xs
xsm
sm
md
lg

บัวหลวงโชว์ผลงานกองทุนทศพล ยิลด์สูงต่อเนื่องแม้ตลาดหุ้นผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ. บัวหลวง โชว์ศักยภาพกองทุนหุ้น “บัวหลวงทศพล” ให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนตลอด 5ปี ถึงแม้จะมีความผันผวนในตลาดหุ้นก็ไม่หวั่น เผยเลือกหุ้นตัวเจ๋งเข้าพอร์ตเพียง 10 ตัวเท่านั้น
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล เป็นกองทุนหุ้นที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน ถึงแม้การลงทุนในการลงทุนในหุ้นจะมีความผันผวนจากปัจจัยทั้งภายและภายนอกมากระทบก็ตาม ทั้งนี้ ถ้าดูย้อนหลังกลับไปเมื่อเดือนเมษายน 2551 ที่ผ่านมา จากการรายของ ลิปเปอร์ พบว่า กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล นั้นให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดย 1 ปีกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังอยู่ที่ 30% ส่วนย้อนหลัง 3 ปีกองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 75% และ 5 ปี กองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 299%

สำหรับการบริหารพอร์ตการลงทุนของกองทุนนั้น บริษัทจะทำการคัดเลือกหุ้นเพียง 10 ตัวเท่านั้น โดยจะทำการโฟกัส และคัดเลือกเป็นอย่างมาก ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะมีความแตกต่างจากกองทุนหุ้นประเภทอื่น ๆ

“เราต้องทำการเลือกหุ้นตัวที่ดีเข้าพอร์ตไว้ก่อน ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนเราห้ามไม่ได้ แต่ถ้าเลือกหุ้นที่ดีแล้ว ก็ไม่ต้องกลัว เพราะเราลงเป็นระยะยาว หุ้นกลุ่มที่ลงไปจะเป็นหุ้นที่มีศักยภาพดีพอ ที่จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนอยู่แล้ว” นายวศินกล่าว

สำหรับผลตอบแทนย้อนหลัง ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2551 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -3.30% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -5.99% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -5.57% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -9.60% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 11.72% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -0.14% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 59.93% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 12.38% และผลตอบแทนตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 34.80% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -47.64%

โดยสัดส่วนการลงทุน ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 กองทุนลงทุนในตราสารทุนเป็นจำนวน 90.55% โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มพลังงานอยู่ที่ 52.54% กลุ่มธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 32.66% และกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์อยู่ที่ 5.35% ส่วนตราสารหนี้และเงินฝากอีก 8.63% และอื่น ๆ อีก 0.82% รวมทั้งสิ้นเป็น 100%

ขณะที่ 10 อันดับแรกของตราสารทุนที่กองทุนเข้าไปลงทุน ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ได้แก่ 1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 14.62% 2. ธนาคารกรุงเทพ 13.58% 3. บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) 11.79% 4. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 11.71% 5. ธนาคารกสิกรไทย 11.61% 6.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 7.57% 7. บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 6.50% 8. บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) 5.95% 9. บริษัท ปตท. เคมีคอล จำกัด (มหาชน) 5.35% และ 10. บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) 0.82%

ทั้งนี้ กองทุนเน้นการลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีปัจจัยพื้นฐานดี ซึ่งผู้จัดการกองทุนคาดหมายว่าจะให้ผลตอบแทนรวมสูงสุด 10 อันดับแรก โดยจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.)
กำลังโหลดความคิดเห็น