**ถ้ากลับไปดูผลตอบแทนย้อนหลังในการลงทุนแต่ละประเภทของปีหมูที่ผ่านมา คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการลงทุนผ่านตราสารทุน เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงมาก แม้ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นจะสามารถให้ผลตอบแทนที่สูง แต่คงไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่หัวใจไม่แข็งแรงนัก เพราะจัดว่าเป็นการลงทุนที่มีความผันผวนสูงถึงสูงมากเช่นเดียวกัน ยิ่งในปีหนูนี้นักวิเคราะห์หลายสำนักล้วนแต่มองตรงกันว่าความผันผวนในตลาดหุ้นจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนบางส่วนเลือกที่จะหาแนวทางการลงทุนที่มีความเสี่ยงที่น้อยลงแทน เช่น การลงทุนในตราสารหนี้**
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตราสารหนี้ มีจุดด้อยสำคัญอย่างหนึ่งที่มาพร้อมความเสี่ยงที่ลดลง ก็คือการให้ผลตอบแทนที่น้อย ตามกฎ **"Hight Risk Hight Return"** โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศที่อาจจะให้ผลตอบแทนไม่จุใจสำหรับนักลงทุนบางคน วันนี้ **"MutualFund IPO"** จึงขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้กองใหม่ **"กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์" หรือ PEI กองทุนใหม่ของบริษัทหลักทรัพย์จัการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด** ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการออกไปลงทุนนอกประเทศ เพื่อแสวงหาผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่า
**กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์** เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมหน่วยลงทุน ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศ เพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ไม่กำหนดอายุโครงการ มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ทั่วไป หรือเงินฝากในสถาบันการเงินตามกฎหมายไทย ที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงินแล้วแต่กรณี ต่ำกว่า 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับดำเนินงานของกองทุน รอการลงทุนในต่างประเทศ หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรืออาจจะลงทุนในเงินฝากระยะสั้นในสถาบันการเงินหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสดในต่างประเทศ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อชำระค่าใช้จ่ายของกองทุน รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกำหนด
ขณะเดียวกันกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์ อาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) แต่หากกองทุนไม่สามารถเข้าลงทุนในกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund อันเนื่องจากการประกาศหยุดรับคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ไม่สามารถควบคุมได้ บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิที่จะนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศอื่นที่มีนโยบายใกล้เคียง โดยถือว่าได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว ในการพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศนั้น บริษัทจัดการจะพิจารณาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทจัดการจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนและสำนักงานคณะกรรม ก.ล.ต. ทราบภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่กองทุนลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินนั้น
**ด้านกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund** ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่ PEI จะเข้าไปลงทุนนั้น เป็นกองทุนเปิดที่มีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนรวมจากการลงทุน 3 อย่าง คือ 1.กองทุน PIMCO Total Return Bond Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่จะกระจายการลงทุนอย่างน้อยสองในสามของตราสารหนี้ระดับ Investment grade ที่มีอายุโดยเฉลี่ย 3-6 ปี ขึ้นอยู่กับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย 2.กองทุน PIMCO Emerging Markets Bond Fund ซึ่งลงทุนอย่างน้อย 80% ในตราสารหนี้ที่ผู้ออกอยู่ในกลุ่มประเทศ Emerging Securities Markets ที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งตราสารดังกล่าวอาจจะอยู่ในรูปของเงินสกุลดอลลาร์และเงินสกุลอื่นๆ และ 3.ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนภายใต้การบริหารของ Allianz Global Investors group หรือ Options ทีกำหนดอัตราผลตอบแทนตามผลการดำเนินงานของกองทุนนั้นๆ หรือตราสารหนี้หรือหลักทรัพย์อื่นใดตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน
**ทั้งนี้นับได้ว่ากองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์ มีจุดเด่นที่หลากหลาย เช่น กองทุนนี้เป็นการเพิ่มความน่าจะเป็นในการได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ทั่วไป เพรา PIMCO ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนหลักเป็นผู้บริหารกองทุนตราสารหนี้ขนาดใหญ่ของโลกที่มีศักยภาพการลงทุน และความชำนาญเฉพาะทางในการจัดการกองทุนตราสารหนี้ รวมทั้งเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนใน Options เพื่อการขยายฐานการลงทุน
นอกจากนี้กองทุนนี้ยังเปิดโอกาสในการรับผลตอบแทนได้ 2 รูปแบบคือ การรับเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ไม่เกินปีละ 4 ครั้งตามผลการดำเนินการของกองทุนและรับกำไรส่วนเกินทุน จากมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้จุดเด่นอีกประการที่สำคัญ คือ การที่กองทุนได้ทำการประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนในรูปสิงคโปร์ดอลลาร์ ทำให้ส่งผลดีต่อผู้ลงทุนตามแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ**
**โดยกองทุนดังกล่าว จึงเป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่ดี สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับความเสี่นงสูงมากนัก แต่ต้องการโอกาสรับโอกาสผลตอบแทนของราคาตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการลงทุนในส่วนตราสารหนี้ของนักลงทุน**
สำหรับกองทุนพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์ นั้นเปิดการจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ไปเมื่อวันที่ 2-18 มกราคม 2551 และจะเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในอีกครั้งใน 20 วันทำการหลังจากการปิดการเสนอขายครั้งแรก
**ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.พรีมาเวสท์ โทรศัพท์ 02-257-0555**
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตราสารหนี้ มีจุดด้อยสำคัญอย่างหนึ่งที่มาพร้อมความเสี่ยงที่ลดลง ก็คือการให้ผลตอบแทนที่น้อย ตามกฎ **"Hight Risk Hight Return"** โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศที่อาจจะให้ผลตอบแทนไม่จุใจสำหรับนักลงทุนบางคน วันนี้ **"MutualFund IPO"** จึงขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้กองใหม่ **"กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์" หรือ PEI กองทุนใหม่ของบริษัทหลักทรัพย์จัการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด** ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการออกไปลงทุนนอกประเทศ เพื่อแสวงหาผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่า
**กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์** เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมหน่วยลงทุน ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศ เพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ไม่กำหนดอายุโครงการ มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ทั่วไป หรือเงินฝากในสถาบันการเงินตามกฎหมายไทย ที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงินแล้วแต่กรณี ต่ำกว่า 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรองเงินไว้สำหรับดำเนินงานของกองทุน รอการลงทุนในต่างประเทศ หรือรักษาสภาพคล่องของกองทุน หรืออาจจะลงทุนในเงินฝากระยะสั้นในสถาบันการเงินหรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสดในต่างประเทศ เพื่อรอการลงทุน หรือเพื่อชำระค่าใช้จ่ายของกองทุน รวมทั้งลงทุนในหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประกาศกำหนด
ขณะเดียวกันกองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์ อาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) แต่หากกองทุนไม่สามารถเข้าลงทุนในกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund อันเนื่องจากการประกาศหยุดรับคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund ไม่สามารถควบคุมได้ บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิที่จะนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศอื่นที่มีนโยบายใกล้เคียง โดยถือว่าได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว ในการพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศนั้น บริษัทจัดการจะพิจารณาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นหลัก ทั้งนี้บริษัทจัดการจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถือหน่วยลงทุนและสำนักงานคณะกรรม ก.ล.ต. ทราบภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่กองทุนลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินนั้น
**ด้านกองทุน AllianzGI Enhanced Income & Growth Fund** ซึ่งเป็นกองทุนหลักที่ PEI จะเข้าไปลงทุนนั้น เป็นกองทุนเปิดที่มีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนรวมจากการลงทุน 3 อย่าง คือ 1.กองทุน PIMCO Total Return Bond Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่จะกระจายการลงทุนอย่างน้อยสองในสามของตราสารหนี้ระดับ Investment grade ที่มีอายุโดยเฉลี่ย 3-6 ปี ขึ้นอยู่กับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย 2.กองทุน PIMCO Emerging Markets Bond Fund ซึ่งลงทุนอย่างน้อย 80% ในตราสารหนี้ที่ผู้ออกอยู่ในกลุ่มประเทศ Emerging Securities Markets ที่ให้ผลตอบแทนสูง ซึ่งตราสารดังกล่าวอาจจะอยู่ในรูปของเงินสกุลดอลลาร์และเงินสกุลอื่นๆ และ 3.ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนภายใต้การบริหารของ Allianz Global Investors group หรือ Options ทีกำหนดอัตราผลตอบแทนตามผลการดำเนินงานของกองทุนนั้นๆ หรือตราสารหนี้หรือหลักทรัพย์อื่นใดตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน
**ทั้งนี้นับได้ว่ากองทุนเปิดพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์ มีจุดเด่นที่หลากหลาย เช่น กองทุนนี้เป็นการเพิ่มความน่าจะเป็นในการได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ทั่วไป เพรา PIMCO ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนหลักเป็นผู้บริหารกองทุนตราสารหนี้ขนาดใหญ่ของโลกที่มีศักยภาพการลงทุน และความชำนาญเฉพาะทางในการจัดการกองทุนตราสารหนี้ รวมทั้งเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนใน Options เพื่อการขยายฐานการลงทุน
นอกจากนี้กองทุนนี้ยังเปิดโอกาสในการรับผลตอบแทนได้ 2 รูปแบบคือ การรับเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ ไม่เกินปีละ 4 ครั้งตามผลการดำเนินการของกองทุนและรับกำไรส่วนเกินทุน จากมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้จุดเด่นอีกประการที่สำคัญ คือ การที่กองทุนได้ทำการประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนในรูปสิงคโปร์ดอลลาร์ ทำให้ส่งผลดีต่อผู้ลงทุนตามแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ**
**โดยกองทุนดังกล่าว จึงเป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่ดี สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับความเสี่นงสูงมากนัก แต่ต้องการโอกาสรับโอกาสผลตอบแทนของราคาตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับการลงทุนในส่วนตราสารหนี้ของนักลงทุน**
สำหรับกองทุนพรีมาเวสท์ (ไทยแลนด์) เอ็นฮานซ อินคัม ฟันด์ นั้นเปิดการจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ไปเมื่อวันที่ 2-18 มกราคม 2551 และจะเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในอีกครั้งใน 20 วันทำการหลังจากการปิดการเสนอขายครั้งแรก
**ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.พรีมาเวสท์ โทรศัพท์ 02-257-0555**