ตอนนี้สถานการณ์การลงทุนในไทยนับว่าสับสน โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่ 3 วันดี 4 วันไข้ กระดานชำเลือดชำหนองพอสมควร แม้ว่าสัปดาห์ที่แล้วดัชนีจะปรับตัวขึ้นมาได้บ้าง แต่นักลงทุนก็ยังโอดโอยอยู่ดี แหม!!!ตอนขึ้นขึ้นแค่ 8 จุด แต่ตอนร่วงมันร่วงทีเดียว 15 -20 จุด
นอกจากความผันผวนที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยแล้ว กองทุนรวมส่วนบุคคลเป็นอีกหนึ่งส่วนที่รับผลกระทบไปไม่น้อย โดยเดือนที่ผ่านมาเงินกองทุนหายเกือบ 3,000 ล้านบาทรับพิษความผันผวนที่เกิดขึ้น แต่แม้เงินกองทุนลด แต่จำนวนลูกค้ายังเพิ่ม ... นั้นแน่!!! ใครว่าคนไทยยากจน
เติมน้ำมันรถตอนนี้แสนสุขใจ เพราะจ่ายเงินในกระเป๋าน้อยลง แต่คิดไปคิดมาที่มันลดนี้แค่ 6 เดือนนี้หว่า หมดเขตเมื่อไรราคาขึ้นเมื่อนั้น ... อย่างไงก็อย่าลืมประหยัดช่วยชาติกันด้วยนะครับ
สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (BEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฝากบอกว่า ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม นี้เป็นต้นไป พระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งส่งผลให้ผู้ฝากเงินจะได้รับความคุ้มครองเงินฝากแบบมีเงื่อนไข และเงื่อนเวลา ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง พ.ร.บ. และสามารถเตรียมความพร้อมในการบริหารเงินออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลาดตราสารหนี้จึงได้จัดการเสวนาหัวข้อ “มองอนาคตคนไทย เมื่อเศรษฐกิจปรับ การเงินเปลี่ยน” ในวันจันทร์นี้ เวลา 8.30 – 12.00 น. ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ.รัชดาภิเษก สำหรับเนื้อหาของการเสวนา ประกอบด้วย ทิศทางเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยในอนาคต สภาพแวดล้อมการเงินไทยที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคการเงินเสรีแบบสมบูรณ์ และยุคการคุ้มครองเงินฝาก การเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ฝากเงินที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการฝากเงินหรือการลงทุนและสถาบันการเงินที่ต้องเตรียม พร้อมในการบริหารจัดการ และการบริการให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรับคำแนะนำการบริหารเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากความรู้แล้ว งานนี้ยังได้รับเกียรติจากนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “มองอนาคตคนไทย เมื่อเศรษฐกิจปรับการเงินเปลี่ยน” และเสวนาในหัวข้อ “ปรับตัวอย่างไร เมื่อระบบการเงินไทยเปลี่ยน” โดย กฤษฎา อุทยานิน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง , ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย , พี่ตู่ - วรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ **สันติ กีระนันทน์** ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อีกงานที่ไม่ควรพลาด ดร. นิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากสองบริษัท เตรียมตัวจัดงาน Jim Rogers Live in Bangkok ในปาฐกถาพิเศษเรื่อง Commodities: The Thailand’s Opportunity ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 21 สิงหาคม 2551 เวลา 18.30 – 21.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮเอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ซึ่ง มร.จิม โรเจอร์สเป็นกูรูด้านตลาดโภคภัณฑ์ชื่อดังระดับโลก จะปาฐกถาพิเศษถึงแนวโน้มล่าสุดของกระแสสินค้า โภคภัณฑ์ ทางเลือกใหม่ของการลงทุน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนกับนักลงทุนของไทยโดยตรงอีกด้วย
ต้นกล้า
นอกจากความผันผวนที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยแล้ว กองทุนรวมส่วนบุคคลเป็นอีกหนึ่งส่วนที่รับผลกระทบไปไม่น้อย โดยเดือนที่ผ่านมาเงินกองทุนหายเกือบ 3,000 ล้านบาทรับพิษความผันผวนที่เกิดขึ้น แต่แม้เงินกองทุนลด แต่จำนวนลูกค้ายังเพิ่ม ... นั้นแน่!!! ใครว่าคนไทยยากจน
เติมน้ำมันรถตอนนี้แสนสุขใจ เพราะจ่ายเงินในกระเป๋าน้อยลง แต่คิดไปคิดมาที่มันลดนี้แค่ 6 เดือนนี้หว่า หมดเขตเมื่อไรราคาขึ้นเมื่อนั้น ... อย่างไงก็อย่าลืมประหยัดช่วยชาติกันด้วยนะครับ
สันติ กีระนันทน์ ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ (BEX) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ฝากบอกว่า ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม นี้เป็นต้นไป พระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งส่งผลให้ผู้ฝากเงินจะได้รับความคุ้มครองเงินฝากแบบมีเงื่อนไข และเงื่อนเวลา ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจในเรื่อง พ.ร.บ. และสามารถเตรียมความพร้อมในการบริหารเงินออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลาดตราสารหนี้จึงได้จัดการเสวนาหัวข้อ “มองอนาคตคนไทย เมื่อเศรษฐกิจปรับ การเงินเปลี่ยน” ในวันจันทร์นี้ เวลา 8.30 – 12.00 น. ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ถ.รัชดาภิเษก สำหรับเนื้อหาของการเสวนา ประกอบด้วย ทิศทางเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยในอนาคต สภาพแวดล้อมการเงินไทยที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคการเงินเสรีแบบสมบูรณ์ และยุคการคุ้มครองเงินฝาก การเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ฝากเงินที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการฝากเงินหรือการลงทุนและสถาบันการเงินที่ต้องเตรียม พร้อมในการบริหารจัดการ และการบริการให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรับคำแนะนำการบริหารเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากความรู้แล้ว งานนี้ยังได้รับเกียรติจากนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “มองอนาคตคนไทย เมื่อเศรษฐกิจปรับการเงินเปลี่ยน” และเสวนาในหัวข้อ “ปรับตัวอย่างไร เมื่อระบบการเงินไทยเปลี่ยน” โดย กฤษฎา อุทยานิน ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง , ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย , พี่ตู่ - วรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน และ **สันติ กีระนันทน์** ผู้จัดการตลาดตราสารหนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อีกงานที่ไม่ควรพลาด ดร. นิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) และพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากสองบริษัท เตรียมตัวจัดงาน Jim Rogers Live in Bangkok ในปาฐกถาพิเศษเรื่อง Commodities: The Thailand’s Opportunity ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 21 สิงหาคม 2551 เวลา 18.30 – 21.30 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮเอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ซึ่ง มร.จิม โรเจอร์สเป็นกูรูด้านตลาดโภคภัณฑ์ชื่อดังระดับโลก จะปาฐกถาพิเศษถึงแนวโน้มล่าสุดของกระแสสินค้า โภคภัณฑ์ ทางเลือกใหม่ของการลงทุน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนกับนักลงทุนของไทยโดยตรงอีกด้วย
ต้นกล้า
