ห้างค้าปลีก เผย ประชาชนเริ่มแห่ซื้อกักตุนน้ำตาล หลังรัฐบาลออกข่าวปรับขึ้นราคา 5 บ./กก.“คาร์ฟูร์” นำขึ้นเป็นสินค้าต้องจับตา พร้อมจำกัดปริมาณซื้อ 5 ถุง/ครอบครัวแล้ว ด้านผู้ประกอบการชี้ ต้นทุนพุ่งพรวด ลั่นขอปรับราคาเช่นเดียวกับสินค้าชนิดอื่น “พาณิชย์” ชี้ ผลกระทบเพียงเล็กน้อย
วันนี้ (30 เม.ย.) นางประภาพรรณ พลอยแสงงาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจห้างค้าปลีกชื่อดัง “คาร์ฟูร์” กล่าวยอมรับว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลเตรียมประกาศขึ้นราคาน้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 5 บาท ปรากฏว่า เริ่มมีประชาชนบางกลุ่มซื้อน้ำตาลในห้างในจำนวนที่เพิ่มขึ้น คือ 50 ถุง ซึ่งปกติเคยซื้อ 1-2 ถุง ใน 1 รอบ โดยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร
กรณีที่เกิดขึ้นทำให้ “คาร์ฟูร์” ต้องเอาน้ำตาลเป็นรายการสินค้าที่ทางห้างฯ ต้องเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกันกับ ข้าวสาร น้ำมันพืช หมู และไข่ไก่ ที่มีการปรับราคามาก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ สินค้าที่ทางห้างต้องมีการเฝ้าระวังอีกต่อไป คือ เนื้อไก่ชำแหละ และอาหารสด เนื่องจากเนื้อหมูมีราคาสูง อาจทำประชาชนหันไปบริโภคเนื้อไก่ชำแหละ และอาหารสด เพิ่มขึ้นอีก
ขณะนี้ทางห้างได้จำกัดจำนวนการซื้อของประชาชนเป็น 5 ถุงต่อครอบครัว จากเดิมที่ไม่ได้มีการจำกัดจำนวนการซื้อน้ำตาล เนื่องจากน้ำตาลเป็นสินค้าที่ผู้ค้าน้ำตาลจำกัดโควตาให้กับทางห้างฯ แล้วหากซัพพลายเออร์มีการปรับราคาน้ำตาลขึ้นไปอีก ทางห้างคงต้องทำการปรับราคาน้ำตาลเช่นเดียวกับซัปพลายเออร์ด้วยเช่นกัน
นายสมศักดิ์ ชายะพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำ กล่าวว่า หากน้ำตาลมีการปรับขึ้นจริง จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตนมพร้อมดื่มของบริษัท และผู้ประกอบการนมพร้อมดื่มทันที ดังนั้นผู้ประกอบการอาจจะต้องยื่นขอปรับราคาอีกครั้งกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในส่วนของบริษัทฯ หากต้องขอปรับราคาจริง ก็จะพยายามขอปรับราคาขึ้นให้น้อยที่สุด เพื่อรักษาตลาด และช่วยรัฐบาลดูแลผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันค่าครองชีพมีการปรับสูงขึ้นอยู่แล้ว
ล่าสุดจากการสำรวจภายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ "บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์" สาขาราชดำริ พบว่า ยังคงมีสินค้าวางจำหน่ายตามปกติ โดยราคาน้ำตาลทรายแดง อยู่ที่ถุงละ 12 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาน้ำตาลทรายขาว อยู่ที่ 16.50 - 24.50 ต่อกิโลกรัม ทั้งนี้ทางห้างได้ติดป้ายจำกัดจำนวนการซื้อไว้ที่ 3 ถุงต่อคนต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการป้องกันผู้ซื้อฉวยโอกาสกักตุนสินค้า
**ชี้ปมเก็งกำไร-กักตุน ออกประกาศย้อนหลังมติ ครม.
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้นัดประชุม กกร.เพื่อพิจารณาการปรับขึ้นราคาขายน้ำตาลทราย วันนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะอนุมัติให้ปรับขึ้นอีกกิโลกรัมละ 5 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จากนั้นจะออกประกาศเปลี่ยนแปลงราคาขายปลีกน้ำตาลทราย ซึ่งจะมีผลวันเดียวกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา หรือน่าจะมีผลบังคับใช้จริงภายใน 1-2 วันนี้
หากพบผู้ค้ารายใดฉวยโอกาสขึ้นราคาก่อนทางการประกาศ หรือทำให้ราคาปั่นป่วนจะมีโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยจะมีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท จำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้บริโภคหากพบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคา สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบทันที
**บีบคอผู้ผลิตสินค้าใช้น้ำตาลเป็นต้นทุน ห้ามปรับขึ้นราคา
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบในการผลิต เช่น น้ำอัดลม เครื่องดื่มกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง ขนมหวาน ลูกอม เป็นต้น ไม่สามารถใช้ข้ออ้างการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายอีกกิโลกรัมละ 5 บาท ปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะใช้น้ำตาลทรายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และราคาขายสินค้าเหล่านั้นในปัจจุบันถือว่าเหมาะสมแล้ว แต่ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในตรวจสอบปริมาณน้ำตาลทรายในครอบครองของผู้ค้ารายใหญ่แล้วหากพบการกักตุน ประวิง หรือปฏิเสธการขายจะมีความผิดตามกฎหมาย