กรุงไทยโกลบอลเทรเชอรี่ ฟันด์ 1( KTGT1) รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า จากการคงอัตราดอกเบี้ยของ กนง.อังกฤษและเฟด ดันผลตอบแทนเติบโตเพิ่ม ขณะเดียวกันรุกเพิ่มสภาพคล่องและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ากองKTGT1 โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และรับเงินในวันที่ T+2 เหมาะกับผู้ที่ส่งลูกหลานไปเรียนต่อในอังกฤษ การติดต่อธุรกิจในต่างแดน
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของประเทศอังกฤษ ได้มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันเงินเฟ้อภายในประเทศ โดยที่รัฐบาลของอังกฤษต้องการให้ตัวเลขเงินเฟ้อปรับลดลง แต่ในการประชุมดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า ไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์กัน
ขณะเดียวกัน ในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯมีการอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาว่ามีแนวโน้มชะลอตัว โดยที่ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2% แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม แต่หาก เฟด มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่ประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐมีการคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว นั้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยประกอบกับการไหลออกของเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยล่าสุดค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.20-33.55 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
นายธีรพันธุ์ ยังกล่าวต่อว่า จากภาวะดังกล่าวนี้ ทำให้กองทุน เปิดกรุงไทยโกลบอลเทรเชอรี่ ฟันด์ 1 ( KTGT1) ได้รับผลดีจากการที่เงินบาทอ่อนค่าลงรวมถึงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นด้วย เพราะเป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นการลงทุนในกองทุน Sterling Fund ภายใต้ Global Treasury Funds ที่บริหารกองทุนโดย RBS Asset management (Dublin) Limited
ขณะเดียวกัน นับตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และรับเงินในวันที่ T+2 จากเดิมซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการที่ 2 ของสัปดาห์ เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุน จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการส่งลูกหลานไปเรียนต่อในประเทศอังกฤษ การติดต่อธุรกิจในต่างประเทศ หรือเพื่อการออมเงินไว้ใช้จ่ายในอนาคต
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของกองทุน KTGT 1 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 จนถึง วันที่ 23 มิถุนายน 2551 กองทุนในต่างประเทศ Global Treasury Fund ของธนาคาร Royal Bank of Scotland มีผลตอบแทนประมาณ 0.41 % หากเทียบต่อปีอยู่ที่ 5.45-5.50 % ก่อนหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน นอกจากนี้กองทุนยังได้รับผลตอบแทนจากการอ่อนค่าลงของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินสกุลปอนด์สเตอริ่ง (GBP/THB ) อีกประมาณ 3.85 % โดย ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2551 โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย( NAV) อยู่ที่ 10.4335 บาท
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของประเทศอังกฤษ ได้มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันเงินเฟ้อภายในประเทศ โดยที่รัฐบาลของอังกฤษต้องการให้ตัวเลขเงินเฟ้อปรับลดลง แต่ในการประชุมดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า ไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์กัน
ขณะเดียวกัน ในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯมีการอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาว่ามีแนวโน้มชะลอตัว โดยที่ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2% แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม แต่หาก เฟด มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่ประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐมีการคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว นั้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยประกอบกับการไหลออกของเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยล่าสุดค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.20-33.55 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ
นายธีรพันธุ์ ยังกล่าวต่อว่า จากภาวะดังกล่าวนี้ ทำให้กองทุน เปิดกรุงไทยโกลบอลเทรเชอรี่ ฟันด์ 1 ( KTGT1) ได้รับผลดีจากการที่เงินบาทอ่อนค่าลงรวมถึงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นด้วย เพราะเป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นการลงทุนในกองทุน Sterling Fund ภายใต้ Global Treasury Funds ที่บริหารกองทุนโดย RBS Asset management (Dublin) Limited
ขณะเดียวกัน นับตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และรับเงินในวันที่ T+2 จากเดิมซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการที่ 2 ของสัปดาห์ เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ลงทุน จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการส่งลูกหลานไปเรียนต่อในประเทศอังกฤษ การติดต่อธุรกิจในต่างประเทศ หรือเพื่อการออมเงินไว้ใช้จ่ายในอนาคต
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนของกองทุน KTGT 1 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 จนถึง วันที่ 23 มิถุนายน 2551 กองทุนในต่างประเทศ Global Treasury Fund ของธนาคาร Royal Bank of Scotland มีผลตอบแทนประมาณ 0.41 % หากเทียบต่อปีอยู่ที่ 5.45-5.50 % ก่อนหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน นอกจากนี้กองทุนยังได้รับผลตอบแทนจากการอ่อนค่าลงของเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินสกุลปอนด์สเตอริ่ง (GBP/THB ) อีกประมาณ 3.85 % โดย ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2551 โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วย( NAV) อยู่ที่ 10.4335 บาท