เนื่องจากปัจจุบันนี้ เศรษฐกิจบ้านเรากำลังประสบกับช่วงเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นจนถึง 7.6 % ซึ่งถือได้ว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกในอนาคตข้างหน้านี้ ซึ่งจากสภาวะเงินเฟ้อที่คงอยู่ ณ ปัจจุบันนี้เอง ส่งผลให้นักลงทุนต่างมองหาวิธีการลงทุนที่จะสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้
นักลงทุนที่ต้องการหนีสถานการณ์ดังกล่าว การลงทุนในหุ้นถือเป็นทางเลือกอันดับแรกที่ตอบโจทย์การลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อได้ ขณะเดียวกัน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจเช่นกัน เนื่องจากการลงทุนประเภทนี้ มักจะได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ เพราะจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน...แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สำหรับนักลงทุนทั่วๆ ไป อาจจะค่อนข้างลำบาก ดังนั้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
คอลัมน์ "Best of Fund" วันนี้ จะพานักลงทุนไปดูผลการดำเนินงานของ "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์" ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา ว่ากองทุนใดสามารถให้ผลตอบแทนสูงสุด เพื่อเป็นข้อมูลให้บรรดานักลงทุนได้พิจารณาหรือเลือกลงทุน
สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพท์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดมาเป็นอันดับ 1 คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา ภายใต้การบริหารของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 797.41 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 12.73% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 9.72% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 13.57% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 0.00 %อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย)โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 6,319.92 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.92%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.60% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 7.57% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 12.53 %
อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 980.96 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.18% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.77% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.96% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 7.19 % อันดับ4 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 4,941.32ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.66%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.51% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 5.62% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 11.29 %
อันดับ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ภายใต้การบริหารของ บลจ.นครหลวงไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 11,342.73 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.44%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.09% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 4.84% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 7.66 % อันดับ 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 914.35 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.15% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.95% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 4.76% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 10.94%
อันดับ 7 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 8,560.79 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.06% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.95% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.28% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 14.00 % อันดับ 8 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 2,718.76 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.76% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.80% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 20.83% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 0.00 %
อันดับ 9 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลี่ยนแมร์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.วรรณ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 2,302.25 ล้านบาทให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.83%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.44 % มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.53% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 7.33 % และอันดับ 10 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท ภายใต้การบริหารของ บลจ.ทหารไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 11,273.14 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.80% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.39% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.53% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 8.43 %
เปิดกลยุทธ์การลงทุน
วรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด ได้เล่าให้ฟังว่าเกี่ยวกับ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานานั้นว่า เป็นกองทุนที่มีศักภาพสูง โดยเป็นการลงทุนในรูปของเซอร์วิสส์อพาร์ทเม้นท์ อีกทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้งหรือรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก
โดยทั่วไปแล้ว รูปแบบของอพาร์ทเมนท์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะเป็นในลักษณะห้องใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะและมีขนาด 2 ห้องนอน ซึ่งราคาค่าเช่าห้องกลับถูกลงมา แต่สำหรับโครงการของเรานั้นจะเน้นแบบเป็นสตูดิโอที่มี 1 ห้องนอนเป็นหลัก ถึงแม้ห้องจะมีขนาดเล็ก แต่ราคาเช่ากลับสูงขึ้น อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นในเรื่องโลเคชั่น โปรดักส์ ที่สามารถตอบโจทย์ของที่อยู่อาศัยได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ในขณะนี้
ขณะเดียวกัน ในส่วนของทำเลที่ตั้ง ทางเราจะเน้นย่านใจกลางเมืองหรือศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ เช่นบริเวณสีลม สุขุมวิท สาธร เพลินจิต หลังสวน เป็นต้น
ดังนั้น ในการลงทุนของเราจะเริ่มตั้งแต่การพิจารณาว่า อสังหาริมทรัพย์ที่เราจะเลือกลงทุน มีโลเคชั่นเป็นอย่างไร อีกทั้ง ต้องมีมูลค่าการลงทุนที่สมเหตุสมผล เหมือนกับเวลาที่เราเลือกผู้หญิงแต่งงาน เราจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่เราจะตัดสินใจแต่งงาน ซึ่งทุกวันนี้ผลตอบแทนของกองทุนเออร์บานาก็อยู่ในระดับค่อนข้างดี
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา หรือ Urbana Property Fund (Lease hold) (URBNPF) เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งลงทุนในสิทธิการเช่าในโครงการ เออร์บานา หลังสวน โดยมีนโยบายที่จะดำเนินการหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่กองทุนรวมเข้าลงทุนครั้งแรก โดยนำพื้นที่ทั้งหมดที่กองทุนรวมลงทุนให้บริษัท เออร์บานา เอสเตท จำกัด เช่าช่วง และกองทุนรวมจะได้รับรายได้ในรูปของค่าเช่าซึ่งจะชำระเป็นรายเดือน สำหรับการลงทุนในอนาคต บริษัทจัดการจะมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จำกัด (มหาชน) และ/หรือกลุ่มบุคคลเดียวกันมีกรรมสิทธิ์และ/หรือสิทธิครอบครองสินทรัพย์ โดยกองทุนเข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2550 ด้วยเงินทุนโครงการที่จดทะเบียนครั้งแรก 720 ล้านบาท
นักลงทุนที่ต้องการหนีสถานการณ์ดังกล่าว การลงทุนในหุ้นถือเป็นทางเลือกอันดับแรกที่ตอบโจทย์การลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อได้ ขณะเดียวกัน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจเช่นกัน เนื่องจากการลงทุนประเภทนี้ มักจะได้รับอานิสงส์จากการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ เพราะจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน...แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สำหรับนักลงทุนทั่วๆ ไป อาจจะค่อนข้างลำบาก ดังนั้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
คอลัมน์ "Best of Fund" วันนี้ จะพานักลงทุนไปดูผลการดำเนินงานของ "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์" ในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา ว่ากองทุนใดสามารถให้ผลตอบแทนสูงสุด เพื่อเป็นข้อมูลให้บรรดานักลงทุนได้พิจารณาหรือเลือกลงทุน
สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพท์ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดมาเป็นอันดับ 1 คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา ภายใต้การบริหารของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 797.41 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 12.73% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 9.72% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 13.57% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 0.00 %อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย)โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 6,319.92 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.92%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.60% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 7.57% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 12.53 %
อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 980.96 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.18% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.77% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.96% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 7.19 % อันดับ4 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 4,941.32ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.66%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.51% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 5.62% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 11.29 %
อันดับ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ภายใต้การบริหารของ บลจ.นครหลวงไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 11,342.73 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.44%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.09% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 4.84% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 7.66 % อันดับ 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 914.35 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.15% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.95% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 4.76% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 10.94%
อันดับ 7 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 8,560.79 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.06% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.95% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.28% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 14.00 % อันดับ 8 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ไลฟ์สไตล์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 2,718.76 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 3.76% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.80% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 20.83% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 0.00 %
อันดับ 9 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลี่ยนแมร์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.วรรณ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 2,302.25 ล้านบาทให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.83%ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.44 % มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.53% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 7.33 % และอันดับ 10 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท ภายใต้การบริหารของ บลจ.ทหารไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 11,273.14 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.80% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.39% มีผลแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.53% และมีผลการตอบตอบย้อนหลัง 12 เดือนอยู่ที่ 8.43 %
เปิดกลยุทธ์การลงทุน
วรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด ได้เล่าให้ฟังว่าเกี่ยวกับ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานานั้นว่า เป็นกองทุนที่มีศักภาพสูง โดยเป็นการลงทุนในรูปของเซอร์วิสส์อพาร์ทเม้นท์ อีกทั้งในเรื่องของทำเลที่ตั้งหรือรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก
โดยทั่วไปแล้ว รูปแบบของอพาร์ทเมนท์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะเป็นในลักษณะห้องใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะและมีขนาด 2 ห้องนอน ซึ่งราคาค่าเช่าห้องกลับถูกลงมา แต่สำหรับโครงการของเรานั้นจะเน้นแบบเป็นสตูดิโอที่มี 1 ห้องนอนเป็นหลัก ถึงแม้ห้องจะมีขนาดเล็ก แต่ราคาเช่ากลับสูงขึ้น อีกทั้งไม่ว่าจะเป็นในเรื่องโลเคชั่น โปรดักส์ ที่สามารถตอบโจทย์ของที่อยู่อาศัยได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ในขณะนี้
ขณะเดียวกัน ในส่วนของทำเลที่ตั้ง ทางเราจะเน้นย่านใจกลางเมืองหรือศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ เช่นบริเวณสีลม สุขุมวิท สาธร เพลินจิต หลังสวน เป็นต้น
ดังนั้น ในการลงทุนของเราจะเริ่มตั้งแต่การพิจารณาว่า อสังหาริมทรัพย์ที่เราจะเลือกลงทุน มีโลเคชั่นเป็นอย่างไร อีกทั้ง ต้องมีมูลค่าการลงทุนที่สมเหตุสมผล เหมือนกับเวลาที่เราเลือกผู้หญิงแต่งงาน เราจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่เราจะตัดสินใจแต่งงาน ซึ่งทุกวันนี้ผลตอบแทนของกองทุนเออร์บานาก็อยู่ในระดับค่อนข้างดี
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา หรือ Urbana Property Fund (Lease hold) (URBNPF) เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งลงทุนในสิทธิการเช่าในโครงการ เออร์บานา หลังสวน โดยมีนโยบายที่จะดำเนินการหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่กองทุนรวมเข้าลงทุนครั้งแรก โดยนำพื้นที่ทั้งหมดที่กองทุนรวมลงทุนให้บริษัท เออร์บานา เอสเตท จำกัด เช่าช่วง และกองทุนรวมจะได้รับรายได้ในรูปของค่าเช่าซึ่งจะชำระเป็นรายเดือน สำหรับการลงทุนในอนาคต บริษัทจัดการจะมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จำกัด (มหาชน) และ/หรือกลุ่มบุคคลเดียวกันมีกรรมสิทธิ์และ/หรือสิทธิครอบครองสินทรัพย์ โดยกองทุนเข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2550 ด้วยเงินทุนโครงการที่จดทะเบียนครั้งแรก 720 ล้านบาท