ธนาคารทหารไทยไฟเขียวสาขาแบงก์ขายกองทุนรวมทุกประเภทให้ไอเอ็นจี 12 มิ.ย.นี้ ประเดิมสินค้าใหม่ "ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 และ ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1" เน้นลงทุนตราสารหนี้ เอาใจลูกค้าชอบความเสี่ยงต่ำ คาดการณ์ผลตอบแทน 3.1% และ 4.1% ตามลำดับ ไอพีโอ 12-20 มิ.ย.51
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารทหารไทยได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มไอเอ็นจีตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ธนาคารมีความพร้อมแล้วในการให้บริการเสนอขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ ในวันที่ 12 มิถุนายน 2551 จะนับเป็นครั้งแรกของการเสนอขายกองทุนรวมทั่วไป ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ผ่านเครือข่ายสาขาของธนาคารทหารไทย และนอกจากกองทุนรวมแล้วยังมีผลิตภัณฑ์อื่นที่ครบวงจรนอกเหนือจากกองทุนรวมคือ การให้บริการด้าน กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรอองเลี้ยงชีพอีกด้วย
“การผนึกกำลังระหว่างธนาคารทหารไทยและกลุ่มไอเอ็นจี นอกจากจะเป็นการขยายฐานลูกค้า และเครือข่ายการบริการแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กองทุนรวมของ บลจ.ไอเอ็นจี ที่มีความหลากหลาย ซึ่งจะทำให้ธนาคารทหารไทยเป็นทางเลือกในการลงทุนที่โดดเด่นสำหรับลูกค้า เนื่องจากธนาคารจะมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า” นาย สุภัค กล่าว
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่บลจ.จะนำมาเสนอขายภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารทหารไทยเป็นครั้งแรกประกอบไปด้วย กองทุนรวมทุกประเภท ขณะเดียวกันจะมีการออกกองทุนใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 กองทุน คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 โดยทั้ง 2 กองทุนจะเสนอขายหน่วยลงทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมกันในระหว่างวันที่ 12-20 มิถุนายน 2551
"ทั้ง 2 กองทุนเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีการกำหนดอายุการลงทุนแน่นอน โดยจะออกเป็นชุดต่อเนื่องทั้งแบบ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดการลงทุน ภายใต้ชื่อในกลุ่มกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม " นายมาริษ กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยตราสารส่วนใหญ่จะมีอายุการลงทุนประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะเหมาะกับผู้ต้องการแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก โดยประมาณการณ์ผลตอบแทนจะไม่ต่ำกว่า 3.1% ต่อปี
ด้านกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 นั้น มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง หรือ Structured Note หรือ Credit Link Note ที่ออกโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน หรือสถาบันการเงินในต่างประเทศ อายุประมาณ 12 เดือน โดยประมาณการณ์ผลตอบแทนจะอยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 4.1% ต่อปี
อย่างไรก็ตามเมื่อทั้ง 2 กองทุนครบอายุโครงการ บริษัทจัดการจะทำการย้ายเงินลงทุนจากกองทุนทั้งสองเข้ากองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเม้นท์ โดยอัตโนมัติ โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดเงิน ซึ่งเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ที่มีความมั่นคงและมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ขณะเดียวกันกองทุนมีอัตราผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้ง 3.17% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ซึ่งอยู่ที่ 2.35%
"ก่อนหน้านี้ บลจ.ไอเอ็นจี ได้จัดโครงการ TMB Powering Ahead with ING ซึ่งเป็นโครงการอบรม การเป็นตัวแทนขายกองทุนรวม ของ ไอเอ็นจี ให้กับสำนักงานภาคธุรกิจของธนาคารทหารไทย ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจในผลิตภัณฑ์การลงทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี ซึ่งปรากฏว่า ได้รับความสนใจและการตอบรับจากพนักงานธนาคารเป็นอย่างดี ทำให้เชื่อมั่นว่า การเสนอขายกองทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี จะสามารถกระจายออกไปได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ จะมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษรับฟรีสิงโตออมทรัพย์ กองทุนรวมไอเอ็นจี เมื่อซื้อผ่านธนาคารทหารไทยทุกสาขา"นายมาริษ กล่าว
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารทหารไทยได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกลุ่มไอเอ็นจีตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ธนาคารมีความพร้อมแล้วในการให้บริการเสนอขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ ในวันที่ 12 มิถุนายน 2551 จะนับเป็นครั้งแรกของการเสนอขายกองทุนรวมทั่วไป ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ผ่านเครือข่ายสาขาของธนาคารทหารไทย และนอกจากกองทุนรวมแล้วยังมีผลิตภัณฑ์อื่นที่ครบวงจรนอกเหนือจากกองทุนรวมคือ การให้บริการด้าน กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรอองเลี้ยงชีพอีกด้วย
“การผนึกกำลังระหว่างธนาคารทหารไทยและกลุ่มไอเอ็นจี นอกจากจะเป็นการขยายฐานลูกค้า และเครือข่ายการบริการแล้ว ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กองทุนรวมของ บลจ.ไอเอ็นจี ที่มีความหลากหลาย ซึ่งจะทำให้ธนาคารทหารไทยเป็นทางเลือกในการลงทุนที่โดดเด่นสำหรับลูกค้า เนื่องจากธนาคารจะมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า” นาย สุภัค กล่าว
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่บลจ.จะนำมาเสนอขายภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารทหารไทยเป็นครั้งแรกประกอบไปด้วย กองทุนรวมทุกประเภท ขณะเดียวกันจะมีการออกกองทุนใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 กองทุน คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 โดยทั้ง 2 กองทุนจะเสนอขายหน่วยลงทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมกันในระหว่างวันที่ 12-20 มิถุนายน 2551
"ทั้ง 2 กองทุนเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีการกำหนดอายุการลงทุนแน่นอน โดยจะออกเป็นชุดต่อเนื่องทั้งแบบ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดการลงทุน ภายใต้ชื่อในกลุ่มกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม " นายมาริษ กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม ไพร์ม 3M1 มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยตราสารส่วนใหญ่จะมีอายุการลงทุนประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะเหมาะกับผู้ต้องการแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก โดยประมาณการณ์ผลตอบแทนจะไม่ต่ำกว่า 3.1% ต่อปี
ด้านกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทีเอ็ม พรีเมี่ยม 12M1 นั้น มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง หรือ Structured Note หรือ Credit Link Note ที่ออกโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน หรือสถาบันการเงินในต่างประเทศ อายุประมาณ 12 เดือน โดยประมาณการณ์ผลตอบแทนจะอยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 4.1% ต่อปี
อย่างไรก็ตามเมื่อทั้ง 2 กองทุนครบอายุโครงการ บริษัทจัดการจะทำการย้ายเงินลงทุนจากกองทุนทั้งสองเข้ากองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเม้นท์ โดยอัตโนมัติ โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดเงิน ซึ่งเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ที่มีความมั่นคงและมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ขณะเดียวกันกองทุนมีอัตราผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้ง 3.17% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ซึ่งอยู่ที่ 2.35%
"ก่อนหน้านี้ บลจ.ไอเอ็นจี ได้จัดโครงการ TMB Powering Ahead with ING ซึ่งเป็นโครงการอบรม การเป็นตัวแทนขายกองทุนรวม ของ ไอเอ็นจี ให้กับสำนักงานภาคธุรกิจของธนาคารทหารไทย ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจในผลิตภัณฑ์การลงทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี ซึ่งปรากฏว่า ได้รับความสนใจและการตอบรับจากพนักงานธนาคารเป็นอย่างดี ทำให้เชื่อมั่นว่า การเสนอขายกองทุนของ บลจ.ไอเอ็นจี จะสามารถกระจายออกไปได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ จะมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษรับฟรีสิงโตออมทรัพย์ กองทุนรวมไอเอ็นจี เมื่อซื้อผ่านธนาคารทหารไทยทุกสาขา"นายมาริษ กล่าว
