ธนาคารทิสโก้ เดินหน้ารุกตลาดเงินฝาก พร้อมเปิดตัวเงินฝากประจำพิเศษ 8 เดือน และ 12 เดือน ให้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3.4% สูงสุดในระบบ สำหรับลูกค้าฝากเงิน 1 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน คาดระดมเงินฝากได้ 1,000 ล้านบาท ดันยอดบัญชีเงินฝากแตะ 1 แสนบัญชี
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการสายธุรกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยว่า กลยุทธ์ด้านเงินฝากของธนาคารในปีนี้จะเน้นรุกขยายฐานลูกค้าเงินฝากอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มสัดส่วนของลูกค้าเงินฝากประเภทบัญชีออมทรัพย์และกระแสรายวันให้อยู่ในระดับ 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6% โดยมีจุดขายที่ผลิตภัณฑ์เงินฝากจะให้ผลตอบแทนกับลูกค้าที่ดีสูงกว่า ในขณะเดียวกัน ลูกค้าต้องมีต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายต่ำและได้รับบริการที่รวดเร็ว
ทั้งนี้ ธนาคารได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบใหม่ สำหรับลูกค้าระดับกลางโดยมีเงินฝาก 1 ล้านบาทขึ้นไป ประกอบด้วย บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 8 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.00% และ 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.40% โดยมีการจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน
สำหรับบัญชีเงินฝากประจำพิเศษทั้ง 2 ประเภทดังกล่าว ธนาคารจะให้เปิดคู่กับบัญชีออมทรัพย์พิเศษหรือกระแสรายวัน เพื่อรับโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเป็นรายเดือนโดยอัตโนมัติ โดยลูกค้าของธนาคารและลูกค้าใหม่ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีได้แล้ว โดยในส่วนของบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 12 เดือน จะมีระยะเวลาในการรับฝากจนถึงวันที่ 28 มี.ค.2551
โดยการเปิดตัวเงินฝากประจำพิเศษล่าสุดนี้ เชื่อว่า จะสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายกลางได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถระดมเงินฝากจากบัญชีทั้ง 2 ประเภทได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเป็นลูกค้าใหม่ 70-80%
“จุดแด่นของบัญชีเงินฝากทั้ง 2 ประเภท คือ อัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ และการที่เราตัดสินใจให้ผลตอบแทนที่สูงเมื่อเทียบกับตลาดในขณะนี้ก็เพราะเราต้องการสร้างฐานลูกค้าเงินฝากกลุ่มใหม่ที่เป็นลูกค้าระดับกลาง เพราะจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลูกค้าเงินฝากในระดับ 1-10 ล้านบาทในระบบมีอยู่ 30% ทำให้เราสนใจในลูกค้ากลุ่มนี้” นายศักดิ์ชัยกล่าว
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า เป้าหมายการระดมเงินฝากของธนาคารในปีนี้ จะสอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อที่ธนาคารตั้งเป้าว่าจะขยายตัวที่ 15-20% และคาดว่า ส่วนแบ่งทางการตลาดของเงินฝากของธนาคารในปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 1.1-1.2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.9-1.0% ส่วนจำนวนบัญชีเงินฝากในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 100,000 บัญชี จากปัจจุบัน 35,000 บัญชี โดยในปีนี้ธนาคารมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มเป็น 40 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 28 สาขา
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างเงินฝากปี 2007 ของธนาคาร ประกอบด้วย เงินฝากกระแสรายวัน 2,089 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3% ของเงินฝากรวม เงินฝากออมทรัพย์ 2,158 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% เงินฝากประจำ 31,467 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% และเงินกู้ยืมระยะสั้น 32,745 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% รวมทั้งสิ้น 68,459 ล้านบาท
สำหรับภาวะการแข่งขันด้านเงินฝากจะยังคงมีความรุนแรงมากขึ้น โดยดูได้จากภาวการณ์แข่งขันของสินเชื่อที่มีมากขึ้นทำให้ธนาคารแต่ละแห่งต้องระดมเงินฝากมาให้เพียงพอกับสินเชื่อที่ปล่อยออกไป และคาดว่าการเติบโตของเงินฝากทั้งระบบอยู่ที่ 3-5%
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ทยอยออกแคมเปญเพื่อระดมเงินฝากมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน โดยธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ 3 ตัว ประกอบด้วย 1.บริการเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ประเภท 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน ฝากขั้นต่ำ 1 ล้านบาทขึ้นไป 2.บริการเงินฝากอัตราดอกเบี้ยพิเศษระยะเวลา 5 เดือน เสนออัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.6 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน และ 3.บริการเงินฝากประจำพิเศษระยะเวลา 10 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.8 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน โดยธนาคารจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ลูกค้าระบุไว้สามารถฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท ขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2551 เท่านั้น
ขณะที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกบริการเงินฝากประจำ Combo Set โดยลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ย 2.7% สำหรับบัญชีฝากประจำ 3 เดือน และ 2.4% สำหรับบัญชีฝากประจำ 12 เดือน ทั้งนี้ ลูกค้าต้องฝากด้วยจำนวนเงินเท่ากันทั้ง 2 บัญชี โดยในการฝากครั้งแรก จะต้องมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าบัญชีละ 50,000 บาท และสำหรับการฝากครั้งต่อๆ ไป จะต้องมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าบัญชีละ 10,000 บาท ผู้สนใจเปิดบัญชีได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551
และธนาคารธนชาต ได้เปิดแคมเปญ “เติมความสุขให้คุณเต็มๆ ด้วยดอกเบี้ยสูง 3%” ด้วยการเชิญชวนลูกค้าให้เปิดบัญชีเงินฝากประจำ 3 เดือน 9 เดือน หรือ 12 เดือน วงเงินฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ยสูง 3% และได้รับดอกเบี้ยทุกเดือนนับตั้งแต่เดือนที่ 3 เป็นต้นไป ยกเว้นเงินฝากประจำ 3 เดือน จะได้รับดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการสายธุรกิจลูกค้ารายย่อย ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยว่า กลยุทธ์ด้านเงินฝากของธนาคารในปีนี้จะเน้นรุกขยายฐานลูกค้าเงินฝากอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มสัดส่วนของลูกค้าเงินฝากประเภทบัญชีออมทรัพย์และกระแสรายวันให้อยู่ในระดับ 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6% โดยมีจุดขายที่ผลิตภัณฑ์เงินฝากจะให้ผลตอบแทนกับลูกค้าที่ดีสูงกว่า ในขณะเดียวกัน ลูกค้าต้องมีต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายต่ำและได้รับบริการที่รวดเร็ว
ทั้งนี้ ธนาคารได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบใหม่ สำหรับลูกค้าระดับกลางโดยมีเงินฝาก 1 ล้านบาทขึ้นไป ประกอบด้วย บัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 8 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.00% และ 12 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.40% โดยมีการจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน
สำหรับบัญชีเงินฝากประจำพิเศษทั้ง 2 ประเภทดังกล่าว ธนาคารจะให้เปิดคู่กับบัญชีออมทรัพย์พิเศษหรือกระแสรายวัน เพื่อรับโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเป็นรายเดือนโดยอัตโนมัติ โดยลูกค้าของธนาคารและลูกค้าใหม่ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีได้แล้ว โดยในส่วนของบัญชีเงินฝากประจำพิเศษ 12 เดือน จะมีระยะเวลาในการรับฝากจนถึงวันที่ 28 มี.ค.2551
โดยการเปิดตัวเงินฝากประจำพิเศษล่าสุดนี้ เชื่อว่า จะสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ และตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายกลางได้เป็นอย่างดี โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถระดมเงินฝากจากบัญชีทั้ง 2 ประเภทได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเป็นลูกค้าใหม่ 70-80%
“จุดแด่นของบัญชีเงินฝากทั้ง 2 ประเภท คือ อัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ และการที่เราตัดสินใจให้ผลตอบแทนที่สูงเมื่อเทียบกับตลาดในขณะนี้ก็เพราะเราต้องการสร้างฐานลูกค้าเงินฝากกลุ่มใหม่ที่เป็นลูกค้าระดับกลาง เพราะจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลูกค้าเงินฝากในระดับ 1-10 ล้านบาทในระบบมีอยู่ 30% ทำให้เราสนใจในลูกค้ากลุ่มนี้” นายศักดิ์ชัยกล่าว
นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า เป้าหมายการระดมเงินฝากของธนาคารในปีนี้ จะสอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อที่ธนาคารตั้งเป้าว่าจะขยายตัวที่ 15-20% และคาดว่า ส่วนแบ่งทางการตลาดของเงินฝากของธนาคารในปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 1.1-1.2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.9-1.0% ส่วนจำนวนบัญชีเงินฝากในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 100,000 บัญชี จากปัจจุบัน 35,000 บัญชี โดยในปีนี้ธนาคารมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มเป็น 40 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 28 สาขา
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างเงินฝากปี 2007 ของธนาคาร ประกอบด้วย เงินฝากกระแสรายวัน 2,089 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3% ของเงินฝากรวม เงินฝากออมทรัพย์ 2,158 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% เงินฝากประจำ 31,467 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% และเงินกู้ยืมระยะสั้น 32,745 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% รวมทั้งสิ้น 68,459 ล้านบาท
สำหรับภาวะการแข่งขันด้านเงินฝากจะยังคงมีความรุนแรงมากขึ้น โดยดูได้จากภาวการณ์แข่งขันของสินเชื่อที่มีมากขึ้นทำให้ธนาคารแต่ละแห่งต้องระดมเงินฝากมาให้เพียงพอกับสินเชื่อที่ปล่อยออกไป และคาดว่าการเติบโตของเงินฝากทั้งระบบอยู่ที่ 3-5%
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ทยอยออกแคมเปญเพื่อระดมเงินฝากมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน โดยธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่ 3 ตัว ประกอบด้วย 1.บริการเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ประเภท 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน ฝากขั้นต่ำ 1 ล้านบาทขึ้นไป 2.บริการเงินฝากอัตราดอกเบี้ยพิเศษระยะเวลา 5 เดือน เสนออัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.6 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน และ 3.บริการเงินฝากประจำพิเศษระยะเวลา 10 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.8 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน โดยธนาคารจะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ลูกค้าระบุไว้สามารถฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท ขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2551 เท่านั้น
ขณะที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกบริการเงินฝากประจำ Combo Set โดยลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ย 2.7% สำหรับบัญชีฝากประจำ 3 เดือน และ 2.4% สำหรับบัญชีฝากประจำ 12 เดือน ทั้งนี้ ลูกค้าต้องฝากด้วยจำนวนเงินเท่ากันทั้ง 2 บัญชี โดยในการฝากครั้งแรก จะต้องมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าบัญชีละ 50,000 บาท และสำหรับการฝากครั้งต่อๆ ไป จะต้องมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าบัญชีละ 10,000 บาท ผู้สนใจเปิดบัญชีได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551
และธนาคารธนชาต ได้เปิดแคมเปญ “เติมความสุขให้คุณเต็มๆ ด้วยดอกเบี้ยสูง 3%” ด้วยการเชิญชวนลูกค้าให้เปิดบัญชีเงินฝากประจำ 3 เดือน 9 เดือน หรือ 12 เดือน วงเงินฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ยสูง 3% และได้รับดอกเบี้ยทุกเดือนนับตั้งแต่เดือนที่ 3 เป็นต้นไป ยกเว้นเงินฝากประจำ 3 เดือน จะได้รับดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด