คอลัมน์ บัวหลวง money Tips
สัปดาห์ที่แล้วได้พูดถึงหลักการดูคุณภาพและบริการเพื่อช่วยเป็นองค์ประกอบการตัดสินใจซื้อกองทุนหุ้นไปแล้ว สัปดาห์นี้มาดูกันต่อว่าถ้าอยากลงทุนในกองทุนตราสารหนี้จะเลือกกองทุนอย่างไร เลือกบริษัทจัดการอย่างไร
หลักการเลือกกองทุนตราสารหนี้เพื่อลงทุนก็สามารถใช้เรื่อง คุณภาพและบริการ มาช่วยพิจารณาได้เช่นกัน เนื่องจากธรรมชาติของการลงทุนในตราสารหนี้ ผู้ลงทุนให้ความสำคัญกับความมั่นคงของเงินลงทุนมากกว่าการอยากได้ผลตอบแทนสูงๆ การพิจารณาคุณภาพของกองทุนตราสารหนี้จึงต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินลงทุนมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะหากเกิดความเสียหายขึ้นจะไม่คุ้มค่ากับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชำระหนี้หรือ Default Risk ที่หากเกิดขึ้นจะสร้างความเสียหายกับผู้ลงทุนอย่างมาก
การจะพิจารณาคุณภาพของกองทุนตราสารหนี้ จำเป็นต้องทำความเข้าใจความสัมพันธ์เรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทนของตราสารหนี้เสียก่อน โดยสาระสำคัญคือ ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีรัฐค้ำประกันจะมีความเสี่ยงมากกว่าตราสารหนี้ของเอกชน แต่ตราสารหนี้ของเอกชนควรจะให้ผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า และในภาวะปกติตราสารหนี้ที่ยังมีอายุคงเหลือยาวๆ จะมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่าตราสารหนี้ที่อายุคงเหลือสั้นๆ
ปัจจุบันกองทุนตราสารหนี้มีความหลากหลายมากขึ้นและมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น หรือกองทุนตราสารหนี้ทั่วไปที่มีนโยบายการบริหารพอร์ตเพื่อวัตถุประสงค์ใช้ร่วมกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ กองทุนกลุ่มนี้ที่ถือว่าบริษัทจัดการบริหารแล้วมีคุณภาพดีจะต้องมีสภาพคล่องสูงมาก มีความปลอดภัยของเงินลงทุนสูง ต้องไม่ลงทุนในตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ต่ำๆ ความผันผวนของราคา NAV จะต้องมีให้น้อยที่สุด เพราะวัตถุประสงค์ของการลงทุนก็เพื่อใช้เป็นบัญชีพักเงินซื้อขายได้ทุกวันแต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ผู้จัดการกองทุนต้องไม่เน้นเพิ่มความเสี่ยงแลกกับผลตอบแทนสูงๆ โดยไม่จำเป็น
กองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 2 ปี กองทุนกลุ่มนี้ออกแบบสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้มีเงินฝากประเภทฝากประจำ มีเงินลงทุนเป็นที่สามารถลงทุนนานๆ ตามอายุกองทุนได้ โดยไม่ต้องการใช้เงินก่อนกองทุนครบอายุ เพื่อแลกกับผลตอบแทนที่ควรจะสูงกว่ากลุ่มกองทุนรวมตลาดเงิน ด้วยเงื่อนไขการลงทุนที่ซื้อแล้วถือยาว สภาพคล่องจึงต่ำ คุณภาพกองทุนกลุ่มนี้จึงเป็นเรื่องของความมั่นคงของตราสารเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะผู้ลงทุนต้องลงทุนยาวตามช่วงเวลา ถอนระหว่างทางไม่ได้ ลงทุนแล้วเปลี่ยนใจไม่ได้ ส่วนใหญ่กองทุนประเภทนี้จะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาครัฐอื่นๆ ที่มีความปลอดภัยสูง หรือตราสารหนี้ของสถาบันการเงินที่ได้รับความน่าเชื่อถือระดับดีๆ ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือดีระดับเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลไทย
กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากโอกาสการลงทุนที่เปิดกว้างให้กองทุนรวมไปลงทุนต่างประเทศได้ ปัจจุบันจึงเห็นว่ามีกองทุนตราสารหนี้จำนวนมากนิยมไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะมีตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าทั้งที่ระดับความเสี่ยงไม่เพิ่มขึ้น หรือน้อยกว่าด้วยซ้ำเมื่อเทียบโดยดูจากอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น กองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ที่ออกมาเสนอขายในช่วงนี้ คุณภาพสำคัญของกองทุนที่ไปลงทุนต่างประเทศก็คือบริหารเรื่องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ส่วนใหญ่กองทุนกลุ่มนี้จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้เต็มจำนวนเพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจ แต่ก็มีบางกองทุนเลือกที่จะไม่ปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือปิดความเสี่ยงแค่บางส่วน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนนี้มีต้นทุน ตราสารต่างประเทศบางภูมิภาคหากป้องกันความเสี่ยงด้วยจะทำให้ผลตอบแทนที่เหลือถึงผู้ถือหน่วยมีน้อยเกินไป จึงก็เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนในกองทุนประเภทนี้ต้องเข้าใจและยอมรับก่อนที่จะลงทุนด้วย
สำหรับด้านบริการ บริษัทจัดการมีหน้าที่ต้องดูแลผู้ถือหน่วยลงทุนในหลายๆ ด้าน เนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้จะขึ้นกับดอกเบี้ยที่กองทุนได้รับตามระยะเวลาลงทุนเป็นสำคัญ กองทุนตราสารหนี้ที่ดีจึงควรจ่ายเงินคืนให้กับผู้ถือหน่วยได้รวดเร็ว ภายใน 1 ถึง 2 วันทำการ การจ่ายเงินคืนกับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ช้าจะทำให้ผู้ลงทุนเสียโอกาสของดอกเบี้ยในแต่ละวันไปด้วย บริษัทจัดการที่มีการบริหารจัดการและออกแบบกองทุนตราสารหนี้ไว้ดีๆ ผู้ลงทุนจะสามารถรับเงินได้รวดเร็ว วิธีที่ดีที่สุดคือการโอนเข้าบัญชีธนาคาร
นอกจากนี้การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ผู้ลงทุนอาจมีวัตถุประสงค์ลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว หรืออาจเป็นเพียงการพักเงิน ดังนั้นบริษัทจัดการที่ดีควรมีช่องทางการติดต่อซื้อขายได้ง่าย รวดเร็ว เช่น มีตัวแทนขายจำนวนมาก มีบริการซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์ ตู้ ATM ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญสำหรับการเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ของแต่ละบริษัทจัดการมากเช่นกัน
สัปดาห์ที่แล้วได้พูดถึงหลักการดูคุณภาพและบริการเพื่อช่วยเป็นองค์ประกอบการตัดสินใจซื้อกองทุนหุ้นไปแล้ว สัปดาห์นี้มาดูกันต่อว่าถ้าอยากลงทุนในกองทุนตราสารหนี้จะเลือกกองทุนอย่างไร เลือกบริษัทจัดการอย่างไร
หลักการเลือกกองทุนตราสารหนี้เพื่อลงทุนก็สามารถใช้เรื่อง คุณภาพและบริการ มาช่วยพิจารณาได้เช่นกัน เนื่องจากธรรมชาติของการลงทุนในตราสารหนี้ ผู้ลงทุนให้ความสำคัญกับความมั่นคงของเงินลงทุนมากกว่าการอยากได้ผลตอบแทนสูงๆ การพิจารณาคุณภาพของกองทุนตราสารหนี้จึงต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเงินลงทุนมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะหากเกิดความเสียหายขึ้นจะไม่คุ้มค่ากับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชำระหนี้หรือ Default Risk ที่หากเกิดขึ้นจะสร้างความเสียหายกับผู้ลงทุนอย่างมาก
การจะพิจารณาคุณภาพของกองทุนตราสารหนี้ จำเป็นต้องทำความเข้าใจความสัมพันธ์เรื่องความเสี่ยงและผลตอบแทนของตราสารหนี้เสียก่อน โดยสาระสำคัญคือ ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีรัฐค้ำประกันจะมีความเสี่ยงมากกว่าตราสารหนี้ของเอกชน แต่ตราสารหนี้ของเอกชนควรจะให้ผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า และในภาวะปกติตราสารหนี้ที่ยังมีอายุคงเหลือยาวๆ จะมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่าตราสารหนี้ที่อายุคงเหลือสั้นๆ
ปัจจุบันกองทุนตราสารหนี้มีความหลากหลายมากขึ้นและมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น หรือกองทุนตราสารหนี้ทั่วไปที่มีนโยบายการบริหารพอร์ตเพื่อวัตถุประสงค์ใช้ร่วมกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ กองทุนกลุ่มนี้ที่ถือว่าบริษัทจัดการบริหารแล้วมีคุณภาพดีจะต้องมีสภาพคล่องสูงมาก มีความปลอดภัยของเงินลงทุนสูง ต้องไม่ลงทุนในตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ต่ำๆ ความผันผวนของราคา NAV จะต้องมีให้น้อยที่สุด เพราะวัตถุประสงค์ของการลงทุนก็เพื่อใช้เป็นบัญชีพักเงินซื้อขายได้ทุกวันแต่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ผู้จัดการกองทุนต้องไม่เน้นเพิ่มความเสี่ยงแลกกับผลตอบแทนสูงๆ โดยไม่จำเป็น
กองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี 2 ปี กองทุนกลุ่มนี้ออกแบบสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้มีเงินฝากประเภทฝากประจำ มีเงินลงทุนเป็นที่สามารถลงทุนนานๆ ตามอายุกองทุนได้ โดยไม่ต้องการใช้เงินก่อนกองทุนครบอายุ เพื่อแลกกับผลตอบแทนที่ควรจะสูงกว่ากลุ่มกองทุนรวมตลาดเงิน ด้วยเงื่อนไขการลงทุนที่ซื้อแล้วถือยาว สภาพคล่องจึงต่ำ คุณภาพกองทุนกลุ่มนี้จึงเป็นเรื่องของความมั่นคงของตราสารเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะผู้ลงทุนต้องลงทุนยาวตามช่วงเวลา ถอนระหว่างทางไม่ได้ ลงทุนแล้วเปลี่ยนใจไม่ได้ ส่วนใหญ่กองทุนประเภทนี้จะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ภาครัฐอื่นๆ ที่มีความปลอดภัยสูง หรือตราสารหนี้ของสถาบันการเงินที่ได้รับความน่าเชื่อถือระดับดีๆ ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือดีระดับเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลไทย
กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากโอกาสการลงทุนที่เปิดกว้างให้กองทุนรวมไปลงทุนต่างประเทศได้ ปัจจุบันจึงเห็นว่ามีกองทุนตราสารหนี้จำนวนมากนิยมไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะมีตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าทั้งที่ระดับความเสี่ยงไม่เพิ่มขึ้น หรือน้อยกว่าด้วยซ้ำเมื่อเทียบโดยดูจากอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น กองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ที่ออกมาเสนอขายในช่วงนี้ คุณภาพสำคัญของกองทุนที่ไปลงทุนต่างประเทศก็คือบริหารเรื่องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ส่วนใหญ่กองทุนกลุ่มนี้จะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้เต็มจำนวนเพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจ แต่ก็มีบางกองทุนเลือกที่จะไม่ปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือปิดความเสี่ยงแค่บางส่วน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนนี้มีต้นทุน ตราสารต่างประเทศบางภูมิภาคหากป้องกันความเสี่ยงด้วยจะทำให้ผลตอบแทนที่เหลือถึงผู้ถือหน่วยมีน้อยเกินไป จึงก็เป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนในกองทุนประเภทนี้ต้องเข้าใจและยอมรับก่อนที่จะลงทุนด้วย
สำหรับด้านบริการ บริษัทจัดการมีหน้าที่ต้องดูแลผู้ถือหน่วยลงทุนในหลายๆ ด้าน เนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้จะขึ้นกับดอกเบี้ยที่กองทุนได้รับตามระยะเวลาลงทุนเป็นสำคัญ กองทุนตราสารหนี้ที่ดีจึงควรจ่ายเงินคืนให้กับผู้ถือหน่วยได้รวดเร็ว ภายใน 1 ถึง 2 วันทำการ การจ่ายเงินคืนกับผู้ถือหน่วยลงทุนได้ช้าจะทำให้ผู้ลงทุนเสียโอกาสของดอกเบี้ยในแต่ละวันไปด้วย บริษัทจัดการที่มีการบริหารจัดการและออกแบบกองทุนตราสารหนี้ไว้ดีๆ ผู้ลงทุนจะสามารถรับเงินได้รวดเร็ว วิธีที่ดีที่สุดคือการโอนเข้าบัญชีธนาคาร
นอกจากนี้การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ผู้ลงทุนอาจมีวัตถุประสงค์ลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว หรืออาจเป็นเพียงการพักเงิน ดังนั้นบริษัทจัดการที่ดีควรมีช่องทางการติดต่อซื้อขายได้ง่าย รวดเร็ว เช่น มีตัวแทนขายจำนวนมาก มีบริการซื้อขายทางอินเตอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์ ตู้ ATM ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญสำหรับการเลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ของแต่ละบริษัทจัดการมากเช่นกัน