บลจ. นครหลวงไทย ได้ฤกษ์ขายกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา สาทร ลงทุนสิทธิการเช่า30 ปี ในเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์กลางเมือง พร้อมเฟอร์นิเจอร์ติดตั้งในห้องครบชุด พร้อมรับประกันรายได้ของกองทุนขั้นต่ำ 3 ปีแรกคิดเป็น 8%, 9% และ 10% ตามลำดับ ส่วนตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไป คิดเป็น 6% ของขนาดกองทุน บวกด้วยส่วนเพิ่มจากส่วนแบ่งรายได้จากการบริหาร พร้อมจัดให้มีหลักประกันรายได้สำหรับกองทุน เสนอขายตั้งแต่วันที่ 14 – 21 สิงหาคม 2551 นี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดเสนอขาย กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา สาทร ซึ่งเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภท 1 ลงทุนในสิทธิการเช่าในส่วนของเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ของโครงการเออร์บานา สาทร ซึ่งกองทุนจะจัดหาผลประโยชน์จากการลงทุนในสัญญาเช่าห้องชุด ซึ่งประกอบไปด้วยห้องชุดพร้อมเฟอร์นิเจอร์ รวม 154 ห้อง คิดเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 15,464.60 ตร.ม. เป็นระยะเวลา 30 ปี และให้บริษัท เออร์บานา เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการเช่ากลับและบริหารโครงการต่อโดยให้ Fraser Serviced Residences บริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก เป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ บริษัทฯได้ออกแบบโครงสร้างรายได้ที่ทำให้สามารถรับประกันรายได้ของกองทุนขั้นต่ำเท่ากับ 8% ในปีแรก 9% ในปีที่สอง และ 10% ในปีที่สามของขนาดของกองทุน และตั้งแต่ปีที่ 4 ไม่ต่ำกว่า 6% ของขนาดของกองทุน บวกด้วยส่วนแบ่งรายได้จากการบริหารอสังหาริมทรัพย์ของผู้เช่าช่วง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจัดให้มีหลักประกันให้รายได้ของกองทุน เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุนโดยการจำนองกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่เช่าทั้งหมดมูลหนี้จำนองเท่ากับ 1,400 ล้านบาท รวมถึงหลักทรัพย์ ที่มีสภาพคล่อง ได้แก่ ค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือนจำนวน 30 ล้านบาท และประกันวินาศภัยซึ่งครอบคลุมความเสี่ยงทั้งหมด (All Risk Insurance)
สำหรับโครงการเออร์บานา สาทร เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์หรู เกรด A ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ริมถนนสาทรย่านธุรกิจที่สำคัญ ใกล้สถานทูต และอาคารสำนักงานชั้นนำ รวมทั้งใกล้กับโครงการขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า-มหานคร รถไฟฟ้า BTS และทางด่วนพิเศษ โดยโครงการฯ ได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อกลางปี 2550 ในปัจจุบันมีอัตราเข้าพัก ประมาณ 75% และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นใกล้เคียงกับอัตราการเข้าพักของเซอร์วิสอพาร์ทเม้นต์ในย่านเดียวกัน ที่ไม่ต่ำกว่า 80% ขึ้นไป ทั้งนี้ สภาวะธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยจากผลสำรวจธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ ในครึ่งหลังของปี 2550 แสดงให้เห็นว่าปริมาณความต้องการของเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในย่านธุรกิจใจกลางเมือง ปัจจัยหลักมาจากจำนวนพนักงานชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นทุกปี
โดยกองทุนดังกล่าว มีมูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ราคา 10 บาทต่อหน่วย มูลค่าขั้นต่ำของการจองซื้อ เพียง 1,000 บาท และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 1,000 บาท มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนใน asset class ประเภทต่าง ๆ รวมทั้งเหมาะกับผู้ที่ต้องการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สม่ำเสมอและมีผลตอบแทนที่มีศักยภาพที่จะเติบโตตามภาวะเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจ