ก๊าซหุงต้มขอปรับราคาขึ้นอีกถังละ 3 บาท เต็มเพดาน ผู้ค้าแจงขอปรับขึ้นตามต้นทุนจริง โดยถังขนาด 15 กก.ขอเพิ่ม 6 บาท และถังขนาด 48 กก.ปรับขึ้น 20 บาท "พาณิชย์" งุบงิบไม่เลิก แอบปล่อยผีน้ำมันถั่ว-รำข้าวปรับขึ้นอีกขวดละ 4 บาท ตามก้นน้ำมันปาล์ม ขณะที่สินค้าเหล็กเส้น-เหล็กแผ่น จ่อขยับขึ้น กก.ละ 1-3 บาท ก.พ.นี้ ผลิตภัณฑ์นม เตรียมปรับราคาตาม "ศิริพล" โวคุมเงินเฟ้ออยู่หมัด
วันนี้(31 ม.ค.) นายชิษณุพงษ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) กล่าวว่า ตั้งแต่วานนี้(30 ม.ค.) ร้านค้าปลีกก๊าซหุงต้มได้ปรับขึ้นราคาจำหน่าย 20 สตางค์/กิโลกรัม ตามที่กระทรวงพลังงาน ประกาศปรับขึ้นราคาเนื้อก๊าซต้นทางไปแล้ว 3 บาทต่อถัง ทำให้ราคาจำหน่ายปลีกในส่วนถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 288 บาท และถัง 48 กิโลกรัม อยู่ที่ 880-890 บาท โดยโรงบรรจุได้ขยับขึ้นค่าบรรจุเต็มเพดาน แต่ผู้ค้ายังไม่ปรับราคาขายตามส่วนนี้ จึงแบกภาระในส่วนถัง 15 กิโลกรัมไว้ 3 บาท
ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้ทำหนังสือต่อกรมการค้าภายใน เพื่อขอปรับส่วนนี้ภายใน 15 วัน หากได้รับการอนุมัติถังขนาด 15 กิโลกรัม จะปรับขึ้นรวมถังละ 6 บาท และถัง 48 กิโลกรัม จะปรับขึ้น 20 บาท
นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพลังงาน ได้อนุมัติปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มอีกถังละ 3-5 บาท และโรงบรรจุก๊าซปรับค่าขนส่งเพิ่มอีกถังละ 3 บาท ทำให้ร้านค้าปลีกก๊าซจำเป็นต้องปรับราคาขึ้นอีกไม่ต่ำกว่าถังละ 6 บาทนั้น ในส่วนการดูแลปลายทาง โดยเฉพาะร้านค้าก๊าซ และโรงบรรจุก๊าซ กรมการค้าภายในจะตรวจสอบโรงบรรจุก๊าซว่าการเติมก๊าซแต่ละถังมีมาตรฐานหรือไม่ และร้านค้าก๊าซจะต้องปิดป้ายแสดงราคา
ส่วนกระแสข่าวที่ผู้ค้าก๊าซรายย่อยเตรียมขอปรับเพิ่มค่าขนส่งจาก 10-15 บาท เป็น 15-20 บาทนั้น กรมการค้าภายในเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เพราะจะเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภค ซึ่งจะต้องหารือกันอีกครั้ง โดยยืนยันว่าการปรับราคาเนื้อก๊าซหุงต้มบวกค่าขนส่งอีกถังละ 6 บาท กระทบต่ออาหารเพียงจานละ 1 สตางค์ และกระทบต่อผู้ขับรถแท็กซี่วันละประมาณ 16 บาท ร้านอาหารไม่ควรขึ้นราคา
สำหรับการปรับขึ้นราคาน้ำมันพืช นางวัชรี กล่าวว่า กรมฯ ได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดปรับขึ้นราคาขายปลีกอีกขวดละ 4 บาท มาอยู่ที่ขวดลิตรละ 49.50 บาท จากเดิมที่ 45.50 บาท มีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ม.ค.51 เพราะราคาเมล็ดถั่วเหลือง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปรับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 19.50 บาท จากต้นปี 50 ที่กิโลกรัมละเพียง 10 บาท
โดยการปรับขึ้นราคาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เมื่อเดือน ธ.ค.50 ได้อนุมัติให้ขึ้นไปแล้วขวดละ 5 บาท และเป็นการปรับขึ้นหลังจากที่กรมอนุมัติให้ผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขึ้นไปอีกขวดละ 4 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.51
"วัตถุดิบขึ้นราคามาอยู่ที่กิโลกรัมละ 19.50 บาท ผู้ประกอบการก็ขอขึ้นราคาอีกขวดละ 8.50 บาท มาอยู่ที่ขวดละ 54 บาท แต่กรมเห็นว่ามากเกินไปประชาชนจะเดือดร้อนมาก เลยให้ขึ้นได้แค่ขวดละ 4 บาท และก่อนหน้านี้ได้อนุมัติให้น้ำมันปาล์มขวดขึ้นราคาไปก่อนแล้ว ถ้าไม่ให้ถั่วเหลืองขึ้นก็ไม่ได้ ผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบมาก"
สำหรับสถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้างนั้นในเร็วๆ นี้ กรมจะขอความเห็นชอบจาก รมว.พาณิชย์คนใหม่ให้ปรับขึ้นราคาแนะนำขายเหล็กเส้นและเหล็กแผ่นประจำเดือน ก.พ.51 อีกกิโลกรัมละ 1-3 บาท เพราะราคาวัตถุดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นมาก แม้สถานการณ์การค้าภายในประเทศจะซบเซา
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนมายังกระทรวงว่า ขณะนี้ผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็กและปูนซีเมนต์ได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกสูงมาก โดยเหล็กเส้นมีการปรับขึ้นถึง 5 บาท ปูนซีเมนต์ปรับขึ้นถึง 10-15 บาท อีกทั้งยี่ปั๊ว-ซาปั๊วยังกักตุนสินค้าเพื่อทำให้ราคาปั่นป่วน ทำให้ผู้ใช้ได้รับความเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะผู้รับเหมาก่อสร้าง
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในกำลังพิจารณาอนุมัติปรับราคาผลิตภัณฑ์นมทั้งระบบ หลังพบว่าสถานการณ์ราคานมในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 5,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะมีการทบทวนคาดการณ์เงินเฟ้อทุกไตรมาส ซึ่งในไตรมาสแรกยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อ 3.0-3.5% บนสมมุติฐานราคาน้ำมันไม่เกิน 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดรายงานภาวะราคาสินค้าและปริมาณที่ผิดปกติจากการบิดเบือนตลาดเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังประชุมนัดสุดท้ายร่วมกับผู้บริหารกระทรวงว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) 20 ส.ต./ก.ก. เมื่อวานนี้(30 ม.ค.) เป็นไปตามสูตรที่กำหนดไว้ และเป็นอำนาจที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) จะพิจารณาปรับเปลี่ยนทุกๆ เดือน ตามความเหมาะสม และเป็นไปตามสถานการณ์ราคาก๊าซในตลาดโลก
นายวีระพล จีรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการ สนพ. กล่าวว่า ช่วงไตรมาสแรกปี 2551 ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.สูตรการคิดราคาก๊าซหุงต้มจะอิงราคาตลาดโลก 5% เฉลี่ย 3 เดือน และราคาในไทย 95% ราคาอ้างอิงเดือน ก.พ. ที่ประกาศมานั้นราคาในไทยปรับขึ้น 3% ราคาขายปลีกจึงต้องปรับขึ้น 20 ส.ต./ลิตร ส่วนในเดือนหน้าคงต้องมาติดตามสถานการณ์อีกครั้ง
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเดือน ก.พ. รัฐบาลใหม่ต้องเข้ามาตัดสินใจเรื่องราคาก๊าซหุงต้มถึง 2 เรื่อง คือเรื่องที่สมาคมผู้ค้าก๊าซหุงต้มขอปรับขึ้นราคาหลังโรงบรรจุแจ้งยกเลิกส่วนลด ทำให้ต้องปรับขึ้นราคาก๊าซประมาณ 3-5 บาท/ถัง 15 ก.ก. หรือประมาณ 20 ส.ต./ก.ก. มีผลวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งขณะนี้ผู้ค้าก๊าซกำลังจัดทำตัวเลขขึ้น ราคาเพื่อนำเสนอต่อกรมการค้าภายใน
คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกิน วันที่ 15 ก.พ. เรื่องที่ 2 คือการคิดราคาก๊าซตามสูตรราคาของ สนพ.ที่จะเปลี่ยนแปลงช่วงสิ้นเดือน หากพิจารณาก๊าซตามแนวโน้มปัจจุบันมีโอกาสที่ราคาในไทยจะปรับขึ้นอีกรอบตามสูตรราคาที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) กำหนด