xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยปันผลLTF4กองรวด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กสิกรไทย จ่ายปันผลแอลทีเอฟ 4 กองรวด ผู้ถือหน่วย "เค หุ้นระยะยาวปันผล" รับสูงสุดที่ 0.36 บาทต่อหน่วย ส่วน "เค70:30 หุ้นระยะยาวปันผล-เค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล-เค โกรทหุ้นระยะยาวปันผล" ปันผลในอัตรา 0.25, 0.19 และ 0.16 บาทตามลำดับ ผู้ถือหน่วยลงทุนยิ้มรับพร้อมกัน 27 มีนาคมนี้

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของบริษัท ได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมทั้งหมด 4 กองซึ่งประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดเค หุ้นระยะยาวปันผล(KDLTF) 2. กองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล (K70LTF) 3.กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) และ4.กองททุนเปิเค โกรทหุ้น ระยะยาวปันผล(KGLTF) โดยทั้ง 4 กองทุนจะจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 27 มีนาคม 2551

สำหรับกองทุนเปิด เค หุ้นระยะยาวปันผล จะจ่ายเงินปันผลเเก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ที่มีชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ.วันที่1 กันยายน 2550– 29 กุมภาพันธ์ 2551 ในอัตราหน่วยละ 0.36 บาท โดยกองทุนนี้มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของกองทุน ในกรณีที่กองทุนมีกำไรสะสมและการจ่ายเงินปันผลไม่ทำให้เกิดผลขาดทุนสะสมในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผล

ทั้งนี้ กองทุนเปิด เค หุ้นระยะยาวปันผลมีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง

โดยสัดส่วนการลงทุนในหุ้น 3 อันดับเเรกของกองทุนดังกล่าว จากข้อมูล ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 จะอยู่ในกลุ่มพลังงานมากถึง 40.8192 % อันดับที่ 2 กลุ่มธนาคาร 23.6452% และอันดับที่ 3เคมีภัณฑ์และพลาสติก 4.7256% ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งกองทุน มีการประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 5 ครั้ง เป็นมูลค่ารวม 1.610 บาทต่อหน่วย และมีการจ่ายปันผลมากที่สุดในครั้งที่ 5 ณ. วันที่ 27 กันยายน 2550ในอัตรา 0.760 บาทต่อหน่วย

ส่วนกองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล จะจ่ายเงินปันผลเเก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ที่มีชื่อยู่ในทะเบียน ณ.วันที่ 1 กันยายน 2550– 29 กุมภาพันธ์ 2551ในอัตราหน่วยละ 0.25 บาทต่อ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง กรณีที่กองทุนมีกำไรสะสมและการจ่ายเงินปันผลไม่ทำให้เกิดผลขาดทุนสะสมในงวดบัญชีที่จ่ายเงินปันผล ตามหลักการพิจาณาของกองทุน

ทั้งนี้ กองทุนเปิดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล มีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า65% และไม่เกิน70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่มีนโยบายหรือมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง

ทางด้านสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มหุ้น 3 อันดับเเรก สำรวจ ณ. วันที่ 1 มีนาคม 2551 คือ กลุ่มพลังงานอยู่ที่ 26.7897% อันดับที่ 2 กลุ่มพันธบัตรหรือตราสารหนี้ รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังค้ำประกันลงทุนอยู่ที่ 20.3704 % และอันดับที่ 3 คือกลุ่มธนาคาร 16.8138% และมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนมาเเล้วทั้งหมด 3 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าต่อหน่วยที่ 0.780 บาท โดยการปันผลครั้งที่ 3 ปันผลสูงที่สุดที่ 0.570 บาท ส่วนครั้งที่ 1 ปันผลอยู่ที่ 0.120 บาท เเละครั้งที่ 2 ปันผลที่ 0.090 บาท

ในส่วนของกองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผลจะจ่ายเงินปันผลเเก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ที่มีชื่อยู่ในทะเบียนณ.วันที่ 28 มิถุนายน 2550 – 29 กุมภาพันธ์ 2551ในอัตราละ 0.19 บาท ซึ่งมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ทั้งนี้สัดส่วนของการลงทุนในกลุ่มหุ้น 3 อันดับเเรก ขัอมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม 2551คือ กลุ่มพลังงาน 41.1152 % อันดับที่ 2 หุ้นทุนอื่นๆ 14.8203% และอันดับที่ 3 คือกลุ่มสื่อสาร 12.0873%

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนคือ จะลงทุนระยะสั้นถึงระยะปานกลางในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ในขณะเดียวกันกองทุนจะลงทุนในหุ้นจำนวนไม่เกิน 20 บริษัท โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยงที่สำคัญ

สำหรับกองทุนเปิดเค โกรทหุ้น ระยะยาวปันผล จะการจ่ายเงินปันผลให้เเก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียน ณ.วันที่ 28 มิถุนายน 2550 – 29 กุมภาพันธ์ 2551ในอัตรา 0.16 บาท เเละมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ2 ครั้ง ส่วนสัดส่วนของการลงทุนหุ้น 3 อันดับเเรก ณ.วันที่ 1 มีนาคม 2551 คือ1กลุ่มพลังงาน 42.496% 2. กลุ่มธนาคาร 22.127 % และ3.หุ้นทุนอื่นๆ 12.8694 %

โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุน KGLTF จะเน้นลงทุนในหุ้นที่บริษัทจัดการคาดว่ามีอัตราการเจริญเติบโตของผลการดำเนินงานสูงกว่าอัตราเจริญเติบโตโดยเฉลี่ยของหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง
กำลังโหลดความคิดเห็น