xs
xsm
sm
md
lg

"เจ๊มิ่ง" สั่งเปลื้องผ้าต้นทุนสินค้า 373 ชนิด ก่อนเมคตัวเลขเงินเฟ้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
"พาณิชย์" เตรียมใช้มาตรการคุมราคาสินค้ารอบใหม่ โดยใช้โครงสร้างต้นทุนจริง พร้อมลุยตรวจสินค้าจำเป็น 373 รายการ เพื่อควบคุมตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งในกรอบ 5.5% และปัญหาค่าครองชีพรวมที่ไม่สมดุลกับด้านรายได้ คาดน้ำมันพืช น้ำอัดลม นมข้นหวาน และผลไม้กระป๋อง จ่อเรียงคิวเชือด

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงจะใช้มาตรการดูแลราคาสินค้าให้เป็นไปตามต้นทุนที่แท้จริง โดยกำลังศึกษาและวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ 373 รายการ เพื่อดูว่ามีต้นทุนเปลี่ยนแปลงเช่นไร หากสินค้ารายการใดมีต้นทุนผลิตที่ลดลงก็ต้องปรับลดราคา แม้สินค้าบางรายการที่ขอปรับขึ้นราคามาแล้ว หากต้นทุนวัตถุดิบลดลงก็ต้องปรับลดด้วย เพื่อไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค และควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้อยู่ในระดับสูงเกินไป ตามที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความเป็นห่วงปัญหาค่าครองชีพของประชาชน

ทั้งนี้ ผลกระทบต่อดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) จากปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น รัฐบาลคงจะไม่มีการปรับช่วงนี้ เพราะเร็วเกินไปที่จะปรับประมาณการเงินเฟ้อของปีนี้เป็นรอบที่สอง แม้ขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกจะพุ่งไปแตะ 120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลก็ตาม โดยกระทรวงพาณิชย์ยังคงระดับ 5.0-5.5% บนสมมุติฐานราคาน้ำมันโลกเฉลี่ย 108 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเช่นเดิม อีกทั้งเมื่อต้น เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากเพิ่งปรับขึ้นจาก ระดับ 3-3.5% ส่วนค่าเฉลี่ย 4 เดือนแรกของปียังขยายตัวระดับ 5.3%

“คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ถึงปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อเงินเฟ้อ แต่อาจเร็วเกินไปที่รัฐบาลจะปรับประมาณการเงินเฟ้อ เพราะเพิ่งปรับขึ้นไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเตรียมหลายมาตรการมาดูแลเพื่อลดภาระค่าครองชีพ อย่างหนึ่งคือต้องไปดูถึงส่วนผสมของสินค้าแต่ละชนิดว่าถูกต้องหรือไม่ เช่น ผลิตภัณฑ์รังนก เคยจำหน่ายราคา 40-50 บาท ตอนนี้ขึ้นเป็น 100 บาท แต่มีส่วนผสมของรังนกเพียงเล็กน้อย ก็ต้องดูว่าราคาเหมาะสมหรือไม่”

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จะยังไม่มีการพิจารณาให้สินค้านมข้นหวาน น้ำอัดลม และผลไม้กระป๋อง ปรับขึ้นราคาสินค้า โดยอ้างเหตุผลจากการปรับขึ้นของราคาน้ำตาลทราย 5 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเป็นวัตถุดิบของการผลิตสินค้า เนื่องจากผลกระทบที่สินค้าดังกล่าวได้รับจากราคาน้ำตาลทรายมีต้นทุนเพิ่มขึ้นไม่ถึง 5% โดยนมข้นหวานมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 3.92% น้ำอัดลม 2.45% และผลไม้กระป๋อง 1.85%

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า สินค้าที่อยู่ในเป้าหมายการทบทวนโครงสร้างต้นทุน ได้แก่ น้ำมันพืช เพราะขณะนี้ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบมีแนวโน้มราคาอ่อนตัวลงเหลือกิโลกรัมละ 32 บาทในเดือน พ.ค.51 จาก 37-38 บาทในเดือน ธ.ค.50 และคาดว่าราคาจะอ่อนตัวลงกว่านี้อีก หลังจากผลปาล์มดิบได้ทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งการอนุมัติให้ปรับราคาครั้งล่าสุดอิงต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบที่กิโลกรัมละ 34 บาท ดังนั้นคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันปาล์มจะพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกใหม่ และเรียกหารือกับผู้ประกอบการเพื่อให้ปรับลดราคาลงมา
กำลังโหลดความคิดเห็น