“หม่อมปลื้ม” คว้าเบอร์ 8 พร้อมเปิดตัว 4 นโยบายหาเสียง ไม่เน้นประชาสัมพันธ์ พร้อมแขวะปชป.และพธม.เป็นผู้ก่อการร้ายทางการเมือง ระบุอยากเห็นกทม.เปลี่ยนเลือก “ปลื้ม”
วันนี้ (1 ธ.ค. ) ซึ่งเป็นวันที่สองของการเปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ห้องเจ้าพระยา ภายในศาลาว่าการ กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้ามีนายวิทยา จังกอบพัฒนา อดีตผู้สมัครครั้งที่ผ่านมา มารอสมัครอยู่ก่อนแล้ว โดยยืนยันจะรอให้มีคนสมัครก่อนตน เพื่อได้หมายเลข 9 ตามเดิมที่เคยใช้ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่งเวลา 09.01 น. ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล ก็ได้เดินทางมาสมัครโดยลำพัง และได้หมายเลข 8 จากนั้น นายวิทยา ก็มายื่นสมัครต่อทันที และได้หมายเลข 9 ตามที่ต้องการ
ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล กล่าวว่า ในการหาเสียงจะไม่เน้นในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ และเชิญสื่อต่างๆ สำหรับนโยบายในการลงสมัครรับเลือกผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ มี 4 ส่วน คือ นโยบายการอำนวยความสะดวกในการเดินทางและขนส่งมวลชน ก็คือ การสานต่อโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว โดยจะทำข้อตกลงกลับทางบริษัทเอกชนให้ดำเนินการแล้วเสร็จ สำหรับปัญหาทางเทคโนโลยีก็ต้องไปหาผู้เชี่ยวชาญมาทำความเข้าใจ
ส่วนโครงการรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ(BRT) นั้นต้องรอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) สรุปสำนวนคดีก่อนว่ามีการฮั้วประมูลกันหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหา ถึงจะมีการดำเนินการต่อ และจะมีการเรียกประชุมในเรื่องเส้นการเดินรถเมล์ เพราะบางเส้นทางมีรถวิ่งจำนวนมากแต่ไม่มีคนขึ้น โดยเฉพาะการจัดอบรมมารยาทให้แก่คนขับรถ
ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวถึงนโยบายด้านความสะอาดบ้านเมือง ว่า อยากให้มีการแข่งขันด้านความสะอาดระหว่างเขต จัดให้มีถนนออกซิเจน โดยเป็นการส่านต่อของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. สำหรับนโยบายเรื่องในเรื่องความปลอดภัย จะมีการโละตึกร้างและเข้าไปปรับปรุงพื้นที่ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นแหล่งอาชญากรรม และจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม โดยจะตั้งเทศกิจเป็นหน่วยพิทักษ์ในการรักษาความปลอดภัยในบางพื้นที่ และจะติดตั้งไฟฟ้าเพิ่มเติมในส่วนที่ไม่สามรารถติดกล้องได้ ในส่วนของนโยบายในด้านการลดค่าครองชีพ แก้ไขปัญหาปากท้องของคนกทม. จะมีการพบปะกับหน่วยงานเอกชนหรือข้าราชการที่พร้อมจะรับคนทำงานโดยกทม.จะเป็นคนประสานให้
ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า ส่วนจุดขายในการเลือกตั้งครั้งนี้ คืออยากให้คนเลือกอนาคตแทนที่จะเลือกอดีต และการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม 2552 ทุกคนที่ไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับกับการกระทำของพันธมิตรเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องออกมาแสดงให้ชาวโลกเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้ายทางการเมือง ซึ่งทุกคนต้องแสดงสิทธิออกมา
“ถ้าผิดหวังจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่กล้าต่อสู้การรัฐประหาร และไม่เห็นด้วยกับการก่อการร้ายทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น หรืออยากให้มีการตรวจสอบรัฐบาลแห่งชาติให้เลือกปลื้ม”
ม.ล.ณัฎฐกรณ์ ยังกล่าวว่า ถ้าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมีพฤติกรรมเหมือนพันธมิตรฯ ไปยึดสถานที่ราชการ หรือสนามบิน ตนก็จะประณามให้ได้เห็นเช่นกัน ตนดูที่พฤติกรรม ถ้าทำผิดกฎหมาย ก็คือผิดกฎหมาย ไม่ว่าเป้าหมายคืออะไร ตนไม่แคร์ว่าใครหนุนพันธมิตรฯ ไม่สำคัญว่าคนหนุนเป็นคนดี หรือวาทกรรมถูกต้องหรือไม่ ประเทศจะต้องเป็นนิติรัฐของจริง ถ้าต้องเลือกข้าง คือเลือกข้างกฎหมาย ไม่ว่าใคร ถ้าทำผิดก็ต้องนำเข้าคุก ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือพันธมิตรฯ