xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.อยุธยาประเดิมต้นปีหนูสวย กองทุนหุ้นคว้าแชมป์ผลตอบแทนสูงสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนเช่นนี้ นักลงทุนหลายท่านคงเกิดอาการตุ้มๆ ต่อมๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะกันอยู่เป็นแน่ว่า ควรจะเลือกเข้าไปลงทุนในขณะนี้ดีหรือไม่ แต่จะว่าไปแล้ว สภาวะการณ์เช่นนี้ เป็นบทพิสูจน์เล็กๆ หรือสิ่งที่วัดใจนักลงทุนได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ว่าจะมีใจกล้าได้กล้าเสียมากน้อยประการใด

สำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในการลงทุนมายาวนาน มักจะมองตลาดในช่วงที่ผันผวนว่าในทุกวิกฤติล้วนมีโอกาสซ่อนไว้อยู่เสมอ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากขึ้นเช่นกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำสุภาษิตที่ว่า “สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” วันนี้ คอลัมน์ “Best of Fund” จึงขอพามาดูผลการดำเนินงานของกองทุนรวมหุ้นกัน

ทั้งนี้ จากการรายงานของ LIPPER สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 ว่ามีกองทุนใดน่าสนใจบ้าง เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นในการลงทุนต่อไป พร้อมกับเปิดมุมมองและนโยบายในการเลือกลงทุนของผู้บริหารกองทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 ด้วย

ส่วนกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดมาเป็นอันดับ 1 คือกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล 70/30 ภายใต้การบริหารของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี (Year to Date) อยู่ที่ -4.03% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 4.58%

อันดับ 2 กองทุนเปิดอเบอร์ดีนไทย เอคควิตี้ ดีวิเด็น บริหารโดย บลจ.อเบอร์ดีน ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -4.20% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 4.41% อันดับ 3 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เพิ่มผลมั่นคง บริหารโดย บลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -4.43% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 4.18%

อันดับ 4 กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล บริหารโดย บลจ.อยุธยา ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -5.11% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 3.50% อันดับ 5 กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสมอลแค็พ บริหารโดย บลจ.อเบอร์ดีน ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -5.15% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 3.46%

อันดับ 6 กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล 70/30 บริหารโดย บลจ.อยุธยา ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -5.34% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 3.27% อันดับ 7 กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนปันผล บริหารโดย บลจ.ทิสโก้ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -5.54% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 3.07%

อันดับ 8 กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล บริหารโดย บลจ.บัวหลวง ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -6.06% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 2.55% อันดับ 9 กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม บริหารโดย บลจ.บัวหลวง ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -6.28% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 2.33%

และอันดับ 10 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทน ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -6.70% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 1.91%

เปิดกลยุทธ์กองทุนอันดับ 1
ประภาส ตันติพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อยุธยา จำกัด เล่าให้ฟังว่า กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล 70/30 จะมีความเสี่ยงน้อยกว่าปกติ เนื่องจากเน้นลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ โดยมีการเจริญเติบโตของกำไรอยู่ที่ประมาณ 5-10% ของพอร์ตลงทุนโดยรวม และมีผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลประมาณ 6% ซึ่งหุ้นที่ถือส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ตลาดไม่ค่อยให้ความสำคัญมาก เพราะว่าเป็นหุ้นมีขนาดไม่ใหญ่มาก รวมทั้งเป็นหุ้นที่ไม่ใช่เป้าหมายของนักเก็งกำไร และนักลงทุนต่างชาติ

นอกจากนี้ จะเน้นถือหุ้นในระยาว ทำให้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก กองทุนนี้จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยหุ้นที่มีอยู่ในพอร์ตลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO , บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK , บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC , บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE-ED และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

ส่วนในช่วงที่ผ่านมามีการปรับพอร์ตลงทุนบ้าง หากหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูง แต่มีการจ่ายปันผลตามปกติ ทำให้ได้รับผลตอบแทนลดลง กองทุนจะทำการลดน้ำหนักในหุ้นตัวนั้นลง แต่หากราคาหุ้นปรับตัวลง และมีการจ่ายปันผลตามปกติ ทำให้ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ก็จะให้น้ำหนักในการลงทุนหุ้นตัวนั้นเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการปรับพอร์ตลงทุนโดยเฉลี่ยไตรมาสละ 1 ครั้ง แต่หากตลาดมีความผันผวนมากจะมีการปรับพอร์ตลงทุนบ่อยขึ้นประมาณเดือนละ 1 ครั้งแทน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ แต่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตดีพอสมควร ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นแล้ว ยังได้รับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอด้วย

ประภาส บอกว่า กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเก็บออมเงิน และสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากกับธนาคารพาณิชย์และการซื้อตราสารหนี้ แต่ไม่ชอบความผันผวนของตลาดหุ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถสะสมเงินได้ทุกเดือน และสามารถออมไว้ใช้ยามเกษียณอายุได้ด้วย เนื่องจากเป็นการออมในระยะยาว และมีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ

แม้ว่าตลาดหุ้นจะมีการปรับขึ้นลงอยู่โดยตลอด แต่กองทุนนี้กลับไม่ได้รับผลกระทบ โดยในปีที่ผ่านมากองทุนนี้สามารถให้ผลตอบแทนบวก 15% ขณะเดียวกัน กองทุนจะพยายามเลือกลงทุนในบริษัทที่ราคาหุ้นไม่มีความผันผวน แต่สามารถเจริญเติบโตได้ตามศักยภาพของบริษัท

สำหรับกองทุนอยุธยาหุ้นปันผล 70/30 เป็นกองทุนรวมตราสารแห่งทุน (Equity Fund) ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2541 ไม่หำหนดอายุโครงการ และมีมูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท โดยจะเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และไม่เกินร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีเป็นลำดับแรก และหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต่ำถึงปานกลาง (Small and Medium Market Capitalization) เป็นลำดับถัดไป โดยจะไม่ตัดสิทธิของกองทุนในการลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง และสามารถลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นหรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้มาจากการลงทุนในหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือฐานะการเงินของบริษัทผู้ออกตราสาร เพื่อพิจารณาความสามารถในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หากมีการเปลี่ยนแปลงผลการดำเนินงานหรือฐานะทางการเงินของบริษัทผู้ออกตราสารอย่างมีนัยสำคัญ ก็จะพิจารณาปรับเปลี่ยนการลงทุนในหุ้นดังกล่าวให้เหมาะสม

ส่วนกองทุนนี้มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าปีละ 2 ครั้ง โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานสิ้นสุดตามช่วงเวลาที่บริษัทจัดการเห็นสมควร ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิในงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผลหรือกำไรสะสมแล้วแต่กรณี
กำลังโหลดความคิดเห็น