xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มเอฟซีโพรฟิต10 พรีเมี่ยม ตั้งเป้าหมาย1ปีสร้างผลตอบแทน10%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในช่วงสองถึงสามสัปดาห์าที่ผ่านมา ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยถือว่าประสบกับความผันผวนค่อนข้างมาก สาเหตุหลักๆ มาจากปัจจับลบทั้งในประเทศและต่่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ ดัชนีที่เคยอยู่ในระดับกว่า 830 จุด ก็ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 730-740 จุด ซึ่งต่ำกว่าดัชนี 750 จุดที่นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์เอาไว้

ซึ่งความผันผวนนี้เอง อาจจะส่งผลให้นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นหรือกองทุนหุ้นเอง หากปรับพอร์ตไม่ทันอาจจะต้องเจ็บตัวไปตามๆ กัน...แต่ในช่วงวิกฤตก็เป็นโอกาสเช่นกัน เพราะดัชนีหุ้นปรับลดลงมาค่อนข้างมาก โอกาสดีดกลับมาค่อนข้างสูง ในทางกลับกันก็มีโอกาสขยับลงไปอีกด้วย ดังนั้น กลยุทธ์ในการลงทุนภายใต้ความผันเช่นนี้ การมีเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจึงเป็นกลยุทธ์ที่น่าจะเหมาะสม

"Mutualfund IPO" ฉบับนี้ มีทางเลือกที่สอดคล้องกับสถานกานณ์ที่กล่าวมามานำเสนอกัน นั่นคือ "กองทุนรวมเอ็มเอฟซีโพรฟิต10 พรีเมี่ยม" ของบลจ.เอ็มเอฟซี ซึ่งกองทุนดังกล่าวมาในรูปแบบของกองทุน Target Fund ที่มีการกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนชัดเจน ขณะเดียวกัน มีการนำอนุพันธ์เข้ามาเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้วย...
พิชิต อัคราทิตย์
พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) บอกว่า จากการที่เอ็มเอฟซีเป็น ผู้ริเริ่มนำกองทุน Target Fund มาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ ผู้ถือหน่วยลงทุนมาโดยตลอด มาในปีนี้บริษัทได้พัฒนานวัตกรรมการลงทุนสำหรับกองทุน Target Fund ด้วยการเปิดขายกองทุนรวมเอ็มเอฟซีโพรฟิต10 พรีเมี่ยม (PRO10 Premium) เป็นทางเลือกให้นักลงทุนอีกครั้ง โดยจะเปิดขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 18-25 มิถุนายนนี้

"PRO10 Premium" เป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน ลงทุนได้ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้ ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาทกองทุนรวม PRO10 Premium จะเป็นกองทุน Target Fund กองทุนแรกที่จะสร้างโอกาสทำกำไรทั้งในช่วงตลาดหุ้นขาขึ้นและขาลงด้วยการลงทุนในตราสารอนุพันธ์(Derivatives) โดยลงทุนใน SET50 Index Futures ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญของกองทุนที่แตกต่างไปจากกองทุนเดิมที่กำหนดเป้าหมายผลตอบแทนของบริษัท

จุดเด่นของกองทุนรวม PRO10 Premium คือ เน้นลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง เพื่อสามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที นอกจากนี้กองทุนยังมีความยืดหยุ่นสูง โดยสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้เมื่อคาดว่าราคาหลักทรัพย์มีแนวโน้มจะลดลง และกองทุนยังมีโอกาสรับผลตอบแทนมากขึ้นจากการทำกำไรได้ทั้งในกรณีดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น โดยเข้าไปทำฐานะซื้อ (Long Position) และทำฐานะขาย (Short Position) ในกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ กองทุนรวม PRO10 Premium สามารถเลิกกองทุนทันทีไม่ต้องรอครบอายุกองทุน เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.20 บาท เป็นเวลา 5วันทำการติดต่อกัน หรือทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท ณ วันทำการใดๆ และมูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า11 บาท หรืออีกนัยหนึ่งเลิกกองทุนเมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของเงินทุน และผู้ถือหน่วยลงทุนรายย่อยจะได้รับการยกเว้นภาษีของกำไรส่วนเกินมูลค่าหน่วยลงทุน

"กองทุนรวม PRO10 Premium เหมาะสำหรับผู้ที่คาดหวังโอกาสได้รับผลตอบแทนจากมูลค่าเพิ่มของการลงทุน (Capital Gain) ผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนโดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในระดับปานกลางถึงสูง และต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงจากการลงทุนในตลาดหุ้น"
ศุภกร สุนทรกิจ
ศุภกร สุนทรกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บลจ. เอ็มเอฟซี บอกว่า กองทุนนี้มีโอกาสทำกำไรได้ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง เพราะกองทุนสามารถแบ่งเงินไม่เกิน 25% ของกองทุน ไปลงทุนใน SET50 Index Futures โดยทำฐานะซื้อ (Long Position) ในกรณีดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น และทำฐานะขาย (Short Position) กรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับลดลง

“จากที่คาดไว้เมื่อเดือนก่อนว่า หุ้นจะตกจากสถานการณ์ทางการเมือง จึงตั้งกองทุนขึ้นมาดักรอซื้อตอนหุ้นตก และที่ดัชนีระดับ 760 จุด ถือเป็นจังหวะซื้อ เราเชื่อว่าจังหวะนี้เหมาะสม เพราะถ้ารอไปซื้อตอนหุ้นขึ้นจะไม่ทัน และถ้าดัชนีขึ้นมาที่ 800-850 จุด กองทุนก็ จะสามารถให้ผลตอบแทนตามที่ ตั้งเป้าหมายไว้ได้ และที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10% เพราะอยากให้ได้ผลตอบแทนเร็วๆ สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ”

ศุภกร ระบุว่า ทิศทางธุรกิจกองทุนรวมในครึ่งหลังของปีนี้ บลจ.จะหาช่องทางการลงทุนที่หลากหลายให้กับนักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ตราสารอนุพันธ์เข้ามาช่วยป้องกันความเสี่ยงและเพิ่มอัตราผลตอบแทน ซึ่งกองทุนนี้ ถือเป็นกองทุนที่สอดคล้องกับการลงทุนที่ค่อนข้างผันผวนในช่วงนี้ด้วย

ทั้งนี้ จากการบริหารกองทุนประเภท Target Fund ที่ผ่านมา เอ็มเอฟซีประสบความสำเร็จจากการบริหารกองทุนดังกล่าวโดยสามารถถึงเป้าหมายผลตอบแทนที่กำหนด และปิดกองทุนได้ก่อนครบอายุกองทุนดังนี้ กองทุนรวมเอ็มเอฟซี สปอท ให้ผลตอบแทนร้อยละ 27 กองทุนรวมเอ็มเอฟซีสปอท สอง ให้ผลตอบแทนร้อยละ 25.5 กองทุนรวมเอ็มเอฟซี สปอท สาม ให้ผลตอบแทนร้อยละ 25.8 กองทุนรวมเอ็มเอฟซีโพรฟิต 10 ให้ผลตอบแทนร้อยละ 11 และกองทุนรวมเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล สปอท ให้ผลตอบแทนร้อยละ 25

นักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมเอ็มเอฟซีโพรฟิต 10 พรีเมี่ยม (PRO10 Premium) สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Call Center กด 0 หรือที่www.mfcfund.com
กำลังโหลดความคิดเห็น