xs
xsm
sm
md
lg

บัวหลวง-พรีมาเวสท์ขายกองบอนด์ เพิ่มทางเลือกนักลงทุนตลอดมิ.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.เดินหน้าส่งกองทุนตราสารหนี้ลุยตลาดอย่างต่อเนื่อง "บัวหลวง" เปิดขาย 3 กองทุน กระจายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุดโดดลงทุนตั๋ว ECP อีกครั้งให้ผลตอบแทน 3.30% ต่อปี ด้าน "พรีมาเวสท์" ขายกองทุนพันธบัตรในประเทศอายุ 1 ปี ให้ยิลด์จูงใจ 3.70% ต่อปี
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดขายกองทุนตราสารหนี้เพิ่มอีก 3 กองทุน ประกอบไปด้วย กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 30/08 มีอายุโครงการ 5-7 เดือน กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 31/08 อายุโครงการ 10-12 เดือน โดยมีมูลค่าโครงการละ 3,000 ล้านบาท และกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 16/08 ซึ่งมีอายุโครงการ 4-6 เดือน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดขายพร้อมกันในวันที่ 17 – 23 มิถุนายน 2551 นี้

ทั้งนี้ กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 30/08 และกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 31/08 เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวออกโดยออกโดยภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และ/หรือสถาบันการเงิน ซึ่งผู้ออกหรือตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ตั้งแต่ A- ขึ้นไป ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นทั้งในและต่างประเทศ

โดยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives contract) เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราหรือความเสี่ยงอื่นใดที่เกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note)

นายวศินกล่าวว่า สำหรับกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 30/08 จะเข้าไปลงทุนในตราสาร ECP สถาบันการเงินในยุโรป ที่มีการจัดอันดับเรตติ้งตั้งแต่ AA- ขึ้นไป ซึงกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนประมาณการอยู่ที่ 3.30% ต่อปี ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 31/08 มีนโยบายการลงทุนในตราสารหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจในเกาหลีใต้ ซึ่งกองทุนจะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 4.10%ต่อปี

“สาเหตุที่กองทุนหนึ่งลงทุนใน ECP และอีกกองทุนลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ เนื่องจากว่าจะได้ให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากยิ่งขึ้น อีกการลงทุนใน ECP ขณะนี้สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า การลงทุนในพันธบัตรเกาหลีด้วย อย่างไรก็ตามการลงทุนเกาหลีก็ยังได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอยู่เช่นเคย” นายวศินกล่าว

ส่วนกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 16/08 มีอายุโครงการ 4-6 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 3.1% ต่อปี ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง หรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝาก บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตราสารแห่งหนี้ของสถาบันการเงิน และหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นด้วยการทำ ธุรกรรมการซื้อตราสารแห่งหนี้ภาครัฐกับสถาบันการเงิน โดยมีสัญญาที่จะขายคืนตราสารแห่งหนี้ดังกล่าวตามวันที่กำหนดในสัญญา ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายนนี้ บลจ.พรีมาเวสท์จะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนประเภทคุ้มครองเงินต้น จำนวน 1 กองทุน คือ “กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 15 หรือ KPG15” ที่มีระยะเวลาการลงทุนประมาณ 1 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำ และต้องการได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ดีกว่า

ทั้งนี้ พรีมาเวสท์ ยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำ และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน ที่ต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ พรีมาเวสท์ จึงส่งกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น 15 ออกมาเสนอขายแก่ผู้ลงทุน โดยนโยบายการลงทุนของกองทุน KPG15 จะลงทุน 100 % ในพันธบัตรรัฐบาล รุ่น CB09618A โดยผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนคาดว่าจะได้รับ 4.10% ต่อปี ซึ่งภายหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 0.40% ต่อปี ประมาณผลตอบแทนที่กองทุนจะได้รับคือ 3.70% ต่อปี ซึ่งผู้ลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนได้ระหว่างวันที่ 20-25 มิถุนายนนี้เท่านั้น เงินลงทุนขั้นต่ำ 50,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น