สังคมกองทุนรวม "ผู้จัดการรายวัน" ฉบับประจำวันพุธที่ 18 มิถุนายน 2551

จากงานสัมนาเรื่อง Gold Futures จัดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ ทาง กลต.ได้ไฟเขียวแล้วที่จะให้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำได้ ก็ไม่รู้ว่าหลังจากมีข่าวนี้ออกไป ทาง บลจ.ต่างๆเริ่มมีการกระดิกพลิกตัวในการหาช่องทางเอาทองคำมาลงทุนกันอย่างไรบ้าง เพราะกองทุนในต่างประเทศทั้งหลายนั้น ดูเหมือนว่าจะมีการลงทุนในทองคำเก็บไว้ในพอร์ตการลงด้วย และอีกอย่างตอนนี้ตลาดหุ้นไทยยังร้อนๆ อยู่ นักลงทุนคงพักเงินลงทุนบางส่วนมาลงที่ทองคำกันมากเลยทีเดียว /// ขณะที่ การลงทุนในบอนด์เกาหลีใต้ ตอนนี้หลาย บลจ. มีข่าวการลงทุนใน บอนด์เกาหลี ของตนเองออกมาอย่างต่อเนื่องเรียกได้ว่า หน้ากองทุนรวมของ "หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ" ถูกยึดครองไปด้วยข่าวความเคลื่อนไหวของบอนด์กิมจิของ บลจ. ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บลจ.กรุงไทย บลจ.ไอเอ็นจี รวมถึง ค่ายทหารไทย ด้วย แสดงว่ากระแสการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้นี่ดีจริงๆ/// มากันที่เรื่องของภาวะเงินเฟ้อในช่วงเวลานี้ที่เป็นผลมาจากราคานํ้ามันในโลกใบนี้ที่ขยับสูงๆ ผู้จัดการกองทุน อย่าง วสุ สุทธิพงษ์ แห่ง บลจ. แอสเซทพลัส ก็ออกมาชี้ว่า ภาวะเงินเฟ้อขณะนี้เป็นการกดดันให้แบงก์ชาติของประเทศต่างๆ ต้องหันมาใช้นโยบายทางการเงินมากยิ่งขึ้น ส่วนประเทศไทยนั้น ถ้าราคานํ้ามันอยู่ที่ 140 เหรียญ/บาร์เรล เงินเฟ้ออาจไปถึง 5%ได้เลย รวมถึง คำแนะนำจาก **วิชชุ จันทาทับ** จาก บลจ.ไทยพาณิชย์ ที่บอกว่าเงินเฟ้อที่ยังไม่นิ่งในตอนนี้ นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์กับกลุ่มอสังหาฯควรติดตามสถานการณ์เพราะยังได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้ออยู่ ///ตกหมายกันอีกแล้วครับท่าน หลังจากพีอาร์ บลจ.วรรณ ไม่ยอมส่งหมายมาที่ นสพ.รายวันหลายฉบับ แต่กลับส่งไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเท่านั้น เนื่องจากเข้าใจว่านักข่าวสายกองทุนรวมคงได้รับหมายกันทั้งหมด เล่นเอานักข่าวที่ไม่ได้ประจำที่ตลาดหลักทรัพย์ฯตกหมายกันเป็นทิวแถว แต่ต้นกล้าขอกระซิบให้พีอาร์ได้รับทราบสักนิดว่านักข่าวสายกองทุนรวมบางท่านไม่ได้ประจำที่ตลาดหลักทรัพย์ฯเท่านั้น เพราะว่า นสพ.รายวันบางฉบับมีนักข่าวสายกองทุนรวมแยกออกต่างหากจากนักข่าวสายหุ้น เฮ้อ...งานนี้ก็นับว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว คงต้องฝากไปถึง สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ ช่วยกำชับอีกครั้งด้วยละกันน้าครับ......//// ปิดท้ายฉบับนี้ .......แว่วๆมาจากรั้วพาณิชย์......รอบที่แล้วหมดไปกว่า 600 ล้าน สำหรับค่าประชุมของคณะทำงานร่างพ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่ง ที่ยำเนื้อหามาได้สะใจคนไทยในยุคสินค้าแพงบ้าเลอดมาก เพราะท่านจ้องจะเล่นงานห้างค้าปลีกที่ขายสินค้าราคาถูกอย่างเดียวเลย ไม่รู้ว่าจะกลัวพ่อค้าคนกลางกำไรน้อยเกินไปหรือไร คราวที่แล้วเศรษฐกิจยังไม่สาหัส คนก็ยังพอทำใจ แต่เวลานี้ เห็นกันคาตา ข้าวสารแพง น้ำมันพืชแพง สารพัดสินค้าแพง ไม่เห็นพ่อค้าคนกลางหน้าไหนจะมาช่วยลดราคาให้ มีแต่จะกักตุนเอาเปรียบ อย่างนี้แล้ว กรมการค้าภายใน ยังมีกะจิตกะใจร่าง พ.ร.บ.ค้าปลีกฯมากระทืบซ้ำประชาชนอีกหรือครับท่าน////