xs
xsm
sm
md
lg

บีที ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ แชมป์ผลตอบแทนRMFหุ้นเดือนพ.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เป็นที่ทราบกันว่า ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาที่เกิดขึ้นนั้น ได้ส่งผลกระทบไปถึงประเทศต่างๆ รวมทั้งปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นอยู่กับทุกประเทศ ก็เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจโลกให้ลดลงเช่นกัน ภาวะดังกล่าวจึงส่งผลให้ตลาดหุ้นของหลายๆประเทศได้รับผลกระะทบไปตามๆกัน รวมทั้งนักลงทุนก็พากันปรับการลงทุนเพื่อหลีกหนีปัญหาความเสี่ยงต่างๆด้วย

และเมื่อตลาดหุ้นได้รับผลกระทบ ก็ส่งผลไปถึงการลงทุนในหุ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่ลงทุนในหุ้นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆ พากันปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้นเพื่อหลีกหนีปัญหาความเสี่ยงที่จะได้รับและหันไปลงทุนในหุ้นบางตัวที่ได้รับผลกระทบน้อยๆ

คอลัมน์ "Best of Fund" วันนี้ จะพานักลงทุนไปดูผลการดำเนินงานของ "กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ" ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า กองทุนใดสามารถให้ผลตอบแทนสูงสุด เพื่อเป็นข้อมูลให้บรรดานักลงทุนได้พิจารณาตัดสินใจเลือกลงทุน

สำหรับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดมาเป็นอันดับ 1 คือ กองทุนเปิด บีที ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 16.18 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 5.54% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.14% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 7.83% และมีผลตอบแทนย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 14.25 %

อันดับ 2 ได้แก่ กองทุนเปิด อยุธยาอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. เอวายเอฟ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 159.24 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.39% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.17% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.31% และมีผลตอบแทนย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 25.82 %

อันดับ 3 กองทุนเปิด ไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. ไทยพาณิชย์ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 1,864.82 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.05% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.63% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.51% และมีผลตอบแทนย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 31.78 %

อันดับ4 กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. กรุงไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 16.54 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.39% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.12% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.12% และมีผลตอบแทนย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 25.4 %

อันดับ 5 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. แอสเซทพลัส โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 51.11 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.04% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.24% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.66% และมีผลตอบแทนย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 27.49 %

อันดับ 6 กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ทิสโก้ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 223.71 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.18% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.81% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.47% และมีผลตอบแทนย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 27.98%

อันดับ 7 กองทุนเปิดธนชาตหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ธนชาต โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 377.39 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.12% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.8% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.07% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 22.14 %

อันดับ 8 กองทุนเปิดยูโอบี ตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ยูโอบี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 410.4 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.07% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.13% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.4% และมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 26.24 %

อันดับ 9 กองทุนเปิดแมกซ์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.นครหลวงไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 68.6 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 0.87%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.62 % มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.33% และมีผลตอบแทนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 23.61 % และ

อันดับ 10 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 172.16 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 0.57% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -0.29% มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -1.72% และมีผลตอบหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 25.6 %

เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1
เจิดพันธุ์ นิธยายน
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯรวมทั้งปัญหาเงินเฟ้อ ที่เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจของโลก ดังนั้นทางบลจ.ได้มีการลดนํ้าหนักการลงทุนในหุ้นบางประเภทลงมา เช่น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มพลังงาน และมีการเลือกลงทุนในกลุ่มหุ้นต่างๆ ที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวมากและยังให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ เช่นหุ้นกลุ่มสื่อสารเป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการนำเอาด้านเทคนิคเข้ามามีส่วนช่วยในการปรับพอร์ตการลงทุน โดยช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับบริษัทได้อย่างมาก และในด้านการลงทุนบริษัทได้มีการให้น้ำหนักในการลงทุน โดยจะดูภาวะตลาดในช่วงนั้นๆ หากภาวะไม่ดีจะมีการปรับเปลี่ยนจากการถือหุ้นมาถือเงินสด แต่ถ้าหากสภาวะตลาดอยู่ในช่วงที่ดีก็จะกลับมาถือพอร์ตการลงทุนอีกครั้ง

"ขณะนี้หุ้นเกือบทุกตัวได้รับผลกระทบกันหมด แต่เรามีการปรับพอร์ตการลงทุนด้วยการลงทุนในหุ้นประเภทพื้นฐาน เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสารซึ่งแม้ว่าจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ยังให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีอยู่"

สำหรับ กองทุนเปิด บีที ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยมีนโยบายการลงทุน ที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ หรือได้รับการสนับสุนนจากนโยบายของรัฐบาลหรือหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น