xs
xsm
sm
md
lg

ความหลากหลายของสินทรัพย์ โอกาส...ที่นักลงทุนไทยต้องรอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หัวใจของการลงทุนที่กูรูต่างๆ มักพูดถึงคือ”High Risk High Return” ที่ตัวแปรสำคัญจะพิจาราณาในเรื่องของความเสี่ยงและผลตอบแทน ซึ่งมักจะแปรผันในทิศทางตรงกันข้ามกันเสมอ โดยสินค้า หรือเครื่องมือการลงทุนที่ออกแบบมาส่วนใหญ่ก็มักจะอิงผลตอบแทนตามรูปแบบนี้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งหากพิจารณาตลาดการลงทุนในประเทศไทยจะพบว่ายังมีสินค้าให้เลือกลงทุนไม่หลากหลายเท่าในต่างประเทศ โดยหลังจากที่มีการเปิดโอกาสให้กองทุนรวมสามารถไปลงทุนในต่างประเทศได้ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนเริ่มมีความรับรู้ด้านการลงทุน และสินค้าที่มีอยู่ในต่างประเทศบางแล้ว
คำถามที่ตามมาคือ หลังจากนี้ยังมีสินค้าอะไรอีกที่น่าสนใจ แล้วอนาคตของนักลงทุนไทยจะรับสินค้าอะไรได้บ้าง หรือสินค้าอะไรบ้างที่น่าจะเป็นที่นิยมของนักลงทุนไทย
กำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด พูดถึงเรื่องนี้ว่า กองทุนรวมต่างประเทศหรือ เอฟไอเอฟ เป็นกองทุนที่มีความหลากหลายในการลงทุนมากกว่าการลงทุนในประเทศไทย นอกจากนี้แล้วขนาดของหลักทรัพย์ก็ยังมีความกว้างขวางมากกว่าอีกด้วย โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นนั้นยังมีความหลากหลายและมีความลึกมากกว่าของไทยด้วย เช่น อุตสากรรมการผลิตยานั้น ของไทยส่วนใหญ่ยังเป็นรายย่อย แต่ของต่างประเทศนั้นมีการใช้กันอย่างทั่วโลก เช่นตัวยาเกี่ยวกับโรคเอดส์ เป็นต้น
นอกจากนี้แล้วกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญโตมากและได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี รวมถึงกลุ่มพลังงานทางเลือกเกี่ยวกับธุรกิจบำบัดสิ่งแวดล้อม และในส่วนของอนุพันธ์ต่างประเทศเองก็ได้มีการพัฒนามากว่าในไทย นอกจากนี้แล้วกลุ่มคอมมูนิตี้ยังมีความหลากหลายในการลงทุนอีกเช่นกัน
"กำพล" กล่าวอีกว่าในส่วนของการลงทุนนั้นในระยะเริ่มแรกที่รัฐบาลได้เข้ามาสนับสนุนในการลงทุนต่างประเทศแล้วนั้น ทำให้หลายบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึง บลจ. ต่างต้องออกมาให้ความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ว่ากองทุนดังกล่าวสามารถให้ผลตอบแทนเป็นอย่างไรและมีปัจจัยความเสี่ยงเป็นอยู่ในระดับไหน เหมาะสมกับนักลงทุนอย่างไร เพราะเนื่องจากแต่ละประเทศที่จะเข้าไปลงทุนนั้นมีปัจจัยความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป ในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน สกุลเงินด้วย
ขณะที่ ณสุ จันทร์สม ผู้อำนวยการฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน EFG Bank (สิงคโปร์) เล่าให้ฟังว่า จริงๆ แล้วการลงทุนในต่างประเทศที่น่าสนใจมีอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นคอมมอดิตี้ ที่ในประเทศไทยเองยังจำกัดตรงที่มีจำนวนไม่มากนัก การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน หรือการลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง ขณะเดียวกัน การลงทุนอะไรที่ที่เป็นนวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ ก็น่าสนใจเช่นกันซึ่งการลงทุนหลายๆ ประเภทที่กล่าวมา บางส่วนยังมีข้อจำกัดในแง่ของกฏเกณฑ์การลงทุนจากหน่วยงานที่กำกับดูแลอยู่
ในปัจจุบันเราจะเห็นว่ากองทุนรวมที่ออกไปลงทุนต่างประเทศส่วนใหญ่ จะเป็นลักษณะของการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีอยู่แล้วในต่างประเทศ ทั้งแบบที่ลงทุนในกองทุนเดียว (Feeder Fund) หรือลงทุนในกองทุนหลายๆ กอง (Fund of Fund) แต่หากมองรูปแบบการลงทุนที่ออกไปลงทุนตรงนั้นยังไม่มี ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าน่าจะได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น
"จริงๆ แล้วการลงทุนที่หวังผลตอบแทนสูงๆ น่าจะเป็นอะไรที่สามารถลงทุนได้ ไม่ใช่แค่ลงทุนเพื่อการจายความเสี่ยงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่ง EFG ก็มีการคุยกับบลจ.ในประเทศหลายรายเช่นกัน ในการเสนอกองทุนที่ให้มีความน่าสนใจในแง่ของผลตอบแทน"
ณสุบอกว่า แม้รูปแบบการลงทุนใหม่ๆ ผู้ลงทุนในบ้านเราอาจจะยังไม่เข้าใจมากนัก และอาจจะขายยาก แต่คนที่ให้โอกาสในการเลือกลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ น่าจะเป็นคนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนดีเช่นกัน

แนะคนไทยเลือกจังหวะลงทุนอย่างเหมาะสม
หลังจากที่เลือกสินค้าที่จะลงทุนได้แล้ว ช่วงเวลาที่จะเข้าไปลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะความเสี่ยงกับผลตอบแทนนอกจากสินค้าที่จะเข้าไปลงทุนแล้ว การจัดการเพื่อลดความเสี่ยงและเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ และช่วงเวลาในการเข้าลงทุนคงจะเป็นกุญแจดอกสำคัญกับการจัดการในเรื่องนี้ นอกเหนือนจากความรู้ที่จำเป็นต้องมี
วรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟิลลิป กล่าวว่า สำหรับนักลงทุนที่ต้องการออกไปลงทุนในต่างประเทศนั้น ส่วนตัวแนะนำให้เลือกลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุน หรือกองทุนที่ลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ (คอมมูดีตี้) หรือกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้
อย่างไรก็ตามตอนนี้สภาพตลาดทั่วโลกมีความผันผวนค่อนข้างมาก ทำให้การเลือกลงทุนจำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลและพิจารณาถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและทำความเข้าใจถึงการลงทุนในแต่ละประเภทอย่างเหมาะสม
"ตอนนี้คิดว่านักลงทุนบางส่วนคงจะมีความพร้อมที่จะออกไปแล้ว รอให้ก.ล.ต.อนุญาติ แม้ว่าใจจะพร้อมแต่ตอนนี้การลงทุนค่อนข้างจะมีความผันผวนมาก นักลงทุนจึงต้องพิจารณาว่ารับความเสี่ยงได้เพียงใด โดยแนะนำว่าในช่วงแรกอาจจะอาศัยพักเงินลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ"นายวรรธนะ กล่าว
สรุปกันพอเข้าใจว่า โลกของการลงทุนยังมีสินค้าให้เลือกลงทุนได้อีกหลายช่องทาง และที่ผ่านมาบลจ.ต่างๆ ก็เตรียมพร้อมที่จะนำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า โดยบางกองทุนได้มีการให้ความรู้ในสินค้าก่อนที่จะเสนอขายแก่ลูกค้า
ส่วนความหลากหลายของสินค้าหลังจากนี้ คงจะต้องประเมินจากความรู้ และความเข้าใจของนักลงทุนว่าจะมีความพร้อม หรือเข้าใจสิ่งที่จะไปลงทุนแค่ไหน เพราะตามนิสัยของคนไทยแล้วมักจะลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่เห็นชัด และมีความเสี่ยงต่ำ แต่หากผู้ที่มีความรู้ และเคยชินกับเรื่องนี้แล้วน่าจะหันมาให้ความสนใจกับสินค้าใหม่ๆ ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
อย่างไรก็ตาม สินค้าบางตัว บางประเภทยังถูกจำกัดจาก คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ในการนำเสนอต่อนักลงทุน แต่ในอนาคตเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงย่อมมีจุดเริ่มต้น และไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุด หรือดำเนินต่อไปอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น