พ.ต.อ.ประเวศ มูลประมุข ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีความไม่โปร่งใสในการประกวดราคาจัดซื้อรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษของกรุงเทพมหานคร (BRT) จำนวน 45 คัน มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้ทยอยเรียกข้าราชการกรุงเทพมหานครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรถบีอาร์ที ทั้งในส่วนของการกำหนดทีโออาร์เกี่ยวกับสเปกของรถยนต์และการก่อสร้างสถานีโดยสาร การประกวดราคา การจัดซื้อจัดจ้าง เข้าให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวน โดยที่ผ่านมาได้เรียก ผอ.สำนักขนส่งเข้าให้ข้อมูลแล้ว ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังรอเอกสารเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการประมูลและสัญญาต่างๆ ของโครงการจาก กทม.อีก 1 ชุด โดยภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าให้ข้อมูลของข้าราชการประจำ พนักงานสอบสวนจะเชิญนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการ กทม.เข้าให้ข้อมูล
พ.ต.อ.ประเวศ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบข้อมูลในโครงการรถบีอาร์ทีให้เสร็จสิ้นก่อนสิ้นปี 2551 ดังนั้น พนักงานสอบสวนอาจจะตัดพยานปากไม่สำคัญออกไปบ้าง โดยจะเรียกสอบเฉพาะพยานที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนหลักๆ ของโครงการบีอาร์ทีเข้าให้ข้อมูลเท่านั้น หากข้อมูลจากการตรวจสอบพบมูลความผิดโดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ดีเอสไอจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ประเวศ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบข้อมูลในโครงการรถบีอาร์ทีให้เสร็จสิ้นก่อนสิ้นปี 2551 ดังนั้น พนักงานสอบสวนอาจจะตัดพยานปากไม่สำคัญออกไปบ้าง โดยจะเรียกสอบเฉพาะพยานที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนหลักๆ ของโครงการบีอาร์ทีเข้าให้ข้อมูลเท่านั้น หากข้อมูลจากการตรวจสอบพบมูลความผิดโดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ดีเอสไอจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป