xs
xsm
sm
md
lg

INGชี้ศก.จีนยังแข็งแกร่งแม้จบโอลิมปิก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ. ไอเอ็นจี มอง เศรษฐกิจและภาคการลงทุนแดนมังกรชะลอตัวลงมาบ้าง หลังจบกีฬาโอลิมปิก แต่ยังเชื่อ ในระยะยาวยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะได้ปัจจัยการบริโภคภายในประเทศสนับสนุน เตือนราคานำมันปรับตัวลดแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง เหตุดีมานด์ไม่ได้ลดลงตาม

นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีนหลังจากจบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จีนเป็นเจ้าภาพการแข่งว่า ในช่วงก่อนที่จะมีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้น มีการมองกันว่าเศรษฐกิจของประเทศจีนจะมีความร้อนแรงมาก ซึ่งส่งผลให้ทางรัฐบาลของประเทศจีนพยายามที่จะหามาตรการเพื่อลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจลงมา

โดยเห็นได้ชัดว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีการใช้มาตราการลักษณะนี้ออกมาอีก จึงส่งผลให้ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศจีนเองมีการชะลอตัวลงมาบ้างแล้ว แต่เป็นการชะลอตัวลงมาในระยะสั้นๆเท่านั้น และเชื่อว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในระยะยาว ดังนั้นเศรษฐกิจของประเทศจีนในระยะยาว จะกลับมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน เพราะมีปัจจัยต่างๆสนับสนุนอยู่

ขณะเดียวกัน การลงทุนในโครงการก่อสร้างต่างๆ รวมทั้งโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานของจีน ได้มีการชะลอตัวเช่นกัน หลังจากจบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก แต่อัตราการเติบทางเศรษฐกิจของประเทศยังคงมีอยู่ เพราะอัตราการปริมาณการอุปโภคบริโภคของประชากรในประเทศยังคงอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนให้แก่เศรษฐกิจภายในประเทศ นอกเหนือจากการพึ่งพาปัจจัยทางด้านการส่งออกเพียงอย่าางเดียว

ทั้งนี้ นายจุมพล ยังกล่าวถึงภาวะราคาน้ำมันว่า ในส่วนของภาวะราคานํ้าที่มีการปรับลดลงมาในช่วงนี้เป็นการปรับลดลงมาในช่วงระยะสั้นๆเท่านั้น โดยในระยะนี้จะมีการแกว่งตัวอยู่ในช่วงหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้นํ้ามันยังอยู่ในระดับที่สูงและไม่ได้มีการปรับลดความต้องการลงแต่อย่างใด รวมทั้งในส่วนของประเทศจีนเองที่มีความต้องการใช้อยู่ในปริมาณที่มาก และแม้ว่าจะมีพลังงานทดแทนเข้ามาช่วยลดการบริโภคนํ้ามันบ้างแล้วในขณะนี้ แต่หากคิดเป็นสัดส่วนของพลังงานทดแทนที่ใช้แทนนํ้ามันนั้นยังมีอยู่เพียงแค่ 4% เท่านั้น ซึ่งถือว่ายังเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก หรือยังไม่สามารถทดแทนกันได้มากแต่อย่างใด ดังนั้นแนวโน้มราคานํ้ามันอาจจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศจีนรวมทั้ง ประเทศในกลุ่ม บริค อีก 3 ประเทศ (บราซิล รัสเซีย อินเดีย)ที่ บลจ. ไอเอ็นจี เข้าไปลงทุนอยู่นั้น นายจุมพล กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั้ง 4 ประเทศ ได้มีการปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา แต่คาดว่าจะไม่ยํ่าแย่ลงไปมากกว่านี้ โดยแนวโน้มเศรษฐกิจ 4 ประเทศนี้มีการเติบโตไปในทิศทางที่ดีอย่างแน่นอนแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง

สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย บริค 40 (ING Thai BRIC 40 Fund ) เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมหน่วยลงทุน ประเภทตราสารแห่งทุนที่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) มีโครงการ 1,600 ล้านบาท

โดยมีนโยบายการลงทุนในกองทุน SPDR S&P BRIC 40 ETF (BIK) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีตั้งแต่ร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับ S&P BRIC 40 Index ซึ่งเหมาะสำหรับ นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่เหมาะสมและกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศ

ขณะที่ ผลการดำเนินงานของกองทุนนั้น มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -7.37 เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐาน Benchmark: S&P BRIC 40 Index อยู่ที่ -10.17% โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6เดือนอยู่ที่ -1.32 และ เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐาน Benchmark: S&P BRIC 40 Index อยู่ที่ - 1.82%
กำลังโหลดความคิดเห็น