xs
xsm
sm
md
lg

‘นครหลวง’เพิ่มความถี่กองบอนด์ เล็งตั้งทาร์เก็ตฟันด์คุ้มครองเงินต้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - เปิดกลยุทธ์ บลจ.นครหลวงไทย ปรับเกมเพิ่มความถี่กองทุนตราสารหนี้ตอบรับกระแสความต้องการที่มีอยู่สูง พร้อมสนใจเพิ่มกองบอนด์ 1 เดือนเพื่อความคล่องตัวในจังหวะลงทุน และกองทาร์เก็ต ฟันด์ลิงก์ดัชนีหุ้นไทย-ตปท. แบบคุ้มครองเงินต้นยิลด์ขึ้นต่ำ3% และมีสิทธิ์ลุ้นยิลด์ที่สูงขึ้น ส่วนพร็อพเพอร์ ฟันด์ สานต่อไอเดียเอ็มดีเก่า ชี้เป็นการลงทุนที่ปลอดภัย ย้ำผู้ถือหน่วยอย่ากังวลมูลค่าเอ็นเอวีลด แต่ให้ถัวเฉลี่ยเงินปันผลที่จะได้รับยังสร้างกำไรจากการลงทุนได้

นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงต่อไป บริษัทจะเน้นเสนอขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ (โรลโอเวอร์) ของกองทุนตราสารหนี้ และจะเพิ่มความถี่ในการออกกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้น จากเดิมที่ออกเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้งมาเป็นการออกกองทุนใหม่ทุกสัปดาห์ โดยจะออกกองทุนประมาณ 2 – 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และเอกชน อายุโครงการ 3 และ 6 เดือน ซึ่งจะทั้งประเภทคุ้มครองเงิน และไม่คุ้มครองเงินต้นตามแต่ความชื่นชอบของลูกค้าในไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะนำกองทุนตราสารหนี้อายุประมาณ 1 เดือนออกมานำเสนอเพิ่ม เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะการลงทุนในช่วงนี้ ซึ่งลูกค้าหลายคนมีความวิตกกังวลกับการลงทุน และต้องการลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ยังติดขัดในเรื่องระยะเวลาการลงทุน ซึ่งมีหลายรายมองว่าการลงทุนในระยะ 3 - 6 เดือนอาจยาวนานเกินไป หากภาวะการลงทุนกลับมาสู่ช่วงปกติหรือดีขึ้นเร็ว ก็ยังสามารถนำเงินที่ลงทุนนี้กลับมาลงทุนใหม่ได้ทันกับโอกาสที่เหมาะสม

"การลงทุนในช่วงนี้นักลงทุนควรไม่ควรเน้นไปที่ผลตอบแทน แต่ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย และเงินลงทุนยังอยู่ครบถ้วน ขณะที่การออกกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ในช่วงนี้ แม้ว่าจะมีหลายบริษัทกล้าออกกองทุนดังกล่าวออกมา แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้ามาลงทุน เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ โดยมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2552 ข่าวร้ายเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินน่าจะเริ่มลดลง ซึ่งจะส่งผลต่อกองทุนรวมFIF ให้มีโอกาสกลับมาออกอีกครั้ง"

นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ บลจ.นครหลวงไทย กล่าวว่าส่วนตัวสนใจที่ออกกองทุนหุ้นแบบทาร์เก็ต ฟันด์ ประเภทคุ้มครองเงินต้น อายุโครงการประมาณ 1 ปี – 1 ปีครึ่งมารองรับตลาดในช่วงนี้ โดยอาจจะลิงค์กับดัชนีหุ้นไทย ดัชนีหุ้นของประเทศจีน หรือดัชนี S&P ซึ่งได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ทำให้โอกาสที่ปรับขึ้นในอนาคต ผลตอบแทนขั้นต่ำประมาณ3% โดยหากดัชนีหุ้นปรับตัวสูงขึ้นตามโควต้าที่กำหนดลูกค้ามีสิทธิ์ที่จะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับออปชั่นด้วย เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่จะนิยมเข้าไปลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับขึ้น ซึ่งทำให้ต้องซื้อออปชั่นแพงไปด้วย โดยคาดว่าจะสามารถออกกองทุนได้ภายในปีนี้ซึ่งมองว่ายังมีโอกาสในการที่ตลาดหุ้นจะปรับขึ้นไป

กรรมการผู้จัดการ บลจ.นครหลวงไทย กล่าวถึงแผนการทำธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ว่า จากนโยบายของอดีตกรรมการ (นางสาวอัจฉรา สุทธิศิริกุล) ในเรื่องดังกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ดี และมีแนวคิดที่จะสานต่อในเรื่องนี้ เพราะเป็นการลงทุนในระยะยาว ที่มีความปลอดภัย และมีหลักประกันหลักคือการจ่ายเงินปันผล แม้ว่าในปัจจุบัน มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวลดลงก็ตาม โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนในสิทธิการเช่า (ลิสโฮลด์) ที่มีการจ่ายเงินปันผล แต่เมื่อนำอัตราการจ่ายปันผลทุกครั้งและในอนาคตมาหักลบกับมูลค่าของสินทรัพย์ จะพบว่าหากโคารงการดังกล่าวมีอายุโครงการประมาณ 30 ปี ภาพรวมผู้ลงทุนก็ยังได้รับผลตอบแทนและต้นทุนที่ลงไปกลับคืนมาได้ จึงไม่น่ามีความกังวลในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น