บลจ.ทหารไทย ชี้ราคาทองคำมีความผันผวนมาก หลังนักลงทุนต่างประเทศเข้าลงทุนในทองคำ แนะนักตกทองที่หวังเก็งกำไร หากได้ผลตอบแทนประมาณ 5-10% ควรรีบเทขาย เพราะหากถือไว้มีอาจมีความเสี่ยง พร้อมชู ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนประเภทอื่นในยามนี้ ส่วนผลงานกองทุน "ทหารไทย โกลด์ ฟันด์" ย้อนหลัง 3 เดือนพุ่ง 34.35%
นายกำพล อัศวกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงสถานกาณณ์ของราคาทองคำในช่วงนี้ว่า ราคาทองคำในขณะนี้มีความผันผวนมาก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติพากันเข้าไปลงทุนในทองคำกันมาก เพราะเห็นว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและน่าลงทุนในภาวะเช่นนี้ ซึ่งเมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นนักลงทุนก็จะเทขายเพื่อกำไรออกมา แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนในทองคำจะได้รับผลตอบแทนที่ดีแต่ยังมีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ยังแนะนำด้วยว่า สำหรับนักลงทุนที่ถือทองคำเพื่อเก็งกำไรอยู่นั้น หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นและเห็นว่าได้รับผลตอบแทนประมาณ 5-10% นักลงทุนควรรีบเทขายเพราะสถานการณ์ของราคาทองคำมีความผันผวนมากอาจจะมีความเสี่ยงได้ โดยจะเห็นว่าการเก็งกำไรในราคาทองคำนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่น
"ไม่มีการลงทุนในสินทรัพย์ใดในภาวะเช่นนี้ที่สามารถให้ผลตอบแทนได้ถึง 10% เท่ากับการเก็งกำไรจากราคาทองคำ" นายกำพล กล่าว
นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ของราคาทองคำนั้นเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นมาก เมื่อถึงระดับหนึ่งนักลงทุนจะพากันเทขายทองคำออกมาเพื่อทำกำไร และทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมา และจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไร สามารถเข้าไปซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรได้อีก
ขณะเดียวกัน บรรดานักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำจะมีความผันผวนอยู่ตลอดทั้งปี นักลงทุนที่จะลงทุนในทองคำต้องระมัดระวังให้มาก นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทองคำถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับลดน้อยลง เพราะปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ได้ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน โดย ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนมีผการดำนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 34.35% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานดัชนีราคาทองคำในตลาด New York (สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ) อยู่ที่ 33.43% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 27.88% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ 23.10% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่17.37% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานซึ่งอยู่ที่ 8.80% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 62.23% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ 95.46% ทั้งนี้เมื่อเทียบ กับเกณฑ์มาตราฐาน ดัชนีราคาทองคำในตลาดทองคำแท่งประเทศไทย (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ 29.03% 23.55% 13.88% 62.44% ตามลำดับ
สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมพิเศษ มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 อยู่ที่ 824,969,219 บาท โดยกองทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำ โดยจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำ ส่วนที่เหลือ ลงทุนในหลักทรัพย์อื่นใดที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีนโยบายการลงทุนซึ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุน เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำให้มากที่สุด
นายกำพล อัศวกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงสถานกาณณ์ของราคาทองคำในช่วงนี้ว่า ราคาทองคำในขณะนี้มีความผันผวนมาก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติพากันเข้าไปลงทุนในทองคำกันมาก เพราะเห็นว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและน่าลงทุนในภาวะเช่นนี้ ซึ่งเมื่อราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นนักลงทุนก็จะเทขายเพื่อกำไรออกมา แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการลงทุนในทองคำจะได้รับผลตอบแทนที่ดีแต่ยังมีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ยังแนะนำด้วยว่า สำหรับนักลงทุนที่ถือทองคำเพื่อเก็งกำไรอยู่นั้น หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นและเห็นว่าได้รับผลตอบแทนประมาณ 5-10% นักลงทุนควรรีบเทขายเพราะสถานการณ์ของราคาทองคำมีความผันผวนมากอาจจะมีความเสี่ยงได้ โดยจะเห็นว่าการเก็งกำไรในราคาทองคำนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์อื่น
"ไม่มีการลงทุนในสินทรัพย์ใดในภาวะเช่นนี้ที่สามารถให้ผลตอบแทนได้ถึง 10% เท่ากับการเก็งกำไรจากราคาทองคำ" นายกำพล กล่าว
นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ของราคาทองคำนั้นเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นมาก เมื่อถึงระดับหนึ่งนักลงทุนจะพากันเทขายทองคำออกมาเพื่อทำกำไร และทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมา และจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไร สามารถเข้าไปซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไรได้อีก
ขณะเดียวกัน บรรดานักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำจะมีความผันผวนอยู่ตลอดทั้งปี นักลงทุนที่จะลงทุนในทองคำต้องระมัดระวังให้มาก นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทองคำถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับลดน้อยลง เพราะปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ได้ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน โดย ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนมีผการดำนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 34.35% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานดัชนีราคาทองคำในตลาด New York (สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ) อยู่ที่ 33.43% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 27.88% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ 23.10% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่17.37% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานซึ่งอยู่ที่ 8.80% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 62.23% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ 95.46% ทั้งนี้เมื่อเทียบ กับเกณฑ์มาตราฐาน ดัชนีราคาทองคำในตลาดทองคำแท่งประเทศไทย (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ 29.03% 23.55% 13.88% 62.44% ตามลำดับ
สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมพิเศษ มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2552 อยู่ที่ 824,969,219 บาท โดยกองทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำ โดยจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำ ส่วนที่เหลือ ลงทุนในหลักทรัพย์อื่นใดที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยมีนโยบายการลงทุนซึ่งเน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุน เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำให้มากที่สุด
