“มิตชูซิเกะ เดฮาริ” มิตซูบิชิต้องซีเล็คแอนด์โฟกัส

นานๆทีจะออกมาแถลงข่าวกับเขาเสียที สำหรับบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ผู้ทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ มิตซูบิชิ ในไทย ถือเป็นค่ายที่เงียบแต่ต่อยหนัก

เช่นเดียวกับผู้บริหารอย่างนาย “มิตชูซิเกะ เดฮาริ” กรรมการผู้จัดการ ที่แทบจะไม่ค่อยได้ออกงานเท่าใด ครั้นพอมางานแถลงข่าวก็พูดน้อยเช่นเคย

แต่เป็นการพูดที่ดูค่อนข้างจะเอาจริงเอาจังและมองทะลุปรุโปร่งอย่างน่าสนใจ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นอยู่เวลานี้ และที่จะเป็นไป ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดใหม่

“มิตชูซิเกะ เดฮาริ” ฟันธงเอาไว้เลยว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยจากนี้ไป คาดว่า ในปีนี้จะยังมีการเติบโตอยู่บ้าง โดยตัวหลักมาจากภาคการส่งออกที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตประมาณ 4-5% ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่พอไปได้

แต่เขาก็บอกให้ระวังด้วยว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะโตบ้างก็ตาม แต่ทว่า ปัญหาและอุปสรรค ขวากหนาม เบื้องหน้ายังรออยู่อย่างมากมาย ซึ่งจะมีต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาเดิมๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ขยับตัวสูงขึ้นตลอดเวลา ต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานสูงขึ้นมาก ความชัดเจน และการยอมรับต่อรัฐบาลและทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ในสายตาประชาชนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ปัญหาต่างๆ ล้วนมีผลโดยตรงต่อกำลังซื้อและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

“ผมมองว่า ยังมีอีกหลายปัจจัย เช่น ราคาพืชไร่อาจจะสูงขึ้นและขาดแคลน เนื่องจากบางส่วนจะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทน หรือแม้แต่ปัจจัยภายนอกประเทศอย่างกรณีที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเกิดภาวะเงินเฟ้อแทบจะเรียกได้ว่าสูงมากที่สุดในรอบ 20 ปีก็ว่าได้” มิตชูซิเกะ กล่าว

ขณะที่หากมองไปเฉพาะวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว เขาวิเคราะห์ว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีนี้น่าจะมีโอกาสที่จะเติบโตสูงกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย แต่การแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง รวมทั้งการเล่นสงครามราคาในตลาดนี้ก็ยังมีให้เห็น แต่เขามองว่า ผู้ประกอบการจะงัดวิธีการที่หลากหลายออกมาใช้มากขึ้น เพื่อดึงมาร์เก็ตแชร์ให้มากขึ้น

แต่ในแง่ของการดำเนินงานและบริหารก็ต้องเป็นไป ด้วยภารกิจที่หนักหน่วงและเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นของ มิตซูบิชิในปีนี้ ซึ่ง มิตชูซิเกะ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ปีนี้ (รอบปีบัญชี เริ่มเดือนมีนาคม-กุมภาพันธ์) ต้องโตให้ได้อย่างน้อย 7% หรือมีรายรับรวมกว่า 7,650 ล้านบาท จากปีงบประมาณก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 7,100 ล้านบาท

ยุทธศาสตร์หลักๆ ของ มิตชูซิเกะ เดฮาริ ในการขับเคลื่อนมิตซูบิชิ คือ ซีเล็ค แอนด์ โฟกัส (Select and Focus) คือ เลือกทำตลาดในผลิตภัณฑ์ที่มิตซูบิชิเก่งและถนัด แล้วทุ่มเทให้เต็มที่ ซึ่งปัจจุบันมี 5 กลุ่มหลักที่ทำตลาดในไทย คือ เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์ 27.2% ตู้เย็น มีแชร์ 23% พัดลม มีแชร์ 25% พัดลมระบายอากาศมีแชร์ 46% ปั๊มน้ำมีแชร์ 49% ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นผู้นำหรือไม่ก็อันดับสองทั้งสิ้นจากตัวเลขเมื่อสิ้นสุดปี 2550

การขับเคลื่อนมิตซูบิชิในไทย ภายใต้การกุมบังเหียนของ “มิตชูซิเกะ เดฮาริ” คือ ความท้าทายที่ไม่เบาเลย