xs
xsm
sm
md
lg

SCB นำ 5 แบงก์ อัดฉีดบางจาก 2.89 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บางจากยิ้ม 6 แบงก์ ร่วมปล่อยกู้ 2.89 หมื่นล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์และขยายธุรกิจ ไทยพาณิชย์ ปล่อยกู้สูงสุด 60% อัตราดอกเบี้ยเป็นแบบดอกเบี้ยลอยตัว อ้างอิงดอกเบี้ยเงินกู้สกุลสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4% “กรรณิการ์” เผย เงินกู้ครั้งนี้ดันยอดปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ขยายตัวจาก 1 หมื่นล้าน เป็น 2 หมื่นล้าน คาดบางจากปิโตรเลียมเริ่มทำการเบิกใช้วงเงินในเดือนกรกฎาคมนี้

วานนี้ (2 ก.ค.) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก 6 สถาบันการเงิน ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY), ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB), ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB), ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร และ ธนาคารมิซูโฮ คอร์ปอเรต โดยเป็นการปล่อยกู้ร่วม (Syndycate Loans) วงเงิน 28,980 ล้านบาท

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า ธนาคารเป็นผู้นำในการปล่อยสินเชื่อให้กับ บริษัท บางจากปิโตรเลียม โดยเฉพาะในส่วนของธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อให้เป็นจำนวน 17,100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60% ของเงินที่ปล่อยกู้ทั้งหมด โดยสินเชื่อดังกล่าวมีอายุ 9 ปี อัตราดอกเบี้ยลอยตัวอ้างอิงดอกเบี้ยเงินกู้สกุลสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4% ทั้งนี้ คาดว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จะเริ่มทำการเบิกใช้วงเงินในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งการปล่อยสินเชื่อครั้งนี้ จะส่งผลให้สินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารจากต้นปีเติบโตเป็นกว่า 20,000 ล้านบาท จากเดิมที่โตอยู่ประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท

นายศรัณย์ทร ชุติมา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า การปล่อยกู้ครั้งนี้ ส่งผลให้ยอดสินเชื่อรายใหญ่ของธนาคารเพิ่มขึ้น 8,000-9,000 ล้านบาท และทำให้ยอดสินเชื่อรายใหญ่ในช่วง 5 เดือนแรก ปล่อยได้ 20,000 ล้านบาท จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 80,000-90,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นสุทธิ 40,000 ล้านบาท จากพอร์ตสินเชื่อรายใหญ่อยู่ที่ 250,000 ล้านบาท โดยเงินกู้เพื่อรีไฟแนนซ์บางจากจะเริ่มเบิกสินเชื่อในเดือน ก.ค.นี้

“แม้สินเชื่อรายใหญ่จากต้นปีจะเติบโตค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับเป้าหมายสินเชื่อรายใหญ่ทั้งปี แต่สินเชื่อรายใหญ่ที่เติบโตแล้วกว่า 20,000 ล้านบาท ถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน และมองว่าในครึ่งหลังปีนี้ก็ยังจะเติบโตได้”

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายในการบริหารด้านการเงินให้มีเสถียรภาพมากที่สุด เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และการขยายธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต ตลอดจนรองรับความผันผวนจากปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัท ทำให้บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างเงินกู้ระยะยาวจำนวน 28,980 ล้านบาท กับ 6 สถาบันดังกล่าว เพื่อให้มีโครงสร้างทางการเงิน สภาพคล่อง การบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสม และเป็นการสร้างเสถียรภาพค่าใช้จ่ายด้านอัตราดอกเบี้ย ต้นทุนการเงินในการดำเนินธุรกิจ

“การรีไฟแนนซ์เงินกู้ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจระยะยาวของบริษัทเพื่อรองรับโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน หรือ PQI ซึ่งจะทดลองเดินเครื่องในปลายปีนี้ และเตรียมความพร้อมโครงการลงทุนในอนาคตด้วย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มเสถียรภาพทางการเงิน ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง และมีเงื่อนไขการกู้ที่ดีกว่าเดิมทำให้บริษัทมีความคล่องตัวทางการเงินมากขึ้นด้วย อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันอีกด้วย” นายอนุสรณ์ กล่าว

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การที่บริษัทได้รับเงื่อนไขเงินกู้ที่ดีขึ้นนั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มธนาคารทั้ง 6 แห่ง มีความเชื่อมั่นต่อการบริหารงานและการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยได้ปรับสัญญาเงินกู้จาก Project Finance เป็น Corporate Finance ซึ่งมีเงื่อนไขในสัญญาเป็นรูปแบบเดียวกันกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือใกล้เคียง ซึ่งหมายถึงการมีเสถียรภาพทางการเงินที่ดีขึ้น ทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวขององค์กรตามที่วางไว้ โดยมุ่งหวังสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ผลิตและจำหน่ายปิโตรเลียมอย่างสอดคล้องและเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นผู้นำพลังงานทดแทน สร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศ

นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า เงินกู้ที่ได้รับการสนับสนุนจาก 6 สถาบันการเงินนั้น ประกอบด้วยสัญญาเงินกู้ระยะยาว 9 ปีวงเงิน 16,500 ล้านบาท สัญญาให้สินเชื่อหมุนเวียนและอื่นๆ วงเงิน 12,480 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น