"SPF" โชว์ผลการดำเนินงานงวดปี 50 สุดเจ๋ง กำไรพุ่งแตะ 2,393 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดก่อนกว่า 3,349.48% ล่าสุด ประกาศจ่ายปันผลหน่วยลงทุนละ 0.1851 บาท 11 มี.ค.นี้ ด้านผู้บริหารกองทุนคาดปีนี้ กำไรกองทุนเพิ่มอีก รับอานิสงส์ การบินไทยเปิดเส้นทางใหม่ "กรุงเทพ-สมุย" บวกความมั่นใจนักลงทุนเพิ่ม และยกเลิก30% ส่วน "MIPF" กำไรปี 50 หดเกือบ 50% แต่ยังใจดีจ่ายปันผลหน่วยละ 0.50 บาท ผู้ถือหน่วยเตรียมรับเงิน 17 มี.ค. 51
นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) กล่าวถึงผลดำเนินงานในปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า กองทุนมีผลกำไรสุทธิจำนวน 2,393.84 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 2.51 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับผลดำเนินงานปี 2549 ซึ่งกองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69.39 ล้านบาท กว่า 2,324.45 ล้านบาท หรือ 3,349.83%
ทั้งนี้ สาเหตุที่ผลดำเนินงานได้เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 3,349% เนื่องจากกองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้ประเมินมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 โดยมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนได้ลงทุนไว้มีมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้นจาก 9,301.35 ล้านบาทเป็น 10,960 ล้านบาท และระยะเวลาการดำเนินงานในปี 2550 มีระยะเวลาที่มากกว่าระยะเวลาการดำเนินงานตลอดปี 2549 เนื่องมาจากกองทุนได้จดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2549 ทำให้ในปี 2549 กองทุนมีระยะเวลาการดำเนินงานเพียง 39 วัน
นายวรนนท์ กล่าวต่อว่า กองทุนได้กำหนดการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยละ 0.1851 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 11 มีนาคม 2551 และจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 12.00 น.
นายนที ดำรงค์กิจการ ผู้จัดการกองทุน บลจ.นครหลวงไทย กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ในปี 2551 ว่า ประเมินว่าในปีนี้กองทุนจะสามารถทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากกองทุนได้รับปัจจัยบวกจากทั้งภายในและภายนอกช่วยสนับสนุน โดยปัจจัยบวกที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้เปิดให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ - สมุย ตั้งแต่วันนี้ (15ก.พ.) เป็นต้นไป ซึ่งการที่สายการบินไทยเข้ามาใช้พื้นที่ของสนามบินสมุยควบคู่ไปกับสายการบินบางกอกเเอร์เวย์นี้เอง ส่งผลทำให้ผลประกอบการของกองทุนดีขึ้น
ขณะเดียวกันภาวะทางการเมืองในประเทศที่สงบมากขึ้น หลังจากที่มีการเลือกตั้งและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เป็นที่เรียบร้อย ก็ส่งผลทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความมั่นใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ถ้าภาครัฐยกเลิกมาตราการกันสำรอง 30% ได้จริงจะทำให้การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้งหนึ่ง
"ปีนี้รัฐบาลประกาศจะเน้นการท่องเที่ยว ปัจจัยนี้ก็จะเป็นอีกปัจจัยบวกที่จะส่งผลดีต่อกองทุนสนามบินสมุยด้วยเช่นเดียวกัน" นายนที กล่าว
สำหรับแผนการพัฒนาสนามบินสมุยหลังจากนี้ นายนที กล่าวว่า ภายในปีนี้บริษัทจัดการยังไม่แผนที่จะพัฒนาสนามบินเป็นพิเศษ เนื่องมาจากที่ผ่านมาบางกอกแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมได้ทำการปรับปรุงไว้เเล้ว ทั้งในส่วนของอาคาร ที่พักผู้โดยสาร เเละรันเวย์ ไว้อย่างเรียบร้อยเเล้ว
กองทุนมิลเลียนแนร์จ่ายปันผล0.50 บาท
นายสุริพล เข็มจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนประจำงวดปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 174.50 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 0.91 บาทต่อหุ้น ลดลง 171.75 ล้านบาท หรือ 49.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 346.25 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์จะจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2550 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 และจากกำไรสะสม ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.50 บาท ทั้งนี้กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 17 มีนาคม 2551 และจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551
นางพรรณสุภา เสสะเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ผลกำไรของกองทุนปรับตัวลดลงเนื่องมาจากในปี 2549 กองทุนรวมมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวน 177.10 ล้านบาท แต่ในปี 2550 กองทุนรวมมีผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดลงจำนวน 11.44 ล้านบาท
สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ลงทุนด้วยการให้เช่าคือ อาคารสำนักงานมาลีนนท์ ทาวเวอร์ และ Production House ย่านพระราม 4 โดยการลงทุนในอนาคตของบริษัทจะมุ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่า อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า (Commercial Property) ที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือตามจังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพ และทําการจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวโดยการให้เช่า หรือจําหน่ายในราคาที่เหมาะสม
นอกจากนี้บริษัทจัดการจะลงทุนในหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ และทรัพย์สินอื่นใดที่ประกาศของคณะกรรมการ ก.ล.ต. และสํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกําหนด รวมทั้งจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศอีกด้วย
นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) กล่าวถึงผลดำเนินงานในปี 2550 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า กองทุนมีผลกำไรสุทธิจำนวน 2,393.84 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 2.51 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับผลดำเนินงานปี 2549 ซึ่งกองทุนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69.39 ล้านบาท กว่า 2,324.45 ล้านบาท หรือ 3,349.83%
ทั้งนี้ สาเหตุที่ผลดำเนินงานได้เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 3,349% เนื่องจากกองทุนมีการว่าจ้างผู้ประเมินราคาอิสระให้ประเมินมูลค่าเงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 โดยมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนได้ลงทุนไว้มีมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้นจาก 9,301.35 ล้านบาทเป็น 10,960 ล้านบาท และระยะเวลาการดำเนินงานในปี 2550 มีระยะเวลาที่มากกว่าระยะเวลาการดำเนินงานตลอดปี 2549 เนื่องมาจากกองทุนได้จดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2549 ทำให้ในปี 2549 กองทุนมีระยะเวลาการดำเนินงานเพียง 39 วัน
นายวรนนท์ กล่าวต่อว่า กองทุนได้กำหนดการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยละ 0.1851 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 11 มีนาคม 2551 และจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 12.00 น.
นายนที ดำรงค์กิจการ ผู้จัดการกองทุน บลจ.นครหลวงไทย กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย ในปี 2551 ว่า ประเมินว่าในปีนี้กองทุนจะสามารถทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากกองทุนได้รับปัจจัยบวกจากทั้งภายในและภายนอกช่วยสนับสนุน โดยปัจจัยบวกที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้เปิดให้บริการเส้นทาง กรุงเทพฯ - สมุย ตั้งแต่วันนี้ (15ก.พ.) เป็นต้นไป ซึ่งการที่สายการบินไทยเข้ามาใช้พื้นที่ของสนามบินสมุยควบคู่ไปกับสายการบินบางกอกเเอร์เวย์นี้เอง ส่งผลทำให้ผลประกอบการของกองทุนดีขึ้น
ขณะเดียวกันภาวะทางการเมืองในประเทศที่สงบมากขึ้น หลังจากที่มีการเลือกตั้งและสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เป็นที่เรียบร้อย ก็ส่งผลทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความมั่นใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ถ้าภาครัฐยกเลิกมาตราการกันสำรอง 30% ได้จริงจะทำให้การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้งหนึ่ง
"ปีนี้รัฐบาลประกาศจะเน้นการท่องเที่ยว ปัจจัยนี้ก็จะเป็นอีกปัจจัยบวกที่จะส่งผลดีต่อกองทุนสนามบินสมุยด้วยเช่นเดียวกัน" นายนที กล่าว
สำหรับแผนการพัฒนาสนามบินสมุยหลังจากนี้ นายนที กล่าวว่า ภายในปีนี้บริษัทจัดการยังไม่แผนที่จะพัฒนาสนามบินเป็นพิเศษ เนื่องมาจากที่ผ่านมาบางกอกแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมได้ทำการปรับปรุงไว้เเล้ว ทั้งในส่วนของอาคาร ที่พักผู้โดยสาร เเละรันเวย์ ไว้อย่างเรียบร้อยเเล้ว
กองทุนมิลเลียนแนร์จ่ายปันผล0.50 บาท
นายสุริพล เข็มจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนประจำงวดปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 174.50 ล้านบาท คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 0.91 บาทต่อหุ้น ลดลง 171.75 ล้านบาท หรือ 49.60% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กองทุนมีผลกำไรสุทธิ 346.25 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์จะจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิของผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2550 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 และจากกำไรสะสม ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.50 บาท ทั้งนี้กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 17 มีนาคม 2551 และจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551
นางพรรณสุภา เสสะเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ผลกำไรของกองทุนปรับตัวลดลงเนื่องมาจากในปี 2549 กองทุนรวมมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวน 177.10 ล้านบาท แต่ในปี 2550 กองทุนรวมมีผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ลดลงจำนวน 11.44 ล้านบาท
สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ลงทุนด้วยการให้เช่าคือ อาคารสำนักงานมาลีนนท์ ทาวเวอร์ และ Production House ย่านพระราม 4 โดยการลงทุนในอนาคตของบริษัทจะมุ่งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่า อสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า (Commercial Property) ที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือตามจังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่มีศักยภาพ และทําการจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวโดยการให้เช่า หรือจําหน่ายในราคาที่เหมาะสม
นอกจากนี้บริษัทจัดการจะลงทุนในหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ และทรัพย์สินอื่นใดที่ประกาศของคณะกรรมการ ก.ล.ต. และสํานักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกําหนด รวมทั้งจะลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศอีกด้วย
