xs
xsm
sm
md
lg

สินค้าเกษตร...ขุมทรัพย์ยุคดิจิตอล?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"กินอิ่ม นอนหลับ ผลกำไรแล้วแต่โชควาสนา" เป็นเสมือนคำขวัญเตือนใจว่าสุดท้ายแล้วปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ ความสุขอย่างพอเพียงมักตั้งอยู่บนความต้องการขั้นพื้นฐาน ...แต่ความเป็นจริงในยุคโลกาภิวัฒน์กับวัฒนธรรมการบริโภคที่เกินความจำเป็น จะมีสักกี่คนที่สามารถทำใจ ไม่ให้คล้อยตามกระแสการพัฒนาที่มุ่งเน้นตอบสนองความอยากได้ อยากมีอันเกิดจากกิเลสของคนได้ แต่ความจริงที่ดำรงอยู่ ท่ามกลางแนวความคิดที่ผุดขึ้นราวกลับดอกเห็ดก็คือ พื้นฐานของความต้องการนั้นเอง

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเมื่อเราเสพสุขอยู่กับความสะดวกสบาย ที่รังสรรค์ขึ้นมานั้น ทุกชีวิตยังต้องกิน เพื่อความอยู่รอดมากกว่าความต้องการประเภทอื่นๆ และเมื่อรวมเข้ากับการบริโภคตามแนวความคิดทุนนิยมแล้ว สิ่งที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนคือแนวโน้มของราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของคนอย่าง สินค้าเกษตรคงมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกลไกลตลาดในอนาคต

สุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด พูดถึงทิศทางและ อนาคตของสินค้าเกษตร หรือ Solf Commuinity เอาไว้ว่า ในช่วงที่ผ่านมาราคาของสินค้าเกษตรมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นของประเทศกำลังพัฒนาเช่นจีน และอินเดีย และพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปตามอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้จีนต้องมีการนำเข้าสินค้าเหล่านี้มากขึ้น เนื่องจากผลผลิตที่ได้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ

"ประเทศที่มีจีดีพีสูงๆ อย่างจีนมีการปรับเปลี่ยนการกิน และที่ผ่านมามีการหันมาบริโภคเนื้อมากขึ้น จนทำให้ราคาของธัญพืชที่เกี่ยวของกับการเลี้ยงสัตว์มีราคาแพงขึ้น ซึ่งหากสังเกตให้ดีแล้ว หลังจากที่เศรษฐกิจจีนมีการปรับตัวสิ่งที่ตามมาคือการบริโภคที่เพิ่ม สังเกตุได้จากน้ำมันซึ่งเมื่อจีนหันมาใช้น้ำมันมากขึ้นราคาของมันได้มีการปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน"สุเมธกล่าว

ความต้องการบริโภคอาหารของประชากรโลกที่มีการปรับตัวในทุกปี ทำให้มีนักวิชาการออกมาวิเคราะห์กันว่า อาจเกิดสงครามแย่งชิงอาหารได้ในอนาคต เพราะขณะที่ดีมานต์เพิ่มขึ้นแต่ผลผลิตโดยรวมกลับเพิ่มขึ้นได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากข้อจำกัดในด้านต่างๆ ทั้งพื้นที่เพาะปลูก น้ำ และดิน ซึ่งในแต่ละปีจะมีความแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะในเรื่องของน้ำ แต่ส่วนที่เหลือยังสามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามเทคโนโลยีในปัจจุบัน แต่เทคโนโลยีบางอย่าง เช่นการตัดต่อพันธุกรรม (GMO) ยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนักในบางประเทศ

เมื่อดูจากดีมานต์และซัพพลายแล้ว แนวโน้มการบริโภคสินค้าเกษตรน่าจะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่คาดว่าจะเป็นตัวเร่งให้การปรับตัวของราคาสินค้าประเภทนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วได้มากขึ้น... ตัวเร่งที่ว่าเกิดจากการสนองความต้องการของมนุษย์บนพื้นฐานของความยั่งยืน อันเกิดจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่นับวันจะหมดลง

สุเมธ กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า การที่แนวคิดพลังงานทดแทนมีการนำมาพัฒนากันอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตพลังงานทดแทนจะคุ้มค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันที่ราคาแพงขึ้นทุกวัน โดยในหลายประเทศพยายามที่จะพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน ทั้งจาก ลม น้ำ แสงแดด และสินค้าเกษตรบางประเภท

"หลังจากราคาน้ำมันมีการปรับตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องทำให้มีการมองในเรื่องของพลังงานทดแทนอย่างไบโอดีเซลเพิ่มมากขึ้น จากสถานการณ์นี้และแนวโน้มการหมดลงของน้ำมัน คงจะทำให้สินค้าเกษตรมีบทบาทเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น ถึงแม้ว่าหลายประเทศจะมีการน้ำพลังงาน น้ำ ลม หรือแสงแดดมาใช้ แต่ที่น่าจะตรงมากที่สุดน่าจะเป็น เอทานอลที่เป็นส่วนผสมของไบโอดีเซลที่จะนำมาใช้ทดแทนน้ำมันมากขึ้นหลังจากนี้"นายสุเมธกล่าว

พลังงานทดแทนนี้เองจะมีผลกระทบทำให้ราคาของสินค้าเกษตรปรับตัวอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากความต้องการบริโภคขั้นพื้นฐานของมนุษย์ โดยพลังงานทดแทนนี้จะมาดึงผลผลิตในแต่ละปีออกไปจากวัฏจักรของตลาดที่เกิดจากการบริโภคในปัจจุบัน

ทั้งความต้องการขั้นพื้นฐานด้านการบริโภคและแนวคิดเพื่อใช้ทรัพยากรด้านพลังงานอย่างยั่งยืนจะเป็นตัวเร่งให้สินค้าที่เกี่ยวข้องอาจขาดแคลนได้ในอนาคต หากยังไม่สามารถควบคุมผลผลิตให้เพียงพอได้ และยิ่งเมื่อมีการใช้พลังงานทดแทนอย่างแพร่หลายแล้ว ตัวเร่งนี้จะทำให้ราคาสินค้าที่แปรผันกับความต้องการตามกลไกตลาดเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน ส่วนการจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนในเรื่องของการบริโภคของคนแล้ว คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากความเคยชินและเหตุผลที่เกริ่นมาตั้งแต่ต้น

สุเมธได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า"การที่จะให้คนที่เคยกินเนื้อกลับไปกินแต่แป้งคงเป็นไปได้ยาก และโครงสร้างของราคามันก็ไม่ได้ปรับตัวลงเลย โดยหากเปรียบเรื่องราคาสินค้าเกษตรกับดีมานต์ที่เพิ่มมากขึ้นแล้วมันเหมือนภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งตอนนี้ยังโผล่มาแค่ยอด ส่วนเนื้อแท้จะเป็นอย่างไรยังไม่มีใครเห็น"

ขุมทรัพย์ยุคดิจิตอล?

เมื่อมองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสินค้าเกษตรในด้านการบริโภค และราคาแล้ว ใครที่พอจะจับต้องเหตุผลในเรื่องความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ คงมองเห็นวิธีการปรับเปลี่ยนวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นดังกล่าวเป็นโอกาสได้ไม่ยากเย็นนัก และหากแนวความคิดนี้เป็นไปตามปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สินค้าเหล่านี้น่าจะเป็นขุมทรัพย์มหาศาลที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง เพราะอย่างไรแล้วมนุษย์ยังต้องบริโภคอาหารเพื่อการดำรงอยู่นั่นเอง

พิชา รัตนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุน ธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด มองแนวโน้มและทิศทางการลงทุนในสินค้าเกษตรว่า สินค้าเกษตรในขณะนี้เป็นที่สนใจของนักลงทุน เนื่องจากปัจจุบันทั่วโลกมีความต้องการบริโภคมากขึ้น ประกอบกับ การเพิ่มของประชากรโลก และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงการผลิตพลังงานทดแทน ทำให้ธัญพืชบางชนิดอย่าง ข้าวโพด ข้าวสาลี และข้าวเจ้าเป็นที่ต้องการอย่างมากในตอนนี้ ในขณะที่ทรัพยากรและการขยายพื้นที่เพาะปลูกยังมีอยู่อย่างจำกัด

หากมองวิกฤตนี้เป็นโอกาสแล้ว การลงทุนในสินค้าเกษตรคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนในอนาคตหรือเพื่อกระจายการลงทุนนอกเหนือจาก การลงทุนในตลาดหุ้น หรือตราสารหนี้ต่างๆ ซึ่งในช่วงนี้มีผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้การลงทุนทางตรงผ่านตลาดซื้อขายล่วงหน้านั้นนักลงทุนยังไม่ต้องถูกกดดันจากความเสี่ยงของตลาดอีกด้วย

"มุมมองในการลงทุนสินค้าเกษตรในตลาดฟิวเจอร์น่าจะเห็นเด่นชัดกว่า เนื่องจากมองในแง่ของดีมานต์และซัพพลาย แต่หากลงทุนผ่านบริษัทที่เกี่ยวข้องในตลาดจะทำให้เราต้องคำนึงถึงความเสี่ยงของตลาด (มาร์เกตริส) ด้วย ซึ่งตลาดหุ้นมันจะมีวงจรของมัน ถ้าบริษัทกำไรดีผลตอบแทนก็ดี แต่ก็ยังถูกกดดันด้วยมาร์เกตริสได้ ซึ่งสินค้าเกษตรจะชัดเจนกว่า และที่ผ่านมานักลงทุนมักจะมองว่าการลงทุนมีอยู่แค่ สองอย่างคือหุ้น กับบอนด์ เหมือนท่องในใจว่า จะลงทุนสลับกัน บอนด์ไม่ดีมาหุ้น หุ้นไม่ดีไปบอนด์ แต่ไม่ได้นึกถึงทางเลือกอื่นๆ เลย"นายพิชากล่าว

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง และได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐน้อยมาก ซึ่งหากเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นจริงแล้วอย่างน้อยๆ ตัวเลือกสินค้าที่ต้องตัดทิ้งเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายคงเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย โดยที่สินค้าที่เกี่ยวข้องกับปากท้องอย่างสินค้าเกษตรคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ไม่มีใครอยากตัด

ส่วนใครมีแนวทางในการแสวงหาผลตอบแทนอย่างไรคงต้องแล้วแต่ว่าบุคคลนั้นมีช่องทางอะไรอยู่ในมือ?...และมองลายแทงสมบัติชิ้นนี้สมบูรณ์พร้อมแค่ไหนที่จะลงทุนออกตามหามัน
กำลังโหลดความคิดเห็น