บัวหลวงชี้วางบอมบ์ไม่กระทบ เดินหน้าส่งกองทุนทองคำลุยตลาดต่อ

บลจ. บัวหลวง เผยเหตุวางระเบิดแบงก์กรุงเทพ ไม่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ระบุไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ล่าสุด เดินหน้าเพิ่มทางเลือกนักลงทุนต่อ จ่อส่งกองทุนทองคำลุยตลาด ช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนลูกค้า คาดเปิดขายได้กลางเดือนพฤษภาคมนี้

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีการวางระเบิดเกิดขึ้นของธนาคารกรุงเทพทั้ง 4 จุดในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนแต่อย่างใด

เนื่องจากว่าในช่วงที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น บริษัทเองได้ดูการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงคึกคักอยู่ รวมถึงยอดซื้อกองทุนรวมเองก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะเชื่อว่าไม่มีผลดีต่อทุกฝ่ายอย่างแน่นอน

สำหรับกองทุนทองคำที่บริษัทมีแผนจะออกนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติ และดูถึงรายละเอียดอยู่

ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนในทองคำ 99.99% ในต่างประเทศ เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักลงทุน

“สินค้าประเภททองคำ พลังงาน สินค้าเกษตร เราต้องมีบ้าง เพราะมันจะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ ในช่วงที่ระหว่างตลาดมีความผันผวน สินค้าโภคภัณฑ์ก็ควรมีอยู่ในพอร์ตการลงทุนบ้าง เพราะราคาของสินค้าโภคภัณฑ์เองไม้ค่อยจะไปในทิศทางเดียวกันกับความผันผวน มันจะเป็นการช่วยพยุงพอร์ตการลงทุนของเราได้”

นางวรวรรณกล่าวว่า โดยปกติ ราคาทองคำกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐจะไปในทิศทางตรงกันข้าม เพราะทองคำถูกยอมรับให้เป็นเหมือนกับ Currency อีกชนิดหนึ่งในโลกไปแล้ว จึงมีการ Trade เหมือน Currency ผลก็คือ

เมื่อ USD อ่อนค่าลงใน foreign exchange market ต่อเนื่องยาวนาน ราคาทองคำเป็น USD ก็พุ่งขึ้นในเวลาเดียวกัน และเมื่อ USD แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องหลายเดือน ราคาทองคำก็ลดลง โดยอาจมีการเหลื่อมเวลากันบ้าง

และไม่จำเป็นต้องขึ้นลงในอัตราเดียวกัน แต่ก็มีบางครั้งที่ไม่เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามในช่วงสั้นๆ เช่นในช่วงปี คศ 1978-1980, 1993 และ 2005 แต่เพียงชั่วคราวเท่านั้น

ดังนั้น การทำนายราคาทองคำจึงเป็นการทำนายทิศทางของ USD และในปี 2553 หากอัตราดอกเบี้ยเริ่มขยับขึ้นในช่วงครึ่งหลัง ทิศทางของเงิน USD ก็น่าจะแข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ

ล่าสุด บริษัทได้ออกกองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อรองรับกลุ่มนักลงทุนอย่างต่อเนื่องที่ยังมีอยู่เพิ่มขึ้นอีก 3 กองทุน โดยเริ่มเปิดไอพีโอแล้วระหว่างวันที่ 3 – 9 มีนาคม 2553 นี้ เพื่อมารองรับกลุ่มนักลงทุนต่อไป

โดยกองทุนรวมพันธบัตรต่างประเทศได้แก่ กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 9/10 (BP9/10)อายุประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท และกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 10/10(BP10/10)อายุประมาณ 9 เดือน มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาทเช่นกัน

ทั้งนี้ 2 กองทุนดังกล่าว จะลงทุนตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศเช่น พันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ A- ขึ้นไป

ส่วนกองทุนที่ลงทุนพันธบัตรในประเทศได้แก่ กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 5/10 (B5/10) อายุประมาณ 5 เดือน โดยจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง หรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน