xs
xsm
sm
md
lg

พรีมาเวสท์จับกลยุทธ์“Long-Short” สร้างผลตอบแทนFIFกองใหม่หนีความผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.พรีมาเวสท์ เพิ่มทางเลือกลงทุนหนีความผันผวน ตั้ง“กองทุนเปิดพรีมาเวสท์-อลิอันซ์ จีไอ ชอยซ เอ็คควิตี้ ฟันด์” เน้นลงทุนตราสารหนี้ในสิงคโปร์ พร้อมเพิ่มกลยุทธ์สร้างผลตอบแทน ด้วย “A Pair Trade Long-Short” เปิดโอกาสผู้ลงทุนรับผลตอบแทนในหุ้นสหรัฐทุกๆ สถานการณ์ ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 8-17 กันยายนนี้

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และกลุ่ม Allianz Global Investor เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวนมาก ทำให้กองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารทุนไม่ว่าจะในประเทศไทยเองหรือในภูมิภาคต่างๆ ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นในภาวะตลาดเช่นนี้ บลจ.พรีมาเวสท์จึงเสนอกองทุนทางเลือกใหม่ ได้แก่ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์-อลิอันซ์ จีไอ ชอยซ เอ็คควิตี้ ฟันด์ หรือ PCE ให้แก่นักลงทุน
โดยกองทุนเปิดพรีมาเวสท์-อลิอันซ์ จีไอ ชอยซ เอ็คควิตี้ ฟันด์นี้เป็นกองทุนที่มีการลงทุนเน้นสร้างโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนได้ทั้งในภาวะหุ้นขาขึ้นและขาลงด้วยกลยุทธ์ A Pair Trade Long-Short โดยจะเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 8-17 กันยายนนี้

นางสาวศิริพร สุวรรณการ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน บลจ.พรีมาเวสท์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายการลงทุนของกองทุนเปิดพรีมาเวสท์-อลิอันซ์ จีไอ ชอยซ เอ็คควิตี้ ฟันด์ หรือ PCE จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Choice Equity Fund ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจลงทุนในตราสารหนี้ หรือเงินฝากสถาบันการเงิน เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับการดำเนินงานของกองทุน และเพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน

ทั้งนี้การลงทุนในกองทุน Master Fund จะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้รูปสกุลเงินสิงคโปร์ดอลลาร์ ทำให้โอกาสความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มลดลง เพราะที่ผ่านมาเงินสกุลสิงคโปร์ดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกามักมีการเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับเงินสกุลบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

นางสาวศิริพร กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์ A Pair Trade Long-Short ที่กองทุนหลักใช้ในการบริหารกองทุนนั้น จะบริหารกลยุทธ์โดย Oppenheimer Capital LLC ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนในกลุ่ม Allianz โดยกลยุทธ์ดังกล่าวสามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยการเข้าซื้อหลักทรัพย์ “Long” และขายหลักทรัพย์ “Short” ในอุตสาหกรรมเดียวกันในจำนวน (มูลค่า) เงินลงทุนเท่าๆ กันในทั้งสองหลักทรัพย์

สำหรับคุณสมบัติของหลักทรัพย์ที่อยู่ในสถานะซื้อ (long position) ได้แก่ หลักทรัพย์ของบริษัทคุณภาพดีที่มีราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน มีกลยุทธ์หรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เข้มแข็ง มีศักยภาพการแข่งขันและมีความสามารถในการสร้างผลกำไรในระยะยาว ส่วนหลักทรัพย์ที่อยู่ในสถานะขาย (short position) จะมีคุณสมบัติตรงข้าม ซึ่งภายใต้กลยุทธ์นี้ กองทุนจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนทั้งในภาวะตลาดที่มีแนวโน้มดี หรือภาวะตลาดที่มีแนวโน้มชะลอตัว

ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุนดังกล่าว จะเป็นอิสระต่อตลาดหุ้นโดยสิ้นเชิง โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ไม่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง ซึ่งความสำเร็จของกองทุนจะขึ้นอยู่ผู้บริหารกองทุนและการเลือกหุ้นเป็นหลัก อย่างไรก็ตามปัจจุบันการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในหุ้นสหรัฐ เนื่องจากมีหุ้นในเลือกเป็นจำนวนมาก ซึ่งการจับคู่ในการทำ Long-Short จะมีตั้งแต่ 15-40 คู่ โดยระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 1 ปี แต่หากการเคลื่อนไหวของหุ้นไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ก็สามารถปิดสถานะก่อนได้

ส่วนผลตอบแทนของกองทุนหลัก ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ -26 สิงหาคม 2551 ให้ผลตอบแทนประมาณ 3.6% ในขณะที่ดัชนี S&P ให้ผลตอบแทน -7.95% และดัชนีดาวน์โจนส์ ให้ผลตอบแทน -10% ทั้งนี้บริษัทได้จัดโปรโมชั่นสำหรับผู้ลงทุนที่ลงทุนในช่วงระหว่างวันที่ 8-17 กันยายนนี้ โดยจะมีของกำนัลมอบให้ คือ ทุกยอดเงินลงทุน 1 ล้านบาท จะได้รับเช็คของขวัญ 1 พันบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น