ผู้จัดการรายวัน - บลจ.ไทยพาณิชย์ส่งกองทุนตราสารหนี้ลุยตลาดต่อ รองรับความต้องการนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง ล่าสุด เปิดขายเพิ่มอีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 4.5 พันล้านบาท เสนอทางเลือกลงทุนระยะ 6 เดือนและ 12 เดือน ในพันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ภาคเอกชน เปิดขายไอพีโอพร้อมกันวันที่ 14 – 20 พ.ย.นี้
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนใหม่จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรและตราสารธนาคาร 10 (SCBGBANK10) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ภาคเอกชน รวมทั้งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 6M49 (SCBGB6M49) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 6 เดือน เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 12M18 (SCBGB12M18) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุประมาณ 12 เดือน เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทยเช่นกัน โดยทั้ง 3 โครงการจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวระหว่างวันที่ 14 – 20 พฤศจิกายน 2551 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุน SCBGBANK10 จะเน้นลงทุนใน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย และ/หรือ ตราสารธนาคารพาณิชย์ และ/หรือ เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนอาจจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 6 เดือน โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 6 เดือน
โดยเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ อาจเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับ และหรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (non investment grade) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนรวม
ส่วนกองทุน SCBGB6M49 จะเน้นลงทุนใน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรองผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย และ/หรือเงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ขณะเดียวกันในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนอาจจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 6 เดือน โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุนซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 6 เดือน และเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ อาจเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับ และหรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (non investment grade) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนรวม
ขณะที่กองทุน SCBGB12M18 จะเน้นลงทุนใน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ออกผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย และ/หรือเงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนอาจจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 12 เดือน โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 12 เดือน
สำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ อาจเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับ และหรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (non investment grade) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนรวม
ทั้งนี้ ทั้ง 3 กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) และจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้านราคาของตราสาร
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนใหม่จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรและตราสารธนาคาร 10 (SCBGBANK10) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย และตราสารหนี้ภาคเอกชน รวมทั้งกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 6M49 (SCBGB6M49) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 6 เดือน เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล 12M18 (SCBGB12M18) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท อายุประมาณ 12 เดือน เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทยเช่นกัน โดยทั้ง 3 โครงการจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวระหว่างวันที่ 14 – 20 พฤศจิกายน 2551 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุน SCBGBANK10 จะเน้นลงทุนใน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย และ/หรือ ตราสารธนาคารพาณิชย์ และ/หรือ เงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนอาจจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 6 เดือน โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 6 เดือน
โดยเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ อาจเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับ และหรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (non investment grade) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนรวม
ส่วนกองทุน SCBGB6M49 จะเน้นลงทุนใน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรองผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย และ/หรือเงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
ขณะเดียวกันในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนอาจจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 6 เดือน โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุนซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 6 เดือน และเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ อาจเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับ และหรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (non investment grade) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนรวม
ขณะที่กองทุน SCBGB12M18 จะเน้นลงทุนใน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน หรือพันธบัตร หรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลัง เป็นผู้ออกผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย และ/หรือเงินฝาก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่กองทุนคาดว่าจะไม่สามารถซื้อตราสารที่มีอายุคงเหลือดังกล่าวได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ กองทุนอาจจะเข้าลงทุนในตราสารที่มีอายุยาวกว่า 12 เดือน โดยจะเข้าทำสัญญาขายตราสารดังกล่าวล่วงหน้า เพื่อให้อายุของสัญญาสอดคล้องกับวันรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งกำหนดไว้ประมาณ 12 เดือน
สำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด หรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ อาจเป็นได้ทั้งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ จากสถาบันจัดอันดับ และหรือเป็นตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับ (non investment grade) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับกองทุนรวม
ทั้งนี้ ทั้ง 3 กองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) และจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้านราคาของตราสาร