สุทธินี สิมะกุลธร ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด
ในปัจจุบัน นอกเหนือจากการลงทุนในรูปแบบของตราสารหนี้ที่คล้ายเงินฝากซึ่งเป็นที่นิยมกันสำหรับผู้ลงทุนส่วนใหญ่ในประเทศไทยแล้ว การลงทุนในต่างประเทศเริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น จากการหาโอกาสการลงทุนที่ยังไม่มีในประเทศและให้ผลตอบแทนในระดับสูง
กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก (World GDP) ในปี 2008 ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่ระดับ 3.7% ลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนมกราคม โดยจะชะลอตัวลงจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่นำโดยสหรัฐฯ ในภาพรวมสำหรับผู้ลงทุนอาจมองว่าในช่วงนี้ยังไม่น่าจะลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม การเกิดปัญหาเศรษฐกิจในแต่ละประเทศจะสร้างแนวทางการแก้ปัญหา ทั้งด้านนโยบายการเงิน การคลัง และเงินทุนไหลเข้าออก ซึ่งหากปัจจัยใดเป็นสิ่งสนับสนุนก็จะช่วยกระตุ้นการเติบโต และก่อให้เกิดโอกาสจากวัฎจักรการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยใช้เวลาที่แตกต่างกันไป ในด้านการลงทุนจึงจะมีมุมมองการลงทุนในแต่ละจังหวะช่วงเวลาเสมอ หรือที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า Themes การลงทุน
ในฉบับนี้ จะขอรวบรวม Themes การลงทุนในปี 2008 จากการพบปะหารือกับผู้จัดการกองทุนชั้นนำในต่างประเทศมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวทางประกอบการพิจารณาลงทุนของแต่ละท่าน โดยขอแบ่งเป็นกลุ่มแนวคิดการลงทุนจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นกลุ่มภูมิภาค และอุตสาหกรรม ดังนี้
# ภูมิภาค : เอเชีย กลุ่มประเทศบริค และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากปัจจัยพื้นฐานด้านการลงทุนในภูมิภาคดังกล่าวยังคงมีความแข็งแกร่ง จากจำนวนประชากรและแรงผลักดันทางเศรษฐกิจ จากการบริโภคภายในประเทศเหล่านี้ การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึง การเติบโตด้านการค้าร่วมกันระหว่างในกลุ่มประเทศ ซึ่งในมุมมองของผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคดังกล่าวถือเป็นจังหวะที่ดีของการเข้าลงทุนของกองทุนต่าง ๆ โดยตั้งเป้าหมายจากการผลการดำเนินงานที่ดีของภูมิภาคจากการลงทุนในระยะยาว โดยการเจริญเติบโตของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และเอเชียจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วงนี้ แนวโน้มการลงทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ การลงทุนในกลุ่มประเทศจีนและใต้หวันจะได้รับผลดีจากความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นของทั้งสองประเทศที่จะส่งผลในด้านบวกต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของใต้หวัน โดยคาดว่าประเทศจีนจะผ่อนคลายนโยบายด้านการลงทุน นอกจากนี้ ในบางกลุ่มมีมุมมองว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของอเมริกาที่ใกล้ถึงจุดต่ำสุด เป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ราคาถูก โดยเฉพาะในกลุ่มสถาบันการเงินที่ราคาปรับลดลงมามากจากการตัดหนี้สูญในซับไพร์ม
# กลุ่มอุตสาหกรรม : พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ สินค้าเกษตร สาธารณูปโภคพื้นฐาน
กลุ่มพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเป็นอุตสาหกรรมที่มีความต้องการในระยะยาว และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการมีอุปทานที่จำกัด ในขณะที่เป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ด้วยลักษณะของธุรกิจที่ต้องการเงินลงทุนและเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้มีคู่แข่งน้อยราย และเป็นธุรกิจที่มีสัญญาผูกพันระยะยาว การลงทุนในกลุ่มพลังงานทางเลือก (Alternative Energy) จะได้รับผลดีจากความต้องการใช้น้ำมันที่อยู่ในระดับสูงและภาวะการปรับตัวของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
กลุ่มสินค้าเกษตร (Agricultural & Commodities) มีแนวโน้มการเติบโตสูงจากการความต้องการเอธานอล ไบโอดีเซล ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต รวมถึง ราคาอาหารที่สูงขึ้นจากความต้องการบริโภคจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ซึ่ง UN คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนถึง 9.2 พันล้านคนในปี 2050 ซึ่งจะเพิ่มจำนวนความต้องการอาคารสำหรับประชากรโลกถึง 42%
แนวโน้มการเติบโตของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคม อิเล็คทรอนิกส์ วัสดุภัณฑ์ต่างๆเช่น เหล็ก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งมีแนวโน้มในการขยายตัวสูง จากการให้บริการหรือเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตประชากร เช่น เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เครือข่าย โทรคมนาคม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์ กลุ่มธุรกิจดังกล่าวยังครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค วางระบบการสื่อสาร ไมโครซิฟ ระบบเซอร์กิต ที่ใช้ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ของสินค้าอุปโภค รถยนต์และอุตสาหกรรม เป็นต้น
แนวทางการลงทุนข้างต้น เก็บเป็นมุมมองสำหรับผู้ที่ต้องการมองหาการลงทุนต่างประเทศในช่วงนี้ ซึ่งสำหรับคำแนะนำในการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนควรจะลงทุนในระยะยาวประมาณ 1 ปี และกระจายการลงทุนในแต่ละประเภทหลักทรัพย์ให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงและกระแสเงินสดของตนเอง รวมถึงจังหวะการเข้าลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งผู้ลงทุนอาจใช้วิธีการทยอยลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัวลง (Dollar Cost Average) ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ดีสำหรับการลงทุนในช่วงนี้
ในปัจจุบัน นอกเหนือจากการลงทุนในรูปแบบของตราสารหนี้ที่คล้ายเงินฝากซึ่งเป็นที่นิยมกันสำหรับผู้ลงทุนส่วนใหญ่ในประเทศไทยแล้ว การลงทุนในต่างประเทศเริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น จากการหาโอกาสการลงทุนที่ยังไม่มีในประเทศและให้ผลตอบแทนในระดับสูง
กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก (World GDP) ในปี 2008 ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่ระดับ 3.7% ลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนมกราคม โดยจะชะลอตัวลงจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่นำโดยสหรัฐฯ ในภาพรวมสำหรับผู้ลงทุนอาจมองว่าในช่วงนี้ยังไม่น่าจะลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม การเกิดปัญหาเศรษฐกิจในแต่ละประเทศจะสร้างแนวทางการแก้ปัญหา ทั้งด้านนโยบายการเงิน การคลัง และเงินทุนไหลเข้าออก ซึ่งหากปัจจัยใดเป็นสิ่งสนับสนุนก็จะช่วยกระตุ้นการเติบโต และก่อให้เกิดโอกาสจากวัฎจักรการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยใช้เวลาที่แตกต่างกันไป ในด้านการลงทุนจึงจะมีมุมมองการลงทุนในแต่ละจังหวะช่วงเวลาเสมอ หรือที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า Themes การลงทุน
ในฉบับนี้ จะขอรวบรวม Themes การลงทุนในปี 2008 จากการพบปะหารือกับผู้จัดการกองทุนชั้นนำในต่างประเทศมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นแนวทางประกอบการพิจารณาลงทุนของแต่ละท่าน โดยขอแบ่งเป็นกลุ่มแนวคิดการลงทุนจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เป็นกลุ่มภูมิภาค และอุตสาหกรรม ดังนี้
# ภูมิภาค : เอเชีย กลุ่มประเทศบริค และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากปัจจัยพื้นฐานด้านการลงทุนในภูมิภาคดังกล่าวยังคงมีความแข็งแกร่ง จากจำนวนประชากรและแรงผลักดันทางเศรษฐกิจ จากการบริโภคภายในประเทศเหล่านี้ การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึง การเติบโตด้านการค้าร่วมกันระหว่างในกลุ่มประเทศ ซึ่งในมุมมองของผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคดังกล่าวถือเป็นจังหวะที่ดีของการเข้าลงทุนของกองทุนต่าง ๆ โดยตั้งเป้าหมายจากการผลการดำเนินงานที่ดีของภูมิภาคจากการลงทุนในระยะยาว โดยการเจริญเติบโตของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และเอเชียจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วงนี้ แนวโน้มการลงทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ การลงทุนในกลุ่มประเทศจีนและใต้หวันจะได้รับผลดีจากความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นของทั้งสองประเทศที่จะส่งผลในด้านบวกต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของใต้หวัน โดยคาดว่าประเทศจีนจะผ่อนคลายนโยบายด้านการลงทุน นอกจากนี้ ในบางกลุ่มมีมุมมองว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของอเมริกาที่ใกล้ถึงจุดต่ำสุด เป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ราคาถูก โดยเฉพาะในกลุ่มสถาบันการเงินที่ราคาปรับลดลงมามากจากการตัดหนี้สูญในซับไพร์ม
# กลุ่มอุตสาหกรรม : พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ สินค้าเกษตร สาธารณูปโภคพื้นฐาน
กลุ่มพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเป็นอุตสาหกรรมที่มีความต้องการในระยะยาว และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการมีอุปทานที่จำกัด ในขณะที่เป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ด้วยลักษณะของธุรกิจที่ต้องการเงินลงทุนและเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้มีคู่แข่งน้อยราย และเป็นธุรกิจที่มีสัญญาผูกพันระยะยาว การลงทุนในกลุ่มพลังงานทางเลือก (Alternative Energy) จะได้รับผลดีจากความต้องการใช้น้ำมันที่อยู่ในระดับสูงและภาวะการปรับตัวของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
กลุ่มสินค้าเกษตร (Agricultural & Commodities) มีแนวโน้มการเติบโตสูงจากการความต้องการเอธานอล ไบโอดีเซล ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต รวมถึง ราคาอาหารที่สูงขึ้นจากความต้องการบริโภคจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ซึ่ง UN คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนถึง 9.2 พันล้านคนในปี 2050 ซึ่งจะเพิ่มจำนวนความต้องการอาคารสำหรับประชากรโลกถึง 42%
แนวโน้มการเติบโตของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จะส่งผลดีต่อธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคม อิเล็คทรอนิกส์ วัสดุภัณฑ์ต่างๆเช่น เหล็ก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งมีแนวโน้มในการขยายตัวสูง จากการให้บริการหรือเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตประชากร เช่น เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เครือข่าย โทรคมนาคม และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์ กลุ่มธุรกิจดังกล่าวยังครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค วางระบบการสื่อสาร ไมโครซิฟ ระบบเซอร์กิต ที่ใช้ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ การสื่อสาร อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ของสินค้าอุปโภค รถยนต์และอุตสาหกรรม เป็นต้น
แนวทางการลงทุนข้างต้น เก็บเป็นมุมมองสำหรับผู้ที่ต้องการมองหาการลงทุนต่างประเทศในช่วงนี้ ซึ่งสำหรับคำแนะนำในการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนควรจะลงทุนในระยะยาวประมาณ 1 ปี และกระจายการลงทุนในแต่ละประเภทหลักทรัพย์ให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงและกระแสเงินสดของตนเอง รวมถึงจังหวะการเข้าลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งผู้ลงทุนอาจใช้วิธีการทยอยลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัวลง (Dollar Cost Average) ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ดีสำหรับการลงทุนในช่วงนี้