xs
xsm
sm
md
lg

กรุงไทยชูผลตอบแทนKTGT1เร้าใจ ขายรอบใหม่3มิย.หลังIPOรับ51ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงไทยปิดไอพีโอ "กองทุนรวมกรุงไทยโกลบอล เทรเชอรี่ ฟันด์1" ยอดจองซื้อไม่หวือหวา ระดมทุนได้เพียง 51 ล้านบาท เตรียมเปิดขายรอบใหม่ 3 มิถุนายนนี้ หวังเปิดโอกาสกลุ่มลูกค้าที่ส่งลูกไปเรียนต่อเมืองนอก โดยเฉพาะอังกฤษจับจังหวะลงทุนระยะสั้น พร้อมกันนี้ เปิดทางเลือกลงทุนในประเทศ ลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐสั้นๆ 3 เดือน เปิดขายถึง 9 มิถุนายนนี้
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน
นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยโกลบอล เทรเชอรี่ ฟันด์1 (KTGT1) อีกครั้งในวันที่ 3 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป หลังจากที่เปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก(IPO) เมื่อวันที่ 7 - 20 พฤษภาคม 2551 โดยกองทุนสามารถระดมเงินลงทุนได้ประมาณ 51 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะไม่สูงมากนัก แต่ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งนับจากนี้บริษัทจะเร่งขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ส่งลูกไปเรียนต่อในประเทศอังกฤษ กลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินปอนด์ ซึ่งสามารถนำเงินมาลงทุนในระยะสั้นได้ โดยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการฝากเงินในประเทศ

โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Dollar Fund หรือ Sterling Fund หรือ Euro Fund ประเภทกองทุน รวมตลาดเงิน ภายใต้ Global Treasury Funds ที่บริหารกองทุนโดย RBS Asset management (Dublin) Limited โดยกองทุนจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในเบื้องต้นจะเน้นลงทุนใน Sterling Fund ซึ่งหลังจากได้ปิดจำหน่าย IPO และนำเงินไปลงทุนในกองทุนGlobal Treasury Fundsในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลตอบแทนโดยประมาณอยู่ที่ 5.50-5.65% ต่อปี ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุน

สำหรับสถานการณ์ตลาดเงินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐมีการแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ โดยค่าเงินปอนด์มีการอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่ค่าเงินบาทมีการอ่อนค่าลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยการอ่อนค่าลงตามภาวะตลาดเงินในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ จากวันที่กองทุนเริ่มลงทุนในวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 63.6057 บาทต่อปอนด์ และในวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 64.1780 บาท ส่งผลให้กองทุนได้รับส่วนต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 0.5723 บาท หรือประมาณ 0.90% กองทุนนี้เป็นกองทุนต่างประเทศที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายค่อนข้างสูง สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่เวลาเปิดทำการ ถึง 14.00 น. ของทุกวันทำการที่ 2 ของสัปดาห์ มูลค่าขั้นต่ำในการลงทุน 10,000 บาท ขึ้นไป

นายธีรพันธุ์กล่าวต่อว่า บริษัทยังเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น 38 ( KT3M38) ในระหว่างวันที่ 3-9 มิถุนายน 2551 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุ 3 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงินหรือ บัตรเงินฝากที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบัตรเงินฝาก ที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารข้างต้นเพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

โดยกองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ และต้องการลงทุนในกองทุนที่คุ้มครองเงินต้น พร้อมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3.10% ต่อปี ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน โดยปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารประจำ3 เดือนอยู่ที่ 2.00% ต่อปี และต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 15%
กำลังโหลดความคิดเห็น