บลจ.พรีมาเวสท์ ส่ง"กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 12M 2"ออกมาเพิ่ม หลังนักลงทุนแห่ตอบรับกองแรกเป็นจำนวนมาก ชูผลตอบเเทนที่ 3.70% เปิดขายวันนี้ – 22 ก.ค.
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 12M 2 ( KPG12M2) ในวันที่ 16-22 กรกฎาคม 2551 หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ส่ง กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 12M 1( KPG12M)ออกขาย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยกองทุนทั้ง 2 กองนั้นเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบเเทนในอัตราที่สูงกว่าการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์
สำหรับกองทุน KPG12M2 เป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยง เพราะกองทุนนี้เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำ และเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีระยะเวลาการลงทุนประมาณ 11 เดือน
โดยกองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล รุ่น CB09618A เต็ม 100 % และผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนคาดว่าจะได้รับ 3.90% ต่อปี ภายหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 0.20% ต่อปี จะเหลือประมาณผลตอบแทนที่จะได้รับคือ 3.70% ต่อปี
ก่อนหน้านี้นายบัณฑิต ศุภาคม ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ บลจ. พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวถึงสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ว่า หลายฝ่ายได้คาดการณ์ว่าจะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาน้ำมันในช่วงนี้ ซึ่งทางธนาคารกลางหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยได้ส่งสัญญาณว่าจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเเน่นอน เเต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่มีการปรับขึ้นครั้งเดียว เนื่องจากต้องดูว่าการปรับขึ้นนี้จะกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง
“เราได้คาดการณ์ไว้ว่าคณะกรรการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยครึ่งปีที่เหลืออยู่ที่ 0.5-0.75% ซึ่งการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 16 กรกฏาคม 2551 ทางกนง.น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%”
ส่วนเหตุผลการที่บริษัทออกกองทุนคุ้มครองเงินต้น เพื่อที่จะลดความเสี่ยงที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ ซึ่งถ้าเทียบกับหุ้นกู้กับพันธบัตรรัฐบาลเเล้ว ทั้งสองอย่างจะให้ผลตอบเเทนที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เเต่ถ้าดูความเสี่ยงเเล้ว หุ้นกู้ ค่อนข้างจะมีความเสี่ยงมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล
นอกจากนี้ กองทุนเปิด พรีมาเวสท์ โกลบอล บอนด์ จะครบกำหนดกองทุนในวันที่ 25 กรกฎาคม 2551 นี้ซึ่งทางบลจ.จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดให้เเก่ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายที่มีชื่อยู่ในสมุดทะเบียนในวันที่ 24 กรกฎาคม 2551ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนเเละจะชำระบัญชีต่อไป
อนึ่ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด ได้เปิดเผยถึงผลตอบแทนกองทุนตราสารทุน ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2551 ว่า กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์เอ็คควิตี้ (KPF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -4.79% ซึ่งลดลงน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน -1.2% โดยเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -5.99% ในส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -7.82% ลดลงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ -1.78% โดยเกณฑ์มาตรฐานดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่ที่ -9.60%
ขณะที่ กองทุนเปิดกรุงศรี- พรีมาเวทสท์แวลู (KPV) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนที่ -5.09% ลดลงน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -0.9% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -5.99% ในขณะที่ผลการตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -7.81% ลดลงน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ -1.79% โดยมีเกณฑ์มาตรฐาน -9.60% ส่วนกองทุนเปิดพรีมาเวสท์เอ็คควิตี้ปันผล (PEF) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -7.83% ลดลงมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานดัชนีหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึง1.84% ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -5.99% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 9.18% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง -0.42% โดยมีเกณฑ์มาตรฐาน -9.60%
ขณะเดียวกัน กองทุนหุ้นระยะยาว( LTF)นั้นมีผลตอบแทนดังนี้ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์หุ้นระยะยาว (KP-LTF)ให้ผลการตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -5.32% ลดลงน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน -0.67% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -5.99% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 8.55% ลดลงน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน -1.05% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -9.60% ด้านกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (KPLTF70/30) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -3.97% ลดลงน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ -2.02% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -5.86% ลดลงน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง -3.74% โดยเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -9.60%
