xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กรุงไทยเปิดแผนธุรกิจปี51ผุดหลายโปรเจกต์ดันAUMโต2.6แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงไทย กำไรปี50 โตเพิ่ม 107% ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดเอยูเอ็มแตะ 2.6 แสนล้านบาท ผู้บริหารผนึกกำลังโชว์วิสัยทัศน์แผนงานปีหนู ผุดกองทุนใหม่หลากหลายโปรเจกต์ทั้งพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ –มันนี่ มาร์เก็ต –กองทุนรวมตราสารหนี้ – เครดิตลิงค์โน๊ต พร้อมกระตุ้นยอดขายกองเดิม KTSS และ LTF – RMF ส่วนกองสำรองเลี้ยงชีพ ไม่ยอมน้อยหน้าเร่งหาลูกค้าเพิ่มเพื่อครองเจ้าตลาดต่อไป

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2551 ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ไว้ที่ประมาณ 260,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 25% จากปี 2550 ที่มี 210,872 ล้านบาท โดยมาจากการเปิดจำหน่ายกองทุนประเภทตราสารหนี้ระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และจะทำการออกกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทจะพยายามส่งเสริมให้นักลงทุนเข้าลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยง (RMF) ตลอดภายในปีนี้ เนื่องจากปีที่ผ่านมากองทุนทั้ง 2 ประเภทมีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โปรเจกต์ใหม่ กองอสังหาฯอสิลาม

กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้มี อิสลามมิกซ์ ฟันด์รายหนึ่งเข้ามาเจรจากับบริษัทเพื่อหาแนวทางร่วมมือจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ตามแบบและกฎเกณฑ์ทางศาสนาอสิลาม ซึ่งจะไม่มีการลงทุนในสถานเริงรมย์ คาสิโน รวมทั้งโรงแรม แต่อาจจะเป็นการลงทุนในหอพักนักศึกษา เป็นต้น โดยเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาลายอะเอียด อีกทั้งจำเป็นต้องรอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศยกเลิกมาตรการกันสำรอง30% ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้

“การจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ นอกจากกองทุนอสังหาฯอิสลามแล้ว เรายังมีแผนที่จะออกกองทุนประภทดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2-3 กองทุน ซึ่งจะมีมูลค่าโครงการตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป โดยกองทุนขนาดใหญ่ที่ต้องการระดมทุนจากต่างประเทศ เราจำเป็นที่จะต้องรอการยกเลิกมาตรการ30%จากภาครัฐก่อน”

ลั่นปีนี้ทุกกองยิลด์โตกว่าเกณฑ์

ด้านนายธีรพันธุ์ จิตตาลาน รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (KTAM) กล่าวว่าในปีนี้ตั้งเป้าผลตอบแทนในการลงทุนตราสารทุนทั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคลไว้ที่ 10-15% หรือสูงกว่า SET Index 1-4% ขณะที่กองทุนรวมจะให้ผลตอบแทนสูงกว่า SET Index ถึง 1-4% และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกองทุนประเภทเดียวกันในอุตสาหกรรม
ขณะที่ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคลที่ลงทุนในตราสารหนี้ บริษัทตั้งเป้าจะสร้างผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 0.25 –1.50% และกองทุนรวมสร้างผลตอบแทนติดอันดับ Top 5 ของอุตสาหกรรมกองทุนแต่ละประเภท

ผุดมันนี่มาร์เก็ตลุยลงทุนเงินปอนด์

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ร่วมมือกับ รอยัล แบงก์ สก็อตแลนด์ โดยมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนมันนี่มาร์เก็ตเพื่อลงทุนในต่างประเทศ จำนวน 3 กองทุน ซึ่งมีนโยบายลงทุนในค่าเงิน 3 สกุลได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ ,ยูโร และปอนด์ และจะให้ผลตอบแทนขั้นต่ำประมาณ 5% รวมทั้งไม่มีความเสี่ยง เนื่องจากสามารถถอนออกได้ทันทีหากอัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลง

สรรหาสินค้าใหม่ให้นักลงทุน

นอกจากนี้ บริษัทจะหาโปรดักต์อื่นๆ เพื่อเข้าไปลงทุนเพิ่มเติมทดแทนตั๋วเงินสกุลยุโรป (ECP) ซึ่งปัจจุบันมีอัตราผลตอบแทนที่ต่ำลง โดยอาจจะเป็นทั้งในแบบ สตรัคเจอร์โน๊ต หรือแบบ เครดิตลิงก์ ซึ่งให้อัตราผลตอบแทนที่ประมาณ 4% แต่กองทุนดังกล่าวจะเป็นกองทุนที่ไม่คุ้มครองเงินต้นให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน

นายธีรพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2551 นอกเหนือจากกองทุนที่นำเสนอไปแล้วข้างต้น บริษัทยังมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนประหยัดพลังงาน ซึ่งจะเป็นธุรกิจในด้านระบบประหยัดพลังงานไฟฟ้า ที่คาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับสูง ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะออกกองทุน ETF (Exchange Traded Fund) Emerging market ตลาดเอเชีย เอเชียตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา อีกทั้งการลงทุนใน สินค้าโภคภัณฑ์ (Community) และการจัดตั้งกองทุนคุ้มครองเงินต้น ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในหลายประเภทตามสภาวะตลาดในขณะนั้น รวมถึงแผนที่จะจัดตั้งกองทุนหุ้นลักษณะใหม่อีกประมาณ 2-3กอง (New Product Development) ที่มีความแตกต่างไปจากกองทุนเดิมที่มีอยู่

ลุยเพิ่มขนาดกองทุนKTSS

ขณะเดียวกัน บริษัทจะเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาลงทุน กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ (KTSS) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในประเทศ เพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมากองทุน KTSS ได้รับความนิยมในการเป็นที่พักเงินของกลุ่มนักลงทุนหลักทรัพย์ รวมทั้งโบรกเกอร์ ทำให้บริษัทต้องการขยายขนาดทรัพย์สินของกองทุนดังกล่าว ด้วยการใช้ระบบการชำระราคาค่าซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านกองทุน ผ่านระบบหักบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ (ATS)ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อนุญาต นำเข้ามาเป็นบริการเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอีกช่องทางหนึ่ง

สนใจต้องกองทุนลุยตลาดญวน

“ไตรมาส 1 เราเตรียมออกกองทุน FIF ใหม่ จำนวน 2 กอง โดยกองแรกจะเกี่ยวกับ money market ในสกุลเงิน ปอนด์ และกองที่สองจะเป็นการลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งจะเน้นความเสี่ยงน้อยและให้ผลตอบแทนดี และนอกเหนือจากนั้น เรายังสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม เพราะมองว่าหลายโปรดักต์สามารถให้ผลตอบแทนได้สูงกว่าการลงทุนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ประมาณ 9% หรือการลงทุนในตราสารหนี้ หรืออาจจัดตั้งกองทุนเพื่อไปลงทุนในประเทศดังกล่าวด้วย ”นายธีรพันธุ์ กล่าว

หวังรักษาตำแหน่งผู้นำกองสำรองฯ

นางสาวประภา ปูรณโชติ รองกรรมการผู้จัดการผู้บริหารสายงานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกเหนือจากกองทุนรวมแล้ว ในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายรักษามาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ในตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ NAV โต 25% จากปี 2550 ซึ่งอยู่ที่ 71,374 ล้านบาท เป็น 76,000 ล้านบาท ด้วยการเจาะตลาดลูกค้าของธนาคาร ให้เข้ามาลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มมากขึ้น

“ในปีที่ผ่านมา เราสามารถทำการต่อสัญญาบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงกับลูกค้าได้ถึง 18 รายจากทั้งหมด 19 ราย ซึ่งถือว่าเป็นได้ตามเป้าที่วางไว้ดังนั้น ในปีนี้เราจะเน้นไปหาลูกค้าเอกชนเพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่าแผนดังกล่าวจะทำให้เราสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้อีกปี”นางสาวประภา กล่าว

กำไรปี50เติบโตเพิ่มร้อยละ107

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2550 บลจ.กรุงไทย มีกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 107% จากปี 2549 ซึ่งมีกำไรเพียง 33 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้

กรรการผู้จัดการ บลจ. กรุงไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน มีการแข่งขันที่หลากหลายและมีอิสระเพิ่มขึ้น โดยหากพ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากมีการประกาศใช้ ยิ่งส่งผลให้อุตสาหกรรมกองทุนรวมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นไปอีก โดยเฉพาะกองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการฝากไว้กับเงินธนาคาร แต่อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนจะมีมากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก นอกจากนี้กองทุนลักษณะดังกล่าวยังไม่จำกัดปริมาณการซื้อหน่วยลงทุนของผู้ลงทุนด้วย ทำให้เป็นอีกช้องทางหนึ่งที่ผู้ฝากเงินอาจโยกเม็ดเงินที่มีอยู่จากธนาคารมาสู่กองทุนประเภทนี้แทน
กำลังโหลดความคิดเห็น