กองทุนอสังหาริมทรัพย์มิลเลี่ยนแนร์ แชมป์ผลตอบแทนกองทุนอสังหาฯสูงสุด

หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ไปเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ และเริ่มผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมเป็นต้นไป หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์) น่าจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง รวมไปถึงสภาพคล่องในการซื้อขายที่ควรจะเพิ่มสูงขึ้น จากการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติด้วย

ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่ขนาดของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งระบบในปี 2551 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น จนทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม (เอ็นเอวี) ประมาณ 100,000 ล้านบาทมีความเป็นไปได้สูงเป็นอย่างยิ่ง จากปีที่ 2550 ที่ทั้งระบบมีขนาดกองทุนอสังหาริมทรัพย์รวมกันประมาณ 56,000 ล้านบาท

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เข้ามาระดมทุนในตลาดแล้ว 2 กองทุน ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PFFUND) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ (QHOP) ของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย)

วันนี้ "Best of Fund" ขอพาไปดูผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ว่ามีกองทุนใดที่สามารถให้ผลตอบแทนโดดเด่นและน่าสนใจบ้าง พร้อมกับมุมมองของผู้บริหารกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 โดยจะมาเผยถึงนโยบายในการเลือกลงทุนว่าเป็นอย่างไรจึงสามารถคว้าแชมป์มาได้

สำหรับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลี่ยนแนร์ ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.วรรณ โดยกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีที่ 4.75% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.47% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 7.05% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 6.92%

อันดับ 2 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1 ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.60% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.37% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.99% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 7.53%

อันดับ 3 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โกลด์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 4.40% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 22.86% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 23.77% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.00%

อันดับ 4 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.81% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.75% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.31% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 13.47%

อันดับ 5 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.49% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.11% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 5.67% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 9.88%

อันดับ 6 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.40% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.63% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.29% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 14.27%

อันดับ 7 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.34% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.94% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 4.76% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 10.96%

อันดับ 8 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ภายใต้การบริหารของ บลจ.นครหลวงไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.26% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.66% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.93% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 23.78%

อันดับ 9 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา ภายใต้การบริหารของ บลจ.นครหลวงไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 2.20% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.96% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 0.00% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.00%

และอันดับ 10 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก ภายใต้การบริหารของ บลจ.วรรณ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 1.94% ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.36% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 5.48% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 8.21%

เปิดกลยุทธ์แชมป์อันดับ1
สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เล่าให้ฟังว่า การที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลี่ยนแนร์(MIPF) สามารถให้ผลตอบแทนดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2551 เนื่องจากผู้บริหารกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในฐานะผู้ให้เช่าสามารถบริหารการให้เช่าได้เป็นจำนวนมาก และมีอัตราการเช่าอย่างสม่ำเสมอ โดยในช่วงที่ผ่านมากองทุนนี้มีการจ่ายเงินปันผลมาอย่างต่อเนื่องด้วย

นอกจากนี้ อาคารสำนักงานมาลีนนท์ และอาคาร Production House เป็นอาคารที่มีอัตราการให้เช่าสูง และมีศักยภาพในการหาผู้เช่าได้เป็นอย่างดี และมีการจ่ายเงินปันผลที่ดี นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีของนักลงทุน

สมจินต์ บอกว่า ในช่วงที่ภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยนักลงทุนจะต้องดูนโยบายว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นั้นลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดเป็นสำคัญ และสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลี่ยนแนร์ มีนโยบายลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทจัดการจะลงทุนครั้งแรก คือ (ก) อาคารสำนักงานมาลีนนท์ ทาวเวอร์ เลขที่ 3199 ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร สูง 36 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน 1 ชั้น) พื้นที่ใช้สอยประมาณ 49,118.40 ตารางเมตร ลักษณะและประเภทการใช้งาน เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า (ข) อาคาร Production House เลขที่ 3199/1 ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร สูง 12 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น) พื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 12,699.62 ตารางเมตร ลักษณะและประเภทการใช้งานเป็น Production House ให้เช่า

ทั้งนี้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว บริษัทจัดการไม่จําต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยลงทุนตามมติโดยเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งคิดตามจํานวนหน่วยลงทุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจํานวนหน่วยลงทุนที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดของโครงการ

ส่วนการลงทุนในอนาคต บริษัทจัดการมุ่งเน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่า อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า (Commercial Property) ที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือตามจังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพ และทําการจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวโดยการให้เช่า หรือจําหน่ายในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทจัดการจะลงทุนในหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ และทรัพย์สินอื่นใดที่ประกาศของคณะกรรมการ ก.ล.ต. และสํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกําหนด รวมทั้งจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่สํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กําหนด