xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้ออกกองFIFทองคำ ชูจุดเด่นยิลด์สูงแถมความเสี่ยงต่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"บลจ.ทิสโก้"เปิดตัวกองทุนใหม่ "ทิสโก้ โกลด์ ลิ้งค์ ฟันด์" เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอิงผลตอบแทนกับราคาทองคำ ชูจุดเด่นความเสี่ยงต่ำ แม้ราคาทองคำต่ำลงยังได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน คาดการณ์ผลตอบแทนที่ 8.5% เปิดจองหน่วยลงทุนในวันที่ 6-13 พ.ค.นี้
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการหัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (FIF) กองทุนใหม่ คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ลิ้งค์ ฟันด์ (TISCO Gold Link Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคาทองคำในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี 15 วัน ในระหว่างวันที่ 6-13 พฤษภาคม 2551

ทั้งนี้กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ลิ้งค์ ฟันด์จะได้รับชำระคืนเงินต้นเต็มจำนวนเมื่อครบอายุตราสารในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ในขณะที่ผลตอบแทนเพิ่มเติมที่กองทุนจะได้รับจากการลงทุน จะแบ่งเป็น 2 สมมติฐานคือ หากราคาทองคำ ณ วันที่สิ้นสุดสัญญาลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับราคาทองคำ ณ วันแรกที่ทำสัญญาลงทุน กองทุนจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติม (% ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย) แต่หากราคาทองคำ ณ วันที่สิ้นสุดสัญญาลงทุนน้อยกว่าราคาทองคำ ณ วันแรกที่ทำสัญญาลงทุน กองทุนจะได้รับชำระคืนเงินต้นแทน หรือได้ผลตอบแทน 0%

โดยยกตัวอย่าง เช่น หากราคาทองคำ ณ วันแรกที่เริ่มต้นลงทุนมีมูลค่าเท่ากับ 950 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อออนซ์ และเงินลงทุนเริ่มต้นเท่ากับ 100,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และหากภายในระยะเวลาลงทุนคือประมาณ 1 ปี 15 วัน ราคาทองคำ ณ วันที่สิ้นสุดสัญญาลงทุนมีราคามากกว่าหรือเท่ากับราคาทองคำ ณ วันแรกที่ทำสัญญาลงทุน กองทุนจะได้รับผลตอบแทน 8.75% ต่อปี แต่หากราคาทองคำ ณ วันที่สิ้นสุดสัญญาลงทุนน้อยกว่าราคาทองคำ ณ วันแรกที่ทำสัญญาลงทุน กองทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนเพิ่มเติม (0%) ดังนั้นเมื่อถึงวันสิ้นสุดสัญญาลงทุน พบว่าราคาทองคำมากกว่าหรือเท่ากับ 950 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อออนซ์ ผลตอบแทนที่จะได้รับคือ 108,750 ดอลลาร์ออสเตรเลีย แต่หากราคาทองคำน้อยกว่า 950 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อออนซ์ ก็จะได้รับเงินต้นคืน เป็นต้น

นายธีรนาถ กล่าวว่า สาเหตุที่ออกกองทุนในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า 150% ตั้งแต่ปี 2001 ถึงปัจจุบัน และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2009 ราคาทองคำมีโอกาสสูงขึ้นถึงระดับกว่า 1,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ความต้องการทองคำยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะกลุ่มประเทศผู้บริโภคหลัก เช่น อินเดีย จีน (ประเทศที่มีปริมาณการใช้ทองเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลกตามลำดับ) และประเทศในตะวันออกกลางล้วนมีแนวโน้มบริโภคทองคำมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับ ปริมาณแร่ทองที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ ดังนั้นผลผลิตจากเหมืองทองคำจึงมีปริมาณลดลง ในขณะที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น นายธีรนาถ กล่าว

“ทองคำยังเป็นเครื่องมือในการลดผลกระทบจากเงินเฟ้อ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าในตัวเองเช่นเดียวกับเงินสด และเป็นสินทรัพย์ที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในด้านการป้องกันความเสี่ยงจากการด้อยค่าในระยะยาว และทองคำยังมีการเปลี่ยนแปลงราคาที่แทบจะไม่มีความสอดคล้อง (Correlation) กับตราสารหนี้ ตราสารทุน และราคาอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นการลงทุนในทองคำจึงมีความน่าสนใจมากในภาวะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง” นายธีรนาถ กล่าว

สำหรับจุดเด่นของกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ลิ้งค์ ฟันด์ คือ ผู้ลงทุนจะมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากหรือตราสารหนี้ทั่วไป และมีความเสี่ยงค่อนข้างน้อย แม้ราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวลดลงก็ยังได้รับเงินต้นคืน

“ขณะนี้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และกองทุนตราสารหนี้ทั่วไปที่ถึงแม้จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก แต่ยังน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ฝากเงินให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงไม่มาก กองทุนนี้จึงน่าจะตอบโจทย์ดังกล่าวได้ เพราะเงื่อนไขที่จะมีโอกาสรับผลตอบแทนนั้นง่ายมาก เพียงราคาทองคำมากกว่าหรือเท่ากับราคาทองคำ ณ วันแรกที่ทำสัญญาลงทุน ผู้ลงทุนก็จะได้รับผลตอบแทนแล้ว อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ระยะเวลาลงทุนก็ไม่นานคือ เพียงประมาณ 1 ปี 15 วัน”

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเงินต้นและผลตอบแทนที่กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ลิ้งค์ ฟันด์จะได้รับอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ดังนั้นกองทุนจึงมีความไม่แน่นอนจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย คือถ้าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ผลตอบแทนอาจลดน้อยลง แต่ถ้าเงินบาทอ่อนค่าในอนาคต ผู้ลงทุนก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น