นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด กล่าวถึง ภาวะเงินเฟ้อของประเทศเวียดนามว่า อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามในปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับกว่า 30% แต่ในส่วนของตลาดหุ้นเวียดนาม ดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 300 จุดในช่วงก่อนหน้านี้ ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 500 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสของอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มจะปรับตัวลดลงเพราะราคานํ้ามันที่มีการปรับตัวลดลงมา
โดยดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมานี้เป็นผลมาจาก ดัชนีตลาดหุ้นที่ตกลงมาอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ นักลงทุนที่เป็นนักลงทุนในระยะยาวจึงเริ่มมองเห็นโอกาสที่ดีในการกลับเข้ามาลงทุนอีกเพื่อคาดหวังผลกำไรที่ดีในระยะยาว โดยที่นักลงทุนต่างพากันมองว่าเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามจะเติบโตในอัตราทึ่สูงในอนาคต
ทั้งนี้ นายประภาส กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจของประเทศเวียดนามในขณะนี้แม้ว่าจะมีการขาดดุลการค้าอยู่ แต่เป็นการขาดดุลการค้าอันเนื่องมาจาก การลงทุนในภาคส่วนอุตสาหกรรมที่ต้องมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาจำนวนมากเพื่อตั้งโรงงานการผลิต แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวเมื่อโรงงานอุตสาหรรกรรมเหล่านี้สามารถตั้งและดำเนินกระบวนการผลิตได้แล้ว ดุลการค้าของประเทศจะเริ่มกลับมาได้เปรียบ
ขณะเดียวกัน ภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามนั้นอยู่ในระดับที่ดีกว่าเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามากว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้นมากกว่าในส่วนของประเทศไทย ส่งผลให้การลงทุนในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศมีการขยายตัวตามไปด้วยเช่นกัน แม้ว่าการขยายตัวในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานจะส่งผลอัตราเงินเฟ้อของประเทศสูงขึ้นเพราะราคาสินค้าที่ใช้ในการก่อสร้างเช่น เหล็ก ปูน มีราคาสูงขึ้น แต่ทางรัฐบาลเวียดนามเองกำลังแก่ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทรัพยากรของประเทศเวียดนามที่มีอยู่ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามด้วย เช่น แรงงานจำนวนมากของประเทศที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
"ดังนั้นแล้วแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศเวียดนามจะมีการชะลอตัวลง แต่อาจจะเห็นเงินเฟ้อของเวียดนาม อยู่ที่ระดับ 5-15% ในปีหน้า" นายประภาสกล่าว
สำหรับ กองทุนเปิดอยุธยา อาเซียน เวียดนาม โฟกัส ( AYFAVN) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนใน 6 ประเทศในอาเซียน ได้แก่เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ และไทย ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นที่เน้นลงทุน ในหน่วยลงทุนเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ในกองทุน CAAM Funds - ASEAN New Markets โดยมี Credit Agricole Asset Management (CAAM) เป็นผู้จัดการกองทุน ซึ่งนับเป็นผู้จัดการกองทุนที่ได้รับรางวัลมากมาย โดย เฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกฉียงใต้
โดยดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมานี้เป็นผลมาจาก ดัชนีตลาดหุ้นที่ตกลงมาอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ นักลงทุนที่เป็นนักลงทุนในระยะยาวจึงเริ่มมองเห็นโอกาสที่ดีในการกลับเข้ามาลงทุนอีกเพื่อคาดหวังผลกำไรที่ดีในระยะยาว โดยที่นักลงทุนต่างพากันมองว่าเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามจะเติบโตในอัตราทึ่สูงในอนาคต
ทั้งนี้ นายประภาส กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจของประเทศเวียดนามในขณะนี้แม้ว่าจะมีการขาดดุลการค้าอยู่ แต่เป็นการขาดดุลการค้าอันเนื่องมาจาก การลงทุนในภาคส่วนอุตสาหกรรมที่ต้องมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาจำนวนมากเพื่อตั้งโรงงานการผลิต แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวเมื่อโรงงานอุตสาหรรกรรมเหล่านี้สามารถตั้งและดำเนินกระบวนการผลิตได้แล้ว ดุลการค้าของประเทศจะเริ่มกลับมาได้เปรียบ
ขณะเดียวกัน ภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามนั้นอยู่ในระดับที่ดีกว่าเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามากว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้นมากกว่าในส่วนของประเทศไทย ส่งผลให้การลงทุนในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศมีการขยายตัวตามไปด้วยเช่นกัน แม้ว่าการขยายตัวในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานจะส่งผลอัตราเงินเฟ้อของประเทศสูงขึ้นเพราะราคาสินค้าที่ใช้ในการก่อสร้างเช่น เหล็ก ปูน มีราคาสูงขึ้น แต่ทางรัฐบาลเวียดนามเองกำลังแก่ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทรัพยากรของประเทศเวียดนามที่มีอยู่ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามด้วย เช่น แรงงานจำนวนมากของประเทศที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
"ดังนั้นแล้วแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของประเทศเวียดนามจะมีการชะลอตัวลง แต่อาจจะเห็นเงินเฟ้อของเวียดนาม อยู่ที่ระดับ 5-15% ในปีหน้า" นายประภาสกล่าว
สำหรับ กองทุนเปิดอยุธยา อาเซียน เวียดนาม โฟกัส ( AYFAVN) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนใน 6 ประเทศในอาเซียน ได้แก่เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ และไทย ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นที่เน้นลงทุน ในหน่วยลงทุนเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ในกองทุน CAAM Funds - ASEAN New Markets โดยมี Credit Agricole Asset Management (CAAM) เป็นผู้จัดการกองทุน ซึ่งนับเป็นผู้จัดการกองทุนที่ได้รับรางวัลมากมาย โดย เฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกฉียงใต้