นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงที่สถานีรถบีอาร์ที วัดดอกไม้ ยานนาวา ถนนพระราม 3 ว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้ว่าโครงการจัดซื้อรถประจำทางด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะซ้ำรอยกับโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง หรืออาคาร กทม. 2 ในลักษณะมีของแต่ไม่ได้ใช้ เพราะผู้บริหารขาดความจริงจัง พบว่ามีการล็อกสเปกของรถที่จะมาวิ่ง ทำให้ในอนาคตจะเห็นแต่สถานีรถบีอาร์ที แต่ไม่มีรถวิ่ง และทราบมาว่าโครงการนี้ได้ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว โดยโครงการรถบีอาร์ทีมีข้อด้อย เช่น ใช้เลนวิ่งร่วมกับรถอื่นทั่วไป ทำให้เสียช่องทางยิ่งจะสร้างปัญหา ไม่ใช่ลดปัญญา และโครงการนี้ไม่ควรใช้เป็นระบบหลักของการขนส่งสาธารณะแต่ควรเป็นระบบเสริม และที่สำคัญสเปกรถที่นำมาจากต่างประเทศ มีพวงมาลัยและระบบการขึ้นลงไม่เหมือนกับในไทย ซึ่งจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก หากตนเป็นผู้ว่าฯ กทม.ตนจะนำสถานีที่สร้างเสร็จแล้วมาเป็นบีเอสที (Bus School Transit) หรือเปลี่ยนให้เป็นรถรับส่งนักเรียนแทน เพราะขณะนี้ กทม.ใช้งบประมาณก่อสร้างสถานีรถบีอาร์ทีไปแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท ตั้งแต่ถนนพระราม 3 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ระยะยาว 15 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์นี้ตนจะแถลงนโยบายทุกด้านอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะมีหลายฝ่ายเห็นว่าตนได้แต่วิจารณ์นโยบายผู้อื่น
นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์นี้ตนจะแถลงนโยบายทุกด้านอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะมีหลายฝ่ายเห็นว่าตนได้แต่วิจารณ์นโยบายผู้อื่น