ผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”บู้ไม่เลิก ตามบี้ผู้ประกอบการฟู้ดส์คอร์ตห้ามยกเลิกการใช้คูปอง 1 บาท หลังพบเป็นต้นเหตุให้ผู้ขายอาหารสำเร็จรูปปรับราคาขึ้นเกินต้นทุนที่แท้จริงอย่างต่ำจานละ 5 บาท ขู่เล่นงานตามกฎหมายหากการขอความร่วมมือไม่ได้ผล “ศิริพล”เตรียมชงกฎหมายค้าปลีกให้ “มิ่งขวัญ” ตัดสินใจเร็วๆ นี้
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมการค้าภายในขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าอาหารในห้างสรรพสินค้า (ฟู้ดส์คอร์ต) ทุกแห่งนำคูปองมูลค่า 1 บาท กลับมาให้บริการภายในฟู้ดส์คอร์ตตามเดิม หลังจากพบว่าฟู้ดส์คอร์ตบางแห่ง เลิกผลิตคูปองมูลค่า 1 บาท และหันมาใช้คูปองมูลค่า 5 บาท 10 บาท และ 20 บาทเท่านั้น ส่งผลให้ราคาอาหารสำเร็จรูปที่จำหน่ายในฟู้ดส์คอร์สมีการปรับขึ้นราคาเกินต้นทุนที่เป็นจริง จากการไม่มีคูปอง 1 บาท ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบประชาชน
“เดี๋ยวนี้ ฟู้ดส์คอร์ตในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกหลายแห่ง ไม่มีคูปอง 1 บาท มาให้บริการกับลูกค้า ในการนำมาแลกซื้ออาหาร ทำให้ผู้ประกอบการสามารถอ้างเหตุในการปรับขึ้นราคาสำเร็จรูปจานละ 5 บาทเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับระบบคูปอง ถือเป็นการเอาเปรียบผู้โภค ซึ่งจะขอความร่วมมือให้นำคูปอง 1 บาท กลับมาใช้ตามเดิม หากไม่ได้รับความร่วมมือพร้อมใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดูแลต่อไป” นายศิริพลกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมการค้าภายในพิจารณาให้ผู้ผลิตสินค้าปรับขึ้นราคาสินค้าเป็นเศษสตางค์ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปจริง และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการรณรงค์การใช้เหรียญสตางค์เพิ่มมากขึ้น โดยกระทรวงฯ จะลงไปดูแลห้างค้าปลีก ตลาดสด ร้านค้าปลีก และผู้ประกอบการอาหารสำเร็จรูป ให้มีการนำเหรียญสตางค์มาใช้ ซึ่งเชื่อว่าระบบดังกล่าวจะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และดูแลอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกินความเป็นจริง
นายศิริพลกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการผลักดันพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง ขณะนี้ กระทรวงฯ กำลังรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ค้าปลีกและรายละเอียดต่างๆ ของกฎหมาย เสนอให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ พิจารณาถึงผลดีผลเสียของการบังคับใช้กฎหมาย คาดว่าจะได้ข้อสรุปจากรมว.พาณิชย์ เร็วๆ นี้ว่าจะมีการตัดสินใจผลักดันร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ต่อไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม อยากจะแนะนำว่าในระหว่างที่ไม่มีกฎหมายค้าปลีกค้าส่ง ผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดกลางและเล็ก (โชห่วย) ของไทย จะต้องเร่งปรับตัว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องการบริการจัดการต้นทุน สต๊อกสินค้า และการรวมตัวเพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับผู้ผลิตสินค้า (ซัปพลายเออร์) ส่วนกรณีที่ห้างแม็คโครเปิดศูนย์มิตรแท้โชห่วยไทย เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ถือเป็นเรื่องดี ที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ลงมาให้ความสำคัญกับรายย่อย ในการช่วยเหลือและพึ่งพาอาศัยกัน
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามแม็คโคร กล่าวว่า ศูนย์มิตรแท้โชห่วยไทยที่จัดตั้งขึ้นถาวร ณ ห้างแม็คโคร สาขาลาดพร้าว ต้องการให้เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำการทำธุรกิจแก่สมาชิกแม็คโคร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าโชห่วยไทย และผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วไปที่สนใจ โดยจะมีแนะนำให้เรื่องการบริหารจัดการ บริหารสต๊อกสินค้าและต้นทุนให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถปรับตัวสู้กับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ได้
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมการค้าภายในขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าอาหารในห้างสรรพสินค้า (ฟู้ดส์คอร์ต) ทุกแห่งนำคูปองมูลค่า 1 บาท กลับมาให้บริการภายในฟู้ดส์คอร์ตตามเดิม หลังจากพบว่าฟู้ดส์คอร์ตบางแห่ง เลิกผลิตคูปองมูลค่า 1 บาท และหันมาใช้คูปองมูลค่า 5 บาท 10 บาท และ 20 บาทเท่านั้น ส่งผลให้ราคาอาหารสำเร็จรูปที่จำหน่ายในฟู้ดส์คอร์สมีการปรับขึ้นราคาเกินต้นทุนที่เป็นจริง จากการไม่มีคูปอง 1 บาท ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบประชาชน
“เดี๋ยวนี้ ฟู้ดส์คอร์ตในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกหลายแห่ง ไม่มีคูปอง 1 บาท มาให้บริการกับลูกค้า ในการนำมาแลกซื้ออาหาร ทำให้ผู้ประกอบการสามารถอ้างเหตุในการปรับขึ้นราคาสำเร็จรูปจานละ 5 บาทเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับระบบคูปอง ถือเป็นการเอาเปรียบผู้โภค ซึ่งจะขอความร่วมมือให้นำคูปอง 1 บาท กลับมาใช้ตามเดิม หากไม่ได้รับความร่วมมือพร้อมใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดูแลต่อไป” นายศิริพลกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมการค้าภายในพิจารณาให้ผู้ผลิตสินค้าปรับขึ้นราคาสินค้าเป็นเศษสตางค์ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปจริง และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการรณรงค์การใช้เหรียญสตางค์เพิ่มมากขึ้น โดยกระทรวงฯ จะลงไปดูแลห้างค้าปลีก ตลาดสด ร้านค้าปลีก และผู้ประกอบการอาหารสำเร็จรูป ให้มีการนำเหรียญสตางค์มาใช้ ซึ่งเชื่อว่าระบบดังกล่าวจะทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และดูแลอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงเกินความเป็นจริง
นายศิริพลกล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการผลักดันพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง ขณะนี้ กระทรวงฯ กำลังรวบรวมข้อมูลสถานการณ์ค้าปลีกและรายละเอียดต่างๆ ของกฎหมาย เสนอให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ พิจารณาถึงผลดีผลเสียของการบังคับใช้กฎหมาย คาดว่าจะได้ข้อสรุปจากรมว.พาณิชย์ เร็วๆ นี้ว่าจะมีการตัดสินใจผลักดันร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ต่อไปหรือไม่
อย่างไรก็ตาม อยากจะแนะนำว่าในระหว่างที่ไม่มีกฎหมายค้าปลีกค้าส่ง ผู้ประกอบการค้าปลีกขนาดกลางและเล็ก (โชห่วย) ของไทย จะต้องเร่งปรับตัว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องการบริการจัดการต้นทุน สต๊อกสินค้า และการรวมตัวเพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับผู้ผลิตสินค้า (ซัปพลายเออร์) ส่วนกรณีที่ห้างแม็คโครเปิดศูนย์มิตรแท้โชห่วยไทย เพื่อให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ถือเป็นเรื่องดี ที่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ลงมาให้ความสำคัญกับรายย่อย ในการช่วยเหลือและพึ่งพาอาศัยกัน
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามแม็คโคร กล่าวว่า ศูนย์มิตรแท้โชห่วยไทยที่จัดตั้งขึ้นถาวร ณ ห้างแม็คโคร สาขาลาดพร้าว ต้องการให้เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำการทำธุรกิจแก่สมาชิกแม็คโคร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าโชห่วยไทย และผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วไปที่สนใจ โดยจะมีแนะนำให้เรื่องการบริหารจัดการ บริหารสต๊อกสินค้าและต้นทุนให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถปรับตัวสู้กับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ได้