ในปี 2550 ที่ผ่านมา ท่ามกลางมรสุมทางเศรษฐกิจนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แต่ละรายจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรอบคอบในการเลือกลงทุนเป็นพิเศษ และหากเป็นการลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการเก็บไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณด้วยแล้ว ยิ่งต้องเพิ่มความรอบคอบเป็นเท่าทวีคูณ
แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว นักลงทุนมักจะนิยมเข้าไปลงทุนในกองทุน RMF และกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ในช่วงปลายปี เพื่อจะได้รับผลประโยชน์จากการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากพินิจพิเคราะห์กันอย่างถี่ถ้วนแล้ว นักลงทุนมีเงินจำนวนหนึ่งที่เป็นเงินเย็น และไม่ได้นำไปใช้ลงทุนหรือใช้จ่ายอะไร ก็สามารถนำมาทยอยลงทุนในกองทุน RMF ได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีได้เช่นกัน เพราะว่านอกจากจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าลงทุนแบบครั้งเดียวในช่วงปลายปีแล้ว ต้นทุนโดยเฉลี่ยที่เราซื้อหน่วยลงทุนก็จะน้อยกว่าด้วย
วันนี้ คอลัมน์ "Best of Fund" สัปดาห์นี้ เลยขอพามาดูผลการดำเนินงานของกองทุน RMF ที่เน้นลงทุนในตราสารทุน ซึ่งรายงานโดย Lipper ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่ามีกองทุนใดน่าสนใจบ้าง พร้อมมุมมองของผู้บริหารกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 โดยจะมาเผยถึงนโยบายในการเลือกลงทุนว่าเป็นอย่างไรจึงสามารถคว้าแชมป์มาได้
สำหรับ กองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 คือ กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารจัดการโดย บลจ.ทิสโก้ สามารถให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 46.68% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.24% ย้อนหลัง 6 เดือน 19.44% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 46.68% อันดับ 2 กองทุนเปิด JUMBO 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.ทหารไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 42.67% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.84% ย้อนหลัง 6 เดือน 19.67% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 42.67%
อันดับ 3 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 41.16% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.90% ย้อนหลัง 6 เดือน 20.34% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 41.16% อันดับ 4 กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.บัวหลวง ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 39.68% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.10% ย้อนหลัง 6 เดือน 13.94% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 39.68%
อันดับ 5 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทยหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.ไอ.เอ็นจี(ประเทศไทย) ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 39.05% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.31% ย้อนหลัง 6 เดือน 16.76% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 39.05% อันดับ 6 กองทุนเปิดแมกซ์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.นครหลวงไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 39.04% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.07% ย้อนหลัง 6 เดือน 17.69% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 39.04%
อันดับ 7 กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 37.91% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.77% ย้อนหลัง 6 เดือน 14.23% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 37.91% อันดับ 8 กองทุนเปิดทหารไทย SET50 เพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.ทหารไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 37.83% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.28% ย้อนหลัง 6 เดือน 15.93% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 37.83%
อันดับ 9 โครงการจัดการกองทุนเปิดหุ้นคุณค่า เพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.วรรณ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 37.53% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.40% ย้อนหลัง 6 เดือน 16.95% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 37.53% และอันดับ 10 กองทุนเปิดยูโอบี หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งบริหารจัดการโดย บลจ.ยูโอบี (ไทย) โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 37.02% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.28% ย้อนหลัง 6 เดือน 17.69% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 37.02%
แชมป์กองทุนเผยเคล็ดลับ
ธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เล่าให้ฟังว่า การที่กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพสามารถให้ผลตอบแทนดีที่สุดในรอบปี 2550 เนื่องจากเน้นลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ ในกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก โดยสามารถให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี และยังได้รับอานิสงส์ของการเลือกหุ้นที่ถูกตัวด้วย
ทั้งนี้ กองทุนจะมีการคัดเลือกหุ้นที่ดี และจะเลือกลงทุนในหุ้นเพียง 10-25 ตัวเท่านั้น โดยปกติแล้ว กองทุนหุ้นมักจะนิยมลงทุนในตลาดหุ้นอย่างเต็มที่ และจะพยายามกระจายการลงทุนในหุ้นในเซกเตอร์ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ และพลังงานที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และลงน้ำหนักในหุ้นแต่ละตัวมาก ซึ่งทำให้ได้รับผลตอบแทนกลับมาย้อนกลับมามากตามไปด้วย
ขณะเดียวกัน มองว่าแม้ว่าภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้จะมีความผันผวน แต่ยังไม่มีนโยบายปรับเปลี่ยนหุ้นที่มีอยู่ในพอร์ตลงทุน เนื่องจาก P/E ในตลาดหุ้นไทยยังต่ำ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสะสมหุ้น และซื้อหุ้นเพิ่มเติม
"ธีรนาถ" บอกว่า ความน่าสนใจของกองทุนนี้อยู่ที่มีสไตล์การบริหารแบบแอคทีฟ ฟันด์ โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นพื้นฐาน มีอัตราการเจริญเติบโตสูง มีมาร์เก็ตแคปขนาดกลาง-ใหญ่ขึ้นไป และมีการจ่ายปันผลที่ดี นักลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์นี้ก็สามารถเข้ามาลงทุนในกองทุนนี้ได้
สำหรับกองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบห้าของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และในพันธบัตร ตั๋วเงินคลัง บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารแห่งหนี้อื่นๆ และ/หรือเงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด
อย่างไรก็ตาม อาจมีบางขณะที่บริษัทจัดการไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนที่กำหนดไว้ได้ ด้วยเหตุของการเพิ่มขึ้นของราคาหลักทรัพย์หรือทรัพย์สิน ซึ่งมิได้เกิดจากการลงทุนหรือได้หลักทรัพย์หรือทรัพย์สินมาเพิ่มเติม หรือสาเหตุอื่นที่มีนัยสำคัญ บริษัทจัดการอาจจะยังคงมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินดังกล่าวต่อไปได้ และบริษัทจัดการจะรายงานการไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนที่กำหนดไว้ในโครงการตามประกาศแก่สำนักงาน โดยไม่ถือว่าผิดเงื่อนไขของโครงการ
แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว นักลงทุนมักจะนิยมเข้าไปลงทุนในกองทุน RMF และกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ในช่วงปลายปี เพื่อจะได้รับผลประโยชน์จากการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากพินิจพิเคราะห์กันอย่างถี่ถ้วนแล้ว นักลงทุนมีเงินจำนวนหนึ่งที่เป็นเงินเย็น และไม่ได้นำไปใช้ลงทุนหรือใช้จ่ายอะไร ก็สามารถนำมาทยอยลงทุนในกองทุน RMF ได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีได้เช่นกัน เพราะว่านอกจากจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าลงทุนแบบครั้งเดียวในช่วงปลายปีแล้ว ต้นทุนโดยเฉลี่ยที่เราซื้อหน่วยลงทุนก็จะน้อยกว่าด้วย
วันนี้ คอลัมน์ "Best of Fund" สัปดาห์นี้ เลยขอพามาดูผลการดำเนินงานของกองทุน RMF ที่เน้นลงทุนในตราสารทุน ซึ่งรายงานโดย Lipper ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่ามีกองทุนใดน่าสนใจบ้าง พร้อมมุมมองของผู้บริหารกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 โดยจะมาเผยถึงนโยบายในการเลือกลงทุนว่าเป็นอย่างไรจึงสามารถคว้าแชมป์มาได้
สำหรับ กองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 คือ กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารจัดการโดย บลจ.ทิสโก้ สามารถให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 46.68% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.24% ย้อนหลัง 6 เดือน 19.44% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 46.68% อันดับ 2 กองทุนเปิด JUMBO 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.ทหารไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 42.67% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.84% ย้อนหลัง 6 เดือน 19.67% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 42.67%
อันดับ 3 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 41.16% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.90% ย้อนหลัง 6 เดือน 20.34% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 41.16% อันดับ 4 กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.บัวหลวง ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 39.68% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 1.10% ย้อนหลัง 6 เดือน 13.94% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 39.68%
อันดับ 5 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทยหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.ไอ.เอ็นจี(ประเทศไทย) ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 39.05% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.31% ย้อนหลัง 6 เดือน 16.76% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 39.05% อันดับ 6 กองทุนเปิดแมกซ์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.นครหลวงไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 39.04% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.07% ย้อนหลัง 6 เดือน 17.69% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 39.04%
อันดับ 7 กองทุนเปิดเค หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 37.91% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.77% ย้อนหลัง 6 เดือน 14.23% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 37.91% อันดับ 8 กองทุนเปิดทหารไทย SET50 เพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.ทหารไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 37.83% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 2.28% ย้อนหลัง 6 เดือน 15.93% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 37.83%
อันดับ 9 โครงการจัดการกองทุนเปิดหุ้นคุณค่า เพื่อการเลี้ยงชีพ บริหารโดย บลจ.วรรณ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 37.53% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.40% ย้อนหลัง 6 เดือน 16.95% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 37.53% และอันดับ 10 กองทุนเปิดยูโอบี หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งบริหารจัดการโดย บลจ.ยูโอบี (ไทย) โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 37.02% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.28% ย้อนหลัง 6 เดือน 17.69% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 37.02%
แชมป์กองทุนเผยเคล็ดลับ
ธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เล่าให้ฟังว่า การที่กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพสามารถให้ผลตอบแทนดีที่สุดในรอบปี 2550 เนื่องจากเน้นลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ ในกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก โดยสามารถให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี และยังได้รับอานิสงส์ของการเลือกหุ้นที่ถูกตัวด้วย
ทั้งนี้ กองทุนจะมีการคัดเลือกหุ้นที่ดี และจะเลือกลงทุนในหุ้นเพียง 10-25 ตัวเท่านั้น โดยปกติแล้ว กองทุนหุ้นมักจะนิยมลงทุนในตลาดหุ้นอย่างเต็มที่ และจะพยายามกระจายการลงทุนในหุ้นในเซกเตอร์ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ และพลังงานที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี และลงน้ำหนักในหุ้นแต่ละตัวมาก ซึ่งทำให้ได้รับผลตอบแทนกลับมาย้อนกลับมามากตามไปด้วย
ขณะเดียวกัน มองว่าแม้ว่าภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้จะมีความผันผวน แต่ยังไม่มีนโยบายปรับเปลี่ยนหุ้นที่มีอยู่ในพอร์ตลงทุน เนื่องจาก P/E ในตลาดหุ้นไทยยังต่ำ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสะสมหุ้น และซื้อหุ้นเพิ่มเติม
"ธีรนาถ" บอกว่า ความน่าสนใจของกองทุนนี้อยู่ที่มีสไตล์การบริหารแบบแอคทีฟ ฟันด์ โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าหุ้นพื้นฐาน มีอัตราการเจริญเติบโตสูง มีมาร์เก็ตแคปขนาดกลาง-ใหญ่ขึ้นไป และมีการจ่ายปันผลที่ดี นักลงทุนที่ชื่นชอบสไตล์นี้ก็สามารถเข้ามาลงทุนในกองทุนนี้ได้
สำหรับกองทุนเปิดทิสโก้หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบห้าของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และในพันธบัตร ตั๋วเงินคลัง บัตรเงินฝาก ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารแห่งหนี้อื่นๆ และ/หรือเงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ทั้งนี้ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.ประกาศกำหนด
อย่างไรก็ตาม อาจมีบางขณะที่บริษัทจัดการไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนที่กำหนดไว้ได้ ด้วยเหตุของการเพิ่มขึ้นของราคาหลักทรัพย์หรือทรัพย์สิน ซึ่งมิได้เกิดจากการลงทุนหรือได้หลักทรัพย์หรือทรัพย์สินมาเพิ่มเติม หรือสาเหตุอื่นที่มีนัยสำคัญ บริษัทจัดการอาจจะยังคงมีไว้ซึ่งหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินดังกล่าวต่อไปได้ และบริษัทจัดการจะรายงานการไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนที่กำหนดไว้ในโครงการตามประกาศแก่สำนักงาน โดยไม่ถือว่าผิดเงื่อนไขของโครงการ