xs
xsm
sm
md
lg

ซี.พี.ชะลอแผนลงทุนเวียดนาม รอจังหวะรัฐคุมปัญหาเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ซี.พี.ชะลอการลงทุนธุรกิจค้าปลีกสร้างห้างโลตัสและธุรกิจอสังริมทรัพย์ในเวียดนาม มูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐออกไปก่อน รอรัฐควบคุมปัญหาเงินเฟ้อและจังหวะที่ดี ยันไม่ล้มโครงการแน่ ส่วนการลงทุนธุรกิจเกษตรในเวียดนามยังราบรื่น ปีนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดปัญหาเศรษฐกิจที่เวียดนามในช่วงนี้ไม่รุนแรงเท่าวิกฤติเศรษฐกิจของไทยเมื่อปี 40 ชมรัฐบาลเวียดนามแก้ปัญหาเงินเฟ้อ-ขาดดุลการค้าได้รวดเร็ว และจริงจัง มั่นใจค่าเงินด่องกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไตรมาส 4 นี้

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร เขตประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) เปิดเผยว่า ในปีนี้กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมในเครือซี.พี.ยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้เดิม ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,300 ล้านบาท แต่ยอมรับว่ามีบางโครงการที่ต้องชะลอออกไป คือ ธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่จะต้องเริ่มลงทุนในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงถึง 21%
ทั้งนี้ ซี.พี.มีแผนจะลงทุนธุรกิจค้าปลีก โดยสร้างซูปเปอร์ มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้าโลตัสประมาณ 6 แห่งในปีนี้ แต่เมื่อเวียดนามมีปัญหาด้านเงินเฟ้อ และรัฐบาลพยายามควบคุมการขยายสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไม่เกิน 30% ทำให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราที่สูง จึงจำเป็นต้องเลื่อนการลงทุนออกไประยะหนึ่ง จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นทั้งอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่จะลงทุน ซึ่งขณะนี้ที่ดินบริเวณโฮจิมินห์แพงมาก สัญญาเช่า 50ปีตรม.ละ 1 ล้านบาท แต่ขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายที่จะการสร้างเมืองไฮ เทคโนโลยีบริเวณทู๋เทียมซึ่งติดกับเมืองโฮจิมินห์ โดยจะมีการเคลื่อนย้ายประชาชนในพื้นที่ออกไป เพื่อสร้างเมืองใหม่ คาดว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ดังนั้นบริษัทฯต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าไม่มีการล้มโครงการแน่นอน เพียงแต่รอจังหวะที่ดี
"ในปีนี้การลงทุนของซี.พี.ก็ยังคงเป็นตามเป้าหมาย มีบางโครงการที่ชะลอไป เพราะดอกเบี้ยเงินกู้สูงถึง 21%ทำให้บางธุรกิจไม่คุ้มการลงทุน โดยธุรกิจเกษตรของเครือฯไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นมากนัก จึงมีการขยายงานตามแผนเดิมที่ตั้งไว้ อีกทั้ง โดยปีนี้ใช้เงินลงทุนสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการลงทุนโรงงานอาหารปลาที่จ.เกิ่นเธอ โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกที่จ.บินห์เยือง โครงการพัฒนาเลี้ยงปลาน้ำจืดและฟาร์มทดลองที่ภาคใต้ตอนล่าง โรงงานผลิตอาหารปลาที่จ.เบ็นแจ ซึ่งโรงงานเหล่านี้จะแล้วเสร็จในปี 2551 ยกเว้นโรงงานอาหารสัตว์ที่บินห์เยือง จะล่าช้าออกไปเสร็จกลางปีหน้าแทน"
นายสุขสันต์ เชื่อว่า เศรษฐกิจของเวียดนามจะไม่ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจเหมือนดังเช่นประเทศไทยในปี 2540 แม้ว่าเวียดนามจะประสบปัญหาเงินเฟ้อพุ่ง 5 เดือนแรกปีนี้ถึง 19% และเงินเฟ้อในช่วงพ.ค.สูงถึง 25% การขาดดุลการค้าสูงถึง 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 5 เดือนแรก เทียบเท่ากับการขาดดุลการค้าทั้งปีเมื่อปี 2550 แต่รัฐบาลเวียดนามมีการตัดสินใจแก้ปัญหาเงินเฟ้ออย่างรวดเร็วและนโยบายที่แน่นอน โดยประกาศลดค่าเงินด่องลง 2% และปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้จาก 8.5%เหลือ 7% ออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อดูดซับสภาพคล่อง การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงถึงร้อยละ 21-26 และควบคุมการให้สินเชื่อขยายตัวไม่เกิน 30 % ชะลอการลงทุนภาครัฐที่ไม่จำเป็น ทำให้การขาดดุลการค้ามิ.ย.ลดลงเหลือ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐหรือลดลง 60%จากขาดดุลการค้าเดือนละ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นเชื่อว่าวิกฤตเศรษเศรษฐกิจเวียดนามน่าจะผ่านพ้นไปด้วยดี โดยเงินเฟ้อน่าจะค่อยลดลง และค่าเงินด่องจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปลายปีนี้
สำหรับภาพรวมธุรกิจซี.พี.ที่เวียดนามในปีนี้ จะมียอดขายเติบโตไม่น้อยกว่า 25%จากปีก่อน เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมว่าจะมียอดขายสินค้าเกษตรรวม 26,000 ล้านบาท โดย 5 เดือนแรกยอดขายในเวียดนามเติบโตขึ้น 35%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้เวียดนามจะเจอปัญหาเงินเฟ้อแต่ไม่กระทบต่อธุรกิจด้านอาหารและเกษตร แต่น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจนี้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่แพงขึ้นมีผลกระทบน้อยมาก เพราะซี.พี.ลงทุนมาตั้งแต่ปี 2536 แต่จะกระทบเฉพาะโครงการที่เพิ่งลงทุนในปีนี้เท่านั้น
สำหรับการลงทุนในปีหน้า ซี.พี.จะพิจารณาขยายงานอย่างรอบคอบ เพราะต้องรอการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้นของรัฐบาลเวียดนาม หากแก้ไขเงินเฟ้อไม่ได้จะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน โดยปีหน้าบริษัทฯจะให้ความสำคัญในการส่งออกปลา และกุ้งแปรรูปแช่แข็งเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินด่อง โดยจะส่งออกกุ้งแปรรูปประมาณ 5,000 ตันจากปีนี้ส่งออกกุ้งแปรรูปเพียง 3,500 ตัน คิดเป็นมูลค่าการส่งออกเพียง 4%ของยอดขายเครือซี.พี.ในเวียดนาม
นายธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ ผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงเทพ สาขาโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม กล่าวว่า ในช่วงที่เวียดนามประสบปัญหาเงินเฟ้อพุ่งและค่าเงินด่องอ่อนค่าลง เป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนต่างประเทศรวมทั้งไทยที่จะเข้าไปลงทุน โดยเฉพาะการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก เพราะอาศัยความได้เปรียบจากการค่าเงินด่องที่อ่อนค่าลง และนักลงทุนต่างชาติสามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนได้ ทำให้ต้นทุนต่ำ คาดว่าปีนี้จะมีเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาในเวียดนามถึง 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีมูลค่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะนี้ทางไต้หวันจะเข้าไปลงทุนโรงถลุงเหล็ก เงินลงทุน 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และญี่ปุ่นร่วมกับนักลงทุนตะวันออกกลางจะสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งที่ 2 ในเวียดนาม ใช้เงิน 6,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นเศรษฐกิจเวียดนามไม่ได้ชะลอตัว จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนในไทยจะใช้โอกาสช่วงนี้ลงทุนในเวียดนาม
กำลังโหลดความคิดเห็น