xs
xsm
sm
md
lg

มรสุมศก.ฉุดไพรเวตฟันด์เม็ดเงินทั้งระบบเพิ่มแต่จำนวนกองทุนลด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครึ่งปีกองทุนส่วนบุคคลโตเพียง 1,020 ล้านบาท ขณะที่เดือน มิ.ย.มูลค่าทั้งระบบวูบไป 3 พันล้านบาท "บลจ.กสิกรไทย" ยังครองแชมป์วงเงินภายใต้การบริหารสูงสุด 3.44 หมื่นล้านบาท ส่วน "บลจ.ทิสโก้ - ไอเอ็นจี" ตามมาห่างๆ ด้วยวงเงิน 3.06 หมื่นล้านและ 2.21 หมื่นล้านตามลำดับ เหตุภาวะตลาดหุ้น - ตราสารหนี้ผันผวนกดดันการเติบโต ลูกค้าบางส่วนปิดกอง ชี้ถ้าสถานการณ์คลี่คลายเงินกองทุนโตต่อเนื่อง

รายงานข่าวจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยถึงจำนวนเงินของกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวต ฟันด์) ทั้งระบบ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 ว่ามีจำนวนกองทุนที่จัดตั้ง 1,163 กองทุน และมีจำนวนเงินลงทุนทั้งระบบ 176,501.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 ที่มี 175,480.71 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 1,020.81 ล้านบาท หรือ 0.58% แม้มีปริมาณกองทุนที่จัดตั้งน้อยกว่า ซึ่งมีอยู่เพียง 1,185 กองทุน

อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินกองทุนส่วนบุคคลทั้งระบบในเดือนมิถุนายน กลับปรับตัวลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2551 ซึ่งอยู่ที่ 179,939.70 ล้านบาท โดยปรับตัวลดลง 3,438.18 ล้านบาท หรือ 1.91%

สำหรับ 10 อันดับบริษัทจัดการที่มีเงินกองทุนส่วนบุคคลสูงที่สุด ณ เดือนมิถุนายนนั้น พบว่า อันดับ 1 คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด ซึ่งมีจำนวนเงินกองทุนส่วนบุคคลรวม 34,435.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,877.21 ล้านบาท หรือ 5.77% จากปลายปี 2550 ที่มีจำนวนเงิน 32,558.26 ล้านบาท แต่จำนวนเงินดังกล่าวกลับลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้ 751.80 ล้านบาท หรือ 2.14%

อันดับ 2 บลจ.ทิสโก้ มีจำนวนเงิน 30,647.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 230.24 ล้านบาท หรือ 0.76% จากปลายปีก่อนที่มีเงิน 30,416.85 ล้านบาท โดยคิดเป็นการลดลง 994.20 ล้านบาท หรือ 3.14% จากมูลค่าเงินกองทุนในเดือนพฤษภาคม , อันดับที่ 3 บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มีจำนวนเงินกองทุนส่วนบุคคล 22,186.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 329.70 ล้านบาท หรือ 1.51% จากมูลค่ากองทุนในช่วงปลายปี 21,856.92 ล้านบาท ขณะเดียวกันจำนวนเงินล่าสุดลดลงจากเดือนพฤษภาคม 467.66 ล้านบาท หรือ 2.06%

อันดับ 4 บลจ.เอ็มเอฟซี มีจำนวนเงินกองทุน 20,844.47 ล้านบาท ลดลง 84.01 ล้านบาท หรือ0.40% จากปลายปีก่อนที่มีจำนวน 20,928.48 ล้านบาท และลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้ 479.56 ล้านบาท หรือ 2.25% , อันดับ 5 บลจ.วรรณ มีเงินกองทุนส่วนบุคคลรวม 20,331.83 ล้านบาท ลดลง 33.93 ล้านบาท หรือ 0.17% จากปลายปี 2550 ที่มีจำนวนเงินกองทุน 20,365.76 ล้านบาท และลดลงจากเดือนก่อนหน้า 305.22 ล้านบาท หรือ 1.48%

ส่วนอันดับ 6 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ณ สิ้นเดือนมิ.ย. มีจำนวนเงินกองทุนส่วนบุคคล 9,326.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60.50 ล้านบาท หรือ 0.65% จากมูลค่ากองทุนในช่วงปลายปี9,266.25 ล้านบาท แต่ลดลงจากตัวเลขเดือนพฤษภาคม 204.86 ล้านบาท หรือ 2.15%

ขณะที่อันดับ 7 บลจ.ไทยพาณิชย์ โดยปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีจำนวน 6,506.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปลายก่อนที่มี 4,000.16 ล้านบาท กว่า 2,506.73 ล้านบาท หรือ 62.67% และคิดเป็นการเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 622.03 ล้านบาท หรือ 10.57% , อันดับ 8 บลจ.อเบอร์ดีน มีจำนวนเงิน 6,446.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.72 ล้านบาท หรือ 1.48% จากปลายปี 2550 ที่มีจำนวนเงินกองทุน 6,352.59 ล้านบาท แต่จำนวนลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้จำนวน 96.03 ล้านบาท หรือ 1.47%

ด้านอันดับ 9 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงิน 6,096.96 ล้านบาท ลดลง 317.93 ล้านบาท หรือ 4.96% จากปลายปีก่อนที่มี 6,414.89 ล้านบาท และปรับตัวลดลง 170.33 ล้านบาท หรือ 2.72% จากมูลค่าเงินกองทุนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สุดท้ายอันดับที่ 10 บลจ.อยุธยา มีจำนวนเงินกองทุน3,797.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 179.75 ล้านบาท หรือ 4.97% จากมูลค่ากองทุนในช่วงปลายปี 3,617.65 ล้านบาท และคิดเป็นการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนพฤษาคม 111.12 ล้านบาท หรือ 3.01%

นางสาวหัสวรา แสงรุจิ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดผู้ลงทุนบุคคล บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า สาเหตุที่จำนวนเงินในอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลช่วงครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโตที่ไม่มากนัก เป็นผลมาจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นตลาดตราสารหนี้และตราสารทุน ซึ่งส่งผลทำให้จำนวนเงินกองทุนปรับตัวลดลง ประกอบกับมีลูกค้ากองทุนบางส่วนที่ปิดกองทุนไปเช่นเดียวกัน

"ถ้าเทียบเฉพาะในช่วงเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าจำนวนเงินกองทุนทั้งระบบลดลงกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงกว่า 7.8% และในส่วนของบลจ.กสิกรไทยนั้น แม้เงินกองทุนจะลดลง แต่เรามีจำนวนลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเงินกองทุนที่ลดลงนั้นเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลง และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบลจ.เองมีลูกค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากล่าสุดเรามีจำนวนกองทุนในการจัดการจำนวน 278 กอง จากปลายปีก่อนที่เรามีกองทุนในการจัดการจำนวนเพียง 241 กองทุน" นางสาวหัสวรา กล่าว

ส่วนแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ส่วนตัวคาดว่าอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลจะยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจากภาวะความผันผวนในการลงทุน โดยเฉพะในตลาดหุ้นไทยอาจจะส่งผลกดดันต่ออุตสาหกรรมบ้าง ซึ่งถ้าหลังจากนี้ภาวะตลาดหุ้นไทยลดความผันผวนและเป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น น่าจะส่งผลทำให้อุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคลสามารถเติบโตเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง

ด้านผลจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเงินฝากที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ นางสาวหัสวรา กล่าวว่า คาดว่าในจะช่วงแรกอาจจะไม่ส่งผลต่อกองทุนส่วนบุคคลมากนัก เนื่องมาจากในระยะแรกยังมีการคุ้มครองเต็มจำนวนอยู่ อย่างไรก็ตามผลจากพ.ร.บ.ดังกล่าวน่าจะทำให้นักลงทุนมองหาทางเลือกการลงทุนใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น