนรวมอาจจะยังมีไม่มากนัก เนื่องจากในปีแรกยังคงคุ้มครองเต็มจำนวน แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่จะกระตุ้นให้ผู้มีเงินออมอาจจะเริ่มศึกษาถึงทางเลือกการบริหารเงินอื่นๆ ที่น่าสนใจ แต่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในความเสี่ยงที่เท่ากันๆ ซึ่งกองทุนรวมก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้ลงทุนเริ่มรู้จักและมีการขยายตัวในช่วงหลังนี้" นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

ทั้งนี้ปัจจุบันบลจ.แอสเซทพลัส มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวอยู่แล้ว โดยบริษัทมีกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก เช่น กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำ เช่น ตั๋วเงินคลัง และซื้อขายได้ทุกวัน เทียบเคียงกับเงินฝากออมทรัพย์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการพักเงินหรือระหว่างรอลงทุน

ขณะเดียวกันบริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทกองทุนประเภทคุ้มครองเงินต้น , กองทุนประเภทพันธบัตร , กองทุนประเภทตราสารหนี้ระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ทั้ง Roll-over และ IPO ซึ่งมีเสนอขายทุกเดือน เพื่อรองรับการลงทุนประเภทรอบระยะเวลา รวมถึงกองทุนประเภทตราสารหนี้ต่างประเทศที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีความมั่นคง แต่ให้โอกาสผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากและสูงกว่าการลงทุนในประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้บริษัทยังจะมีการออกกองทุนในลักษณะดังกล่าวเพื่อรองรับเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุนรวมอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการขยายฐานลูกค้ารายย่อยที่เป็นกลุ่มลูกค้าเงินฝากมากขึ้น และในส่วนของฐานลูกค้าซึ่งมีความรู้ความเข้าใจในด้านการลงทุน บริษัทจะเน้นการออกพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมทางการเงิน และช่องทางการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าในระดับความเสี่ยงที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งหลังจากที่ลูกค้าเริ่มปรับตัวได้กับระบบเงินฝากที่เปลี่ยนไป ก็คาดว่าผลิตภัณฑ์ลักษณะดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"เราให้ความสำคัญกับการผลักดันและส่งเสริมในเรื่องการวางแผนทางการเงินและยึดหลักนโยบายดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งส่วนสำคัญคือเน้นการให้ข้อมูลแก่ลูกค้าทั้งในด้านการจัดสรรเงินออม ประโยชน์ที่จะได้รับจากการวางแผนการเงิน ตลอดจนวิธีที่จะประสบความสำเร็จในเป้าหมายทางการเงินต่างๆ ที่ตั้งไว้ โดยใช้เครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งในการประกาศใช้พรบ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากได้มีการให้ข้อมูลกับลูกค้าเป็นระยะๆ เพื่อสร้างความเข้าใจถึงลักษณะการคุ้มครอง ผลกระทบต่อลูกค้า และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นการสร้างโอกาสผลตอบแทนและรักษาผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ" นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น