xs
xsm
sm
md
lg

ใคร คือ จิม โรเจอร์ส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถ้าเอ่ยถึงชื่อ วอเรน บัฟเฟ็ท ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีในวงการตลาดทุนทั่วโลกเช่นเดียวกันกับ จิม โรเจอร์ส ที่ได้รับการยอมรับในวงการตลาดโภคภัณฑ์โลกมากที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน จากการที่เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในการบริหารกองทุนควันตั้ม ในช่วงทศวรรษ 1970’s ซึ่งกองทุนดังกล่าวได้เติบโตขึ้นกว่า 4,000% หลังจากนั้นจิม โรเจอร์สได้แยกตัวออกมาบริหารกองทุนของตนเองและเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจสังคมและการเมืองว่าอะไรที่ทำให้ประเทศเหล่านั้นประสบกับความล่มสลายทางด้านเศรษฐกิจและอะไรที่ทำให้บางประเทศประสบกับความสำเร็จอย่างมากมาย ตลอดการเดินทางเขาได้พบปะกับบรรดานักธุรกิจชั้นนำ นักการเงิน นักลงทุนและผู้คนในแต่ละประเทศ เพื่อทำความเข้าใจพื้นฐานของประเทศนั้นๆ และสร้างโอกาสการลงทุนของตนเองในประเทศที่มีศักยภาพ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถทำกำไรจากการลงทุนในทุกมุมโลกได้อย่างมหาศาลในที่ที่แม้กระทั่งในวอลสตรีทยังไม่เคยได้ยิน เพราะเขาได้ศึกษาและสัมผัสกับประเทศเหล่านั้นด้วยตนเองก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน!
จิม โรเจอร์ส
ในปี 1998 เขาได้จัดทำดัชนีโภคภัณฑ์ชื่อ ROGERS INTERNATIONAL COMMODITIES INDEX หรือ “RICI” และตั้งกองทุนของตนเองเพื่อลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ตามสัดส่วนที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี RICI ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าโภคภัณฑ์จำนวน 35 ชนิด ที่มีการซื้อขายในตลาดล่วงหน้าทั่วโลก (ดูภาพประกอบ)

การกระจายการลงทุนตามดัชนี RICI นอกจากจะเป็นการลงทุนที่สะท้อนภาพรวมการค้าและพาณิชย์ระหว่างประเทศแล้วยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนที่ดีอีกด้วย จนถึงปัจจุบัน ดัชนี RICI ยังคงเป็นหนึ่งในดัชนีที่เติบโตสูงที่สุด เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทะยานอย่างไม่หยุดยั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันซึ่งมีสัดส่วนสูงที่สุดในองค์ประกอบของดัชนี RICI

เมื่อมองสภาพตลาดทุนทั่วโลกในปัจจุบันจะพบว่า แนวความคิดของ จิม โรเจอร์ส ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วที่เขาทุ่มการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์และสร้างดัชนี RICI นับว่าเป็นแนวทางที่สร้างผลตอบแทนอย่างมากมาย จวบจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่ตลาดทุนทั่วโลกมีความผันผวนสูงแต่ตลาดโภคภัณฑ์กลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ยังเป็นภูมิคุ้มกันอย่างดีต่ออัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวได้เลย

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ ถึงแม้จะให้ผลตอบแทนที่สูงแต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงในการลงทุนที่สูงตามไปด้วย ดังนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะทำการลงทุนผ่านทางสถาบันการเงินหรือกองทุน เพื่อให้มีการบริหารจัดการความเสี่ยงของการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในประเทศไทยเองหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังจะมีการพิจารณาอนุมัติให้กองทุนต่างๆสามารถลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ได้โดยตรงในตลาดล่วงหน้าทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในภาวะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนประเภทอื่นๆ ลดลง

จิม โรเจอร์ส มักได้รับคำยกย่องจากผู้คนในแวดวงการลงทุนทั่วโลกอยู่เสมอว่าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าโภคภัณฑ์ในระดับต้นๆ ของโลกและถูกขนานนามว่าเป็น”นักผจญภัยแห่งโลกตลาดทุน” (Adventure Capitalist) ในขณะที่ตัวเขาเองกลับอธิบายว่า เขาไม่ใช่อัจฉริยะทางด้านการลงทุนเพียงแต่เขาได้อ่านประวัติศาสตร์ของตลาดทุนซ้ำไปซ้ำมา จนเขารู้ว่าอะไรอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้นและเขายังรู้อีกว่าเหตุการณ์นั้นๆ ยังคงจะเกิดขึ้นอีกหลายครั้งในอนาคต

นอกจากนี้ จิม โรเจอร์ส ยังเป็นนักเขียน ที่เขียนหนังสือขายดีหลายเล่ม อาทิ “Investment Biker” “Adventure Capitalist” “Hot Commodities” และล่าสุดก็คือ “A Bull in China”

ล่าสุด ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ได้เชิญ Jim Rogers กูรูผู้ประสบความสำเร็จในการลงทุนตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก มาเป็นวิทยากรในการปาฐกถาพิเศษ “Commodities : The Thailand’s Opportunity” โดยการปาฐกถาพิเศษจากกูรูด้านการลงทุนคอมมอดิตี้ส์ระดับแนวหน้าของโลกนี้ กำลังจะเริ่มขึ้นในใวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม นี้ เวลา 18.00 - 21.30 น. ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮเอท เอราวัณ

ทั้งนี้ ผู้ใดที่สนใจเข้าร่วมงานปาฐกถาดังกล่าว สามารถติดต่อสำรองที่นั่งหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย โทร 0 2263 9888 ต่อ 874 หรือ 816 หรือทางเว็บไซด์ www.afet.or.th
กำลังโหลดความคิดเห็น