พาณิชย์ เตือนผู้ประกอบการค้าส่ง-ค้าปลีก อย่ากักตุนน้ำตาล หรือฉวยโอกาสโก่งราคา เจอโทษหนัก ก่อนผลประชุม กกร.จะอนุมัติปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย วันนี้ ย้ำแม้ว่าอนุมัติให้ขึ้นต้องประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาก่อน พร้อมส่งสายด่วนทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคออกตรวจด่วน และเตรียมเพิ่มปริมาณน้ำตาลทรายราคาถูกในงาน“ธงฟ้า Outlet Sale” และขอความร่วมมือทุกห้างจำหน่ายน้ำตาลถึงมือผู้บริโภคเพียงพอ
วันนี้(30 เม.ย.) นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายในเปิดเผยว่า หากผู้บริโภคในพื้นที่ใดเห็นว่าร้านค้าปลีกค้าส่งปฎิเสธการจำหน่ายน้ำตาลทรายในช่วงนี้ ขอให้ร้องเรียนผ่านสายด่วนแม่บ้าน 1569 ได้ทันที และขณะนี้ ได้ส่งทีมออกตรวจสอบทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแล้ว หากผู้ค้าหรือร้านค้าปลีกค้าส่งมีการกักตุนน้ำตาลทรายเพื่อหวังกำไรเพิ่มก่อนที่ผลการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ซึ่งมี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน จะประชุมเห็นชอบปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายในบ่ายวันนี้ (30 เม.ย.) ก่อน
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนของกฎหมาย หากที่ประชุม กกร.มีมติเห็นชอบให้ปรับราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นอัตราใดก็ตามจะต้องประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาก่อน ดังนั้น ราคาขายอาจจะปรับขึ้นปลายสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า ทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีก – ค้าส่ง ต้องจำหน่ายในราคาเดิมไปจนกว่าพระราชกิจจานุเบกษาจะมีผลบังคับใช้ จึงขอเตือนอย่าได้มีการกักตุนหรือปฎิเสธการจำหน่ายโดยเด็ดขาด ซึ่งตามกฎหมายถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามกฏหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษ จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายยรรยง กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายขาวที่ไม่ได้บรรจุถุง แต่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มจำหน่ายในราคา 17.50 บาทต่อกิโลกรัม หากบรรจุถุงและรวมภาษีแล้ว ราคาจำหน่ายปลีกอยู่ที่ 18.25 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้นหากผลการประชุม กกร.ในวันพรุ่งนี้อนุมัติให้ขึ้นราคา 5 บาทต่อกิโลกรัม ก็เท่ากับว่าราคาขายปลีก ที่ไม่บรรจุถุงแต่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มจะอยู่ที่ 22.50 บาทต่อกิโลกรัม หากบรรจุถุงและรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาจำหน่ายจะเกิน 23 บาทต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม ตามเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ไม่สามารถหาซื้อน้ำตาลทรายมาบริโภคได้ขณะนี้ จะขอความร่วมมือกับผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ เช่น มิตรผลเพิ่มปริมาณน้ำตาลทรายภายในงาน “ธงฟ้า Outlet Sale” ที่กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษกให้มากขึ้น
จากปัจจุบันนำน้ำตาลทรายจำหน่ายให้กับประชาชนเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 300 กระสอบต่อกระสอบ 50 กิโลกรัม ให้มากขึ้นโดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าได้เต็มที่ และยังจะขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ นำน้ำตาลทรายออกมาจำหน่ายไม่ให้เกิดการขาดแคลน แม้ว่าบ้างห้างสรรพสินค้าจะมีการจำกัดการซื้อของผู้บริโภคครอบครัวละไม่เกิน 3 ถุงขนาด 1 กิโลกรัมก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดการซื้อไปกักตุนเพราะอาจทำให้นำตาลทรายขาดตลาดได้
สำหรับผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้าราคาถูกภายในงาน“ธงฟ้า Outlet Sale” โดยงานจะสิ้นสุดในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ เช่น ข้าวสาร บรรจุถุง 5 กก. ข้าวหอมมะลิ (เก่า) ตราหงษ์ทอง จำหน่าย 185 บาท ถูกกว่าท้องตลาด 65 บาท ข้าวขาว 100% ตราฉัตรฟ้า จำหน่าย 139 บาท ถูกกว่าท้องตลาด 41 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ตรามรกต ขวด 1 ลิตร จำหน่าย 45 บาท ถูกกว่าท้องตลาดขวดละ 2.50 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 4 (ถาด 30 ฟอง) จำหน่ายถาดละ 66 บาท หรือฟองละ 2.20 บาท ถูกกว่าท้องตลาด ฟองละ 50-60 สตางค์ หมูพาณิชย์ (เนื้อไหล่ หมูบด ซี่โครง) จำหน่าย กก.ละ 98 บาท ถูกกว่าท้องตลาด กก.ละ 12-17 บาท กุ้งขาวแวนนาไม ขนาด 75-80 ตัว/กก. จำหน่าย กก.ละ 109 บาท ถูกกว่าท้องตลาด กก.ละ 11-31 บาท มะนาวเบอร์ 3-4 จำหน่ายผลละ 1.00 บาท ถูกกว่าท้องตลาด ผลละ 1.50-2.00 บาท เป็นต้น
วันนี้(30 เม.ย.) นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายในเปิดเผยว่า หากผู้บริโภคในพื้นที่ใดเห็นว่าร้านค้าปลีกค้าส่งปฎิเสธการจำหน่ายน้ำตาลทรายในช่วงนี้ ขอให้ร้องเรียนผ่านสายด่วนแม่บ้าน 1569 ได้ทันที และขณะนี้ ได้ส่งทีมออกตรวจสอบทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแล้ว หากผู้ค้าหรือร้านค้าปลีกค้าส่งมีการกักตุนน้ำตาลทรายเพื่อหวังกำไรเพิ่มก่อนที่ผลการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ซึ่งมี นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน จะประชุมเห็นชอบปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายในบ่ายวันนี้ (30 เม.ย.) ก่อน
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนของกฎหมาย หากที่ประชุม กกร.มีมติเห็นชอบให้ปรับราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นอัตราใดก็ตามจะต้องประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาก่อน ดังนั้น ราคาขายอาจจะปรับขึ้นปลายสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้า ทำให้ผู้ประกอบการค้าปลีก – ค้าส่ง ต้องจำหน่ายในราคาเดิมไปจนกว่าพระราชกิจจานุเบกษาจะมีผลบังคับใช้ จึงขอเตือนอย่าได้มีการกักตุนหรือปฎิเสธการจำหน่ายโดยเด็ดขาด ซึ่งตามกฎหมายถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามกฏหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มีโทษ จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายยรรยง กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายขาวที่ไม่ได้บรรจุถุง แต่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มจำหน่ายในราคา 17.50 บาทต่อกิโลกรัม หากบรรจุถุงและรวมภาษีแล้ว ราคาจำหน่ายปลีกอยู่ที่ 18.25 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้นหากผลการประชุม กกร.ในวันพรุ่งนี้อนุมัติให้ขึ้นราคา 5 บาทต่อกิโลกรัม ก็เท่ากับว่าราคาขายปลีก ที่ไม่บรรจุถุงแต่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มจะอยู่ที่ 22.50 บาทต่อกิโลกรัม หากบรรจุถุงและรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ราคาจำหน่ายจะเกิน 23 บาทต่อกิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม ตามเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ไม่สามารถหาซื้อน้ำตาลทรายมาบริโภคได้ขณะนี้ จะขอความร่วมมือกับผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ เช่น มิตรผลเพิ่มปริมาณน้ำตาลทรายภายในงาน “ธงฟ้า Outlet Sale” ที่กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษกให้มากขึ้น
จากปัจจุบันนำน้ำตาลทรายจำหน่ายให้กับประชาชนเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 300 กระสอบต่อกระสอบ 50 กิโลกรัม ให้มากขึ้นโดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าได้เต็มที่ และยังจะขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ นำน้ำตาลทรายออกมาจำหน่ายไม่ให้เกิดการขาดแคลน แม้ว่าบ้างห้างสรรพสินค้าจะมีการจำกัดการซื้อของผู้บริโภคครอบครัวละไม่เกิน 3 ถุงขนาด 1 กิโลกรัมก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดการซื้อไปกักตุนเพราะอาจทำให้นำตาลทรายขาดตลาดได้
สำหรับผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้าราคาถูกภายในงาน“ธงฟ้า Outlet Sale” โดยงานจะสิ้นสุดในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ เช่น ข้าวสาร บรรจุถุง 5 กก. ข้าวหอมมะลิ (เก่า) ตราหงษ์ทอง จำหน่าย 185 บาท ถูกกว่าท้องตลาด 65 บาท ข้าวขาว 100% ตราฉัตรฟ้า จำหน่าย 139 บาท ถูกกว่าท้องตลาด 41 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ตรามรกต ขวด 1 ลิตร จำหน่าย 45 บาท ถูกกว่าท้องตลาดขวดละ 2.50 บาท ไข่ไก่ เบอร์ 4 (ถาด 30 ฟอง) จำหน่ายถาดละ 66 บาท หรือฟองละ 2.20 บาท ถูกกว่าท้องตลาด ฟองละ 50-60 สตางค์ หมูพาณิชย์ (เนื้อไหล่ หมูบด ซี่โครง) จำหน่าย กก.ละ 98 บาท ถูกกว่าท้องตลาด กก.ละ 12-17 บาท กุ้งขาวแวนนาไม ขนาด 75-80 ตัว/กก. จำหน่าย กก.ละ 109 บาท ถูกกว่าท้องตลาด กก.ละ 11-31 บาท มะนาวเบอร์ 3-4 จำหน่ายผลละ 1.00 บาท ถูกกว่าท้องตลาด ผลละ 1.50-2.00 บาท เป็นต้น