รมว.พาณิชย์ เผยที่ประชุมบอร์ด กกร. มีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย กก.ละ 5.35 บาท เป็นราคาที่รวม VAT แต่ไม่รวมค่าบรรจุถุง ส่งผลให้ราคาปรับจาก 17.50 บาท/กก. เพิ่มเป็น 22.85 บาท/กก. ทันที โดยกำหนดเพดานต้นทุนบรรจุถุงไม่เกิน 0.75 บ.
วันนี้(30 เม.ย.) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้มีการปรับราคาอ้อยขั้นต้น และราคาน้ำตาลทรายจำหน่ายส่งหน้าโรงงานอีกกิโลกรัม (กก.) ละ 5 บาท โดยในวันนี้ การประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (บอร์ด กกร.) ซึ่งมีตนเองเป็นประธานฯ ได้มีการมีการประชุมเพื่อพิจารณา ราคาน้ำตาลทรายจำหน่ายปลีก ซึ่งจะมีการรวมค่าบริหารจัดการภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับมติ ครม.
อย่างไรก็ตาม การปรับราคาจำหน่ายปลีกน้ำตาลทราย นายมิ่งขวัญ แย้มว่า ราคาอาจเพิ่มขึ้นเกินกก.ละ 5 บาท โดยสินค้าที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำตาลทรายสูงสุด อาทิ น้ำอัดลม นมข้นหวาน และผลไม้กระป๋อง
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยมติที่ประชุมฯบอร์ด กกร. มีมติเห็นชอบการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำตาลทรายอีก 5.35 บาท/กก.(เป็นราคาที่รวม VAT แต่ยังไม่รวมค่าบรรจุถุง) ส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์จะปรับขึ้นเป็น 22.85 บาท/กก.จากเดิม 17.50 บาท/กก. ในทันที ส่วนน้ำตาลทรายสีรำ (ยังไม่ได้ขัดสี) ปรับขึ้นเป็น 21.35 บาท/กก. จากเดิม 16.00 บาท/กก.
อย่างไรก็ดี การจำหน่ายน้ำตาลทรายที่มีการบรรจุถุง 1 กก. และมีการติดฉลากระบุชื่อเครื่องหมายทางการค้า ให้จำหน่ายปลีกโดยคิดค่าบรรจุได้ไม่เกิน 0.75 บาท/กก. โดยน้ำตาลทรายขาวจะขายไม่เกิน กก.ละ 23.50 บาท และน้ำตาลทรายสีรำ กก.ละ 22.15 บ.
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การปรับราคาน้ำตาลทรายในครั้งนี้มีผลกระทบกับต้นทุนของผู้ผลิตอาหารที่มีน้ำตาลทรายเป็นส่วนประกอบจำเป็นน้อยมากแค่เพียง 1.0-3.8% ดังนั้นจึงเห็นว่าผู้ผลิตสินค้าประเภทนมข้นหวาน และน้ำอัดลม ยังไม่สมควรจะต้องปรับขึ้นราคาโดยอ้างจากเหตุผลนี้
"หลังจากปรับราคาแล้ว มีผลกระทบน้อยมาก เช่น นมข้นหวาน น้ำอัดลม สัดส่วนเพิ่มขึ้นเพียง 1.0-3.8% เท่านั้น จึงยังไม่ถึงขั้นจะต้องปรับราคาสินค้า" นายยรรยง ระบุทิ้งท้าย