บลจ.ไอเอ็นจี ต่อยอดความร่วมมือกับธนาคารทหารไทย คลอด 2 กองทุนใหม่ "ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1" กับ "ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1" เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ชูผลตอบแทนระหว่าง 3.30% และ 3.50% ตามลำดับ เตรียมเสนอขาย ไอพีโอพร้อมกัน 27 มิ.ย.- 3 ก.ค. นี้ หลัง 2 กองแรกประสบความสำเร็จตัวเลขยอดระดมทุนรวมกันถึง 3,000 ล้านบาท
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนผ่านธนาคารทหารไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 27 มิถุนายนถึง 3 กรกฎาคมนี้ บริษัทจะมีการนำเสนอกองทุนใหม่อีก 2 กองทุน ที่จะเป็นทางเลือกเพิ่มเติมและสร้างความหลากหลายให้กับนักลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 3M1 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1 ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 3M1และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1 จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศเป็นหลัก โดยตราสารดังกล่าวนั้นจะต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
โดย กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 3M1จะลงทุนในตราสารหนี้ ECP อายุประมาณ 3 เดือน ส่วนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1 จะลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งชาติประเทศเกาหลีใต้ และ/หรือตราสารหนี้ ECP ที่มีอายุประมาณ 6 เดือน
“เรายังคงเลือกกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ เพื่อที่จะนำเสนอขายผ่านธนาคารทหารไทย เพราะนอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกับเงินฝากธนาคาร ซึ่งเหมาะกับลูกค้าแบงก์แล้ว ในภาวการณ์เช่นนี้ กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นยังเหมาะสำหรับการลงทุน เพื่อพักเงินในช่วงสั้นๆ รอให้ทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยคาดว่า ผลตอบแทนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 3M1 จะอยู่ในราว 3.30% ส่วนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1จะอยู่ที่ประมาณ 3.50%” นายจุมพล กล่าว
นายจุมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ บริษัทได้เสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 ผ่านธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าธนาคารและประชาชนผู้สนใจเป็นอย่างดี และนับเป็นความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างเครือไอเอ็นจีและธนาคารทหารไทย
"ผลลัพท์ที่ออกมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างธนาคารทหารไทยและบลจ.ไอเอ็นจี ถือว่าน่าพอใจมาก โดยในช่วงเวลาเพียงประมาณ 2 สัปดาห์ที่กองทุนของไอเอ็นจีสามารถขายผ่านช่องทางของสาขาธนาคาร พบว่ามียอดเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จที่ดีในขั้นแรกที่เริ่มต้นทำงานร่วมกัน" นายจุมพล กล่าว
จากข้อมูลหนังสือชี้ชวนการลงทุนพบว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 ที่ได้มีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนไปก่อนหน้านี้ เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้เช่นเดียวกัน โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยตราสารส่วนใหญ่จะมีอายุการลงทุนประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะเหมาะกับผู้ต้องการแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
ส่วนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 นั้น มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง หรือ Structured Note หรือ Credit Link Note ที่ออกโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน หรือสถาบันการเงินในต่างประเทศ อายุประมาณ 12 เดือน
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เดินหน้าเสนอขายหน่วยลงทุนผ่านธนาคารทหารไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในระหว่างวันที่ 27 มิถุนายนถึง 3 กรกฎาคมนี้ บริษัทจะมีการนำเสนอกองทุนใหม่อีก 2 กองทุน ที่จะเป็นทางเลือกเพิ่มเติมและสร้างความหลากหลายให้กับนักลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 3M1 และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1 ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 3M1และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1 จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศเป็นหลัก โดยตราสารดังกล่าวนั้นจะต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
โดย กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 3M1จะลงทุนในตราสารหนี้ ECP อายุประมาณ 3 เดือน ส่วนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1 จะลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งชาติประเทศเกาหลีใต้ และ/หรือตราสารหนี้ ECP ที่มีอายุประมาณ 6 เดือน
“เรายังคงเลือกกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ เพื่อที่จะนำเสนอขายผ่านธนาคารทหารไทย เพราะนอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกับเงินฝากธนาคาร ซึ่งเหมาะกับลูกค้าแบงก์แล้ว ในภาวการณ์เช่นนี้ กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นยังเหมาะสำหรับการลงทุน เพื่อพักเงินในช่วงสั้นๆ รอให้ทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยคาดว่า ผลตอบแทนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 3M1 จะอยู่ในราว 3.30% ส่วนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 6M1จะอยู่ที่ประมาณ 3.50%” นายจุมพล กล่าว
นายจุมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ บริษัทได้เสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 ผ่านธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าธนาคารและประชาชนผู้สนใจเป็นอย่างดี และนับเป็นความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างเครือไอเอ็นจีและธนาคารทหารไทย
"ผลลัพท์ที่ออกมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างธนาคารทหารไทยและบลจ.ไอเอ็นจี ถือว่าน่าพอใจมาก โดยในช่วงเวลาเพียงประมาณ 2 สัปดาห์ที่กองทุนของไอเอ็นจีสามารถขายผ่านช่องทางของสาขาธนาคาร พบว่ามียอดเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จที่ดีในขั้นแรกที่เริ่มต้นทำงานร่วมกัน" นายจุมพล กล่าว
จากข้อมูลหนังสือชี้ชวนการลงทุนพบว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 ที่ได้มีการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนไปก่อนหน้านี้ เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้เช่นเดียวกัน โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยตราสารส่วนใหญ่จะมีอายุการลงทุนประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะเหมาะกับผู้ต้องการแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
ส่วนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 นั้น มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง หรือ Structured Note หรือ Credit Link Note ที่ออกโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน หรือสถาบันการเงินในต่างประเทศ อายุประมาณ 12 เดือน