ผู้จัดการรายวัน - แบงก์แห่ออกแคมเปญระดมเงินฝาก "กสิกรไทย"ออกบริการเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน ให้ผลตอบแทนถึง 2.75% พร้อมยืดหยุ่นสูง สามารถถอนก่อนกำหนดได้ ตั้งเป้าระดมเงินฝากให้ได้ 30,000 ล้านบาท ด้าน"เกียรตินาคิน"เร่งระดมเงินฝากเปิดแคมเปญ ฝากประจำ 12 เดือน ดอกเบี้ย 3.50% และ 18 เดือนรับดอกเบี้ยสูงถึง 3.75% ฝากเริ่มต้นที่ 5 แสนบาท ตั้งเป้าระดมเงินฝากราว 2 พันล้าน ระบุเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายอำพล โพธิ์โลหะกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดให้บริการเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน (Fixed Deposit Flexible 4 Months) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าเงินฝากประเภทบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ที่ต้องการฝากเงินให้ได้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไปและจะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถไถ่ถอนเงินฝากได้ก่อนกำหนด
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ฝากเงินกับบริการเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือนครบตามกำหนดเวลา จะได้รับดอกเบี้ยทุกเดือนในอัตรา 2.75% ต่อปี ส่วนลูกค้าที่ฝากไม่ถึง 3 เดือนจะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ฝากจริงในอัตรา 0.75% ต่อปี และลูกค้าที่ฝากเงินตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 4 เดือน จะได้รับดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี ซึ่งลูกค้าสามารถถอนเงินฝากก่อนครบกำหนดได้ทั้งแบบถอนทั้งหมดในครั้งเดียว หรือถอนเพียงบางส่วน โดยเงินต้นที่เหลืออยู่ในบัญชียังได้รับอัตราดอกเบี้ย 2.75% ต่อไปจนครบระยะเวลาการฝาก
สำหรับบัญชีเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือนนั้น จะต้องฝากขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อบัญชีย่อย และลูกค้าต้องมีบัญชีเงินฝากกระแสรายวันหรือบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่เป็นชื่อเดียวกับบัญชีเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน เพื่อรองรับการโอนดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับทุกเดือน และเมื่อครบกำหนดการฝาก ธนาคารจะต่ออายุการฝากเป็นเงินฝากประจำ 3 เดือนปกติโดยอัตโนมัติ และจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน ณ วันที่ต่ออายุการฝากนั้น โดยลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเก่าสามารถฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม จนถึง 29 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น โดยธนาคารตั้งเป้าจะสามารถระดมเงินฝากได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
นายอำพล กล่าวอีกว่า บริการเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน น่าจะเป็นทางเลือกการออมเงินที่ได้รับความสนใจ ทั้งจากลูกค้าเดิมของธนาคารและลูกค้ารายใหม่ เนื่องจากให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไป และผู้ฝากเงินยังมีความคล่องตัวสูง สามารถถอนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนได้เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน โดยยังรับดอกเบี้ยจากเงินฝากที่ถอนไปตามระยะเวลาการฝาก ในขณะที่เงินฝากประจำ 3 เดือนทั่วไปหากถอนก่อนกำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ย
นอกจากนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเป็นช่วงขาขึ้น ดังนั้นลูกค้าไม่ควรจะฝากเงินระยะยาวนัก เพราะจะทำให้เสียโอกาสในการได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นได้ หรือควรเลือกเงินฝากที่มีสภาพคล่องสูง ดังนั้นเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ณ เวลานี้
KKเปิดฝากประจำ18เดือนจ่าย3.75%
นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)หรือ KK เปิดเผยว่า ขณะนี้สินเชื่อของธนาคารมีแนวโน้มการขยายตัวค่อนข้างเร็ว ธนาคารจึงมีความจำเป็นจะต้องระดมเงินฝากให้มีระยะเวลาสอดคล้องกับเงินกู้ โดยเน้นระดมเงินฝากระยะกลาง-ยาว ตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป รวมถึงกระจายฐานลูกค้าสู่รายย่อยเพิ่มขึ้น ตลอดจนการระดมเงินฝากผ่านสาขานั้น ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ธนาคารจะต้องเร่งดำเนินการ และตั้งเป้าว่าจะระดมเงินฝากผ่านสาขาให้ได้ประมาณ 200 ล้านบาทต่อสาขา และกลุ่มธนาคารเกียรตินาคิน ได้แก่ ธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด จะร่วมมือกันให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ทั้งการออมและการลงทุนในตราสารต่างๆ อาทิ หุ้น พันธบัตรรัฐบาล และกองทุนรวม เป็นต้น
ทั้งนี้ ล่าสุดธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากสำหรับลูกค้ารายย่อยด้วยเงินเริ่มต้นที่ 5 แสนบาท จนถึง 2 ล้านบาท แบ่งเป็นฝากประจำ 12 เดือน รับดอกเบี้ยที่ 3.50% หรือฝากประจำ 18 เดือน ดอกเบี้ยสูงถึง 3.75% โดยจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เริ่มวันนี้ – 15 กุมภาพันธ์ 2551 เท่านั้น ซึ่งจากการสำรวจของฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของธนาคารพบว่าอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับในช่วงนี้ หรือหากเทียบกับระบบแล้ว ดอกเบี้ยของเกียรตินาคินให้ผลตอบแทนสูงกว่าประมาณ 0.25-0.50% โดยจากโปรโมชั่นดังกล่าว ธนาคารคาดว่าจะสามารถระดมเงินฝากได้ราว 2 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญ เปิดบัญชีเงินฝากทุกๆ 1 ล้านบาท รับอั่งเปา (Gift Voucher) มูลค่า 400 บาท สำหรับเงินฝากประจำ 12 เดือนขึ้นไป ตั้งแต่ 2 มกราคม -28 กุมภาพันธ์ 2551 รวมถึงสำหรับลูกค้าที่ฝากเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาท จะได้รับสิทธิ์ให้เป็น Priority Banking Member และได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม อาทิ ตรวจสุขภาพไม่เสียค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ ของขวัญวันเกิด และการใช้ CIP Lounge ที่สุวรรณภูมิ เป็นต้น ส่วนตั๋วแลกเงินนั้น ธนาคารเปิดจำหน่ายตั๋วแลกเงินให้กับประชาชนทั่วไป โดยรับวงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลาตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 3 ปี ดอกเบี้ยตั้งแต่ 2.5% - 4.25%
อนึ่ง เมื่อ 18 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา ธนาคารประกาศผลการดำเนินงานสำหรับงวดปี 2550 โดยผลประกอบการของธนาคารฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 2,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือราว 6% ด้านฐานะการเงิน ธนาคาร และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม 88,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 16.4% สินเชื่อหลักที่ธนาคารสามารถขยายตัว ได้ดีคือสินเชื่อเช่าซื้อ โดยมียอดรวมอยู่ที่ 42,238 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 42.4% ด้านเงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบี/อี และหนี้สินอื่นๆ มียอดรวมประมาณ 71,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18% มีฐานลูกค้ากว่า 9 พันราย
นายอำพล โพธิ์โลหะกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดให้บริการเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน (Fixed Deposit Flexible 4 Months) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าเงินฝากประเภทบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ที่ต้องการฝากเงินให้ได้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไปและจะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถไถ่ถอนเงินฝากได้ก่อนกำหนด
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ฝากเงินกับบริการเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือนครบตามกำหนดเวลา จะได้รับดอกเบี้ยทุกเดือนในอัตรา 2.75% ต่อปี ส่วนลูกค้าที่ฝากไม่ถึง 3 เดือนจะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ฝากจริงในอัตรา 0.75% ต่อปี และลูกค้าที่ฝากเงินตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 4 เดือน จะได้รับดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี ซึ่งลูกค้าสามารถถอนเงินฝากก่อนครบกำหนดได้ทั้งแบบถอนทั้งหมดในครั้งเดียว หรือถอนเพียงบางส่วน โดยเงินต้นที่เหลืออยู่ในบัญชียังได้รับอัตราดอกเบี้ย 2.75% ต่อไปจนครบระยะเวลาการฝาก
สำหรับบัญชีเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือนนั้น จะต้องฝากขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อบัญชีย่อย และลูกค้าต้องมีบัญชีเงินฝากกระแสรายวันหรือบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่เป็นชื่อเดียวกับบัญชีเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน เพื่อรองรับการโอนดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับทุกเดือน และเมื่อครบกำหนดการฝาก ธนาคารจะต่ออายุการฝากเป็นเงินฝากประจำ 3 เดือนปกติโดยอัตโนมัติ และจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน ณ วันที่ต่ออายุการฝากนั้น โดยลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเก่าสามารถฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม จนถึง 29 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น โดยธนาคารตั้งเป้าจะสามารถระดมเงินฝากได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
นายอำพล กล่าวอีกว่า บริการเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน น่าจะเป็นทางเลือกการออมเงินที่ได้รับความสนใจ ทั้งจากลูกค้าเดิมของธนาคารและลูกค้ารายใหม่ เนื่องจากให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไป และผู้ฝากเงินยังมีความคล่องตัวสูง สามารถถอนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนได้เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วน โดยยังรับดอกเบี้ยจากเงินฝากที่ถอนไปตามระยะเวลาการฝาก ในขณะที่เงินฝากประจำ 3 เดือนทั่วไปหากถอนก่อนกำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ย
นอกจากนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเป็นช่วงขาขึ้น ดังนั้นลูกค้าไม่ควรจะฝากเงินระยะยาวนัก เพราะจะทำให้เสียโอกาสในการได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นได้ หรือควรเลือกเงินฝากที่มีสภาพคล่องสูง ดังนั้นเงินฝากประจำคล่องตัว 4 เดือน จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ณ เวลานี้
KKเปิดฝากประจำ18เดือนจ่าย3.75%
นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)หรือ KK เปิดเผยว่า ขณะนี้สินเชื่อของธนาคารมีแนวโน้มการขยายตัวค่อนข้างเร็ว ธนาคารจึงมีความจำเป็นจะต้องระดมเงินฝากให้มีระยะเวลาสอดคล้องกับเงินกู้ โดยเน้นระดมเงินฝากระยะกลาง-ยาว ตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป รวมถึงกระจายฐานลูกค้าสู่รายย่อยเพิ่มขึ้น ตลอดจนการระดมเงินฝากผ่านสาขานั้น ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ธนาคารจะต้องเร่งดำเนินการ และตั้งเป้าว่าจะระดมเงินฝากผ่านสาขาให้ได้ประมาณ 200 ล้านบาทต่อสาขา และกลุ่มธนาคารเกียรตินาคิน ได้แก่ ธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด จะร่วมมือกันให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ทั้งการออมและการลงทุนในตราสารต่างๆ อาทิ หุ้น พันธบัตรรัฐบาล และกองทุนรวม เป็นต้น
ทั้งนี้ ล่าสุดธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากสำหรับลูกค้ารายย่อยด้วยเงินเริ่มต้นที่ 5 แสนบาท จนถึง 2 ล้านบาท แบ่งเป็นฝากประจำ 12 เดือน รับดอกเบี้ยที่ 3.50% หรือฝากประจำ 18 เดือน ดอกเบี้ยสูงถึง 3.75% โดยจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เริ่มวันนี้ – 15 กุมภาพันธ์ 2551 เท่านั้น ซึ่งจากการสำรวจของฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของธนาคารพบว่าอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับในช่วงนี้ หรือหากเทียบกับระบบแล้ว ดอกเบี้ยของเกียรตินาคินให้ผลตอบแทนสูงกว่าประมาณ 0.25-0.50% โดยจากโปรโมชั่นดังกล่าว ธนาคารคาดว่าจะสามารถระดมเงินฝากได้ราว 2 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญ เปิดบัญชีเงินฝากทุกๆ 1 ล้านบาท รับอั่งเปา (Gift Voucher) มูลค่า 400 บาท สำหรับเงินฝากประจำ 12 เดือนขึ้นไป ตั้งแต่ 2 มกราคม -28 กุมภาพันธ์ 2551 รวมถึงสำหรับลูกค้าที่ฝากเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาท จะได้รับสิทธิ์ให้เป็น Priority Banking Member และได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม อาทิ ตรวจสุขภาพไม่เสียค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ ของขวัญวันเกิด และการใช้ CIP Lounge ที่สุวรรณภูมิ เป็นต้น ส่วนตั๋วแลกเงินนั้น ธนาคารเปิดจำหน่ายตั๋วแลกเงินให้กับประชาชนทั่วไป โดยรับวงเงินตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ระยะเวลาตั้งแต่ 1 เดือนไปจนถึง 3 ปี ดอกเบี้ยตั้งแต่ 2.5% - 4.25%
อนึ่ง เมื่อ 18 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา ธนาคารประกาศผลการดำเนินงานสำหรับงวดปี 2550 โดยผลประกอบการของธนาคารฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 2,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือราว 6% ด้านฐานะการเงิน ธนาคาร และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม 88,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 16.4% สินเชื่อหลักที่ธนาคารสามารถขยายตัว ได้ดีคือสินเชื่อเช่าซื้อ โดยมียอดรวมอยู่ที่ 42,238 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 42.4% ด้านเงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบี/อี และหนี้สินอื่นๆ มียอดรวมประมาณ 71,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 18% มีฐานลูกค้ากว่า 9 พันราย