xs
xsm
sm
md
lg

"บีที ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ" รั้งแชมป์ผลตอบแทนสูงสุดRMFหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อย่างที่รู้กันอยู่ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ค่อนข้างจะมีความผันผวนอย่างหนัก เนื่องมาจากปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งปัจจัยทางการเมืองที่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวขึ้นๆลงๆยิ่งกว่าระดับน้ำในทะเลอีก....ดังนั้น การจับทิศทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จึงอยากยิ่งกว่า "เข็นครกขึ้นภูเขา"ที่จะทำให้การลงทุนสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีสำหรับนักลงทุน...

แต่สำหรับการลงทุนในระยะยาว จะไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดเท่าใดนัก เนื่องมาจากใช้ระยะเวลาในการลงทุนค่อนข้างมาก จึงทำให้มีเวลาในการทำกำไร และยังสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ตามความพอใจของนักลงทุนได้ด้วย ซึ่งถือเป็นช่วงที่ดีที่จะเข้าไปเก็บของถูกมาไว้ในพอร์ตการลงทุนแทนหุ้นตัวเดิมที่ไม่ค่อยจะรุ่ง...

เป็นที่ทราบกันดีว่าการลงทุนในกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพเป็นการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งยังเหลือเวลาอีกแค่ 3 เดือนก็จะสิ้นปี ทำให้ช่วงนี้นักลงทุนหันมาใช้สิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษี นับว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุน นอกจากจะไม่เสี่ยงแล้วยังได้ประโยชน์อีกด้วย น่าสนใจจริงๆ

คอลัมน์ "Best of Fund" สัปดาห์นี้ ขอพามาดูผลการดำเนินงานของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนว่ามี 10 อันดับแรกของกองทุนใดบ้างที่น่าสนใจ มีการปรับเปลี่ยนอันดับอย่างไรบ้าง พร้อมทั้งนโยบายการลงทุนที่ทำให้กองทุนสามารถคว้าแชมป์มาได้หลายเดือนติดต่อกัน

สำหรับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดมาเป็นอันดับ 1 คือ กองทุนเปิด บีที ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 15.14 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -5.58% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 14.66% อันดับ 2 ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. กรุงไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 15.93 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -8.98% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 11.26%

อันดับ 3 กองทุนเปิด อยุธยาอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. เอวายเอฟ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 163.13 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -12.04% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 8.20% อันดับ4 กองทุนเปิด ไทยพาณิชย์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. ไทยพาณิชย์โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 1,954.50 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -12.97% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 7.27%

อันดับ 5 กองทุนทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. เอวายเอฟ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 117.37 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -13.06% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 7.18% อันดับ 6 กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ. แอสเซทพลัส โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 48.90 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -13.57% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 6.67%

อันดับ 7 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 163.65 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -13.67% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 6.57% อันดับ 8 กองทุนอเบอร์ดีนสมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.อเบอร์ดีน โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 747.66 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -14.29% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 5.95%

อันดับ 9 กองทุนเปิดธนชาตหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.ธนชาต โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 336.87 ล้านบาท มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -14.97% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 5.27% และอันดับ 10 กองทุนเปิดแมกซ์หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ ภายใต้การบริหารของ บลจ.นครหลวงไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 59.62 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -15.19%และสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 5.05%

ทั้งนี้ พบว่าผลตอบแทนจากการลงทุนใน Thailand SET CR อยู่ที่ -20.44%

"เปิดกลยุทธ์การลงทุน"
เจิดพันธุ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เล่าให้ฟังว่า การที่กองทุนเปิด บีที ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ สามารถให้ผลตอบแทนกองทุนเป็นอับดับ 1 ติดต่อกัน เนื่องมาจากการที่บริษัท มีการคัดเลือกหุ้นที่มีผลการดำเนินงานดี มีอนาคตเข้ามาเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุน โดยบริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนหุ้นที่มีพื้นฐานดีมาเก็บไว้ในพอร์ต และจะไม่มีการถือหุ้นตัวใดตัวหนึ่งไว้นาน ทั้งนี้ บริษัทจะมองว่าในขณะนั้นหุ้นตัวไหนที่ดีมีปัจจัยเป็นบวกในช่วงเวลานั้นก็จะเข้าไปลงทุนในหุ้นตัวนั้น และขายหุ้นตัวอื่นออกไปแทน

"อีกอย่างที่สำคัญ คือเรื่องของการเลือกระยะเวลาในการลงทุน ซึ่งจะต้องเลือกลงทุนให้ถูกเวลา อีกทั้ง การเลือกตลาดในการลงทุนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ การเลือกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนและลดน้ำหนัการลงทุนให้ถูกเวลาก็สามารถทำให้กองทุนให้ผลตอบแทนที่ดีได้ โดยที่บริษัทจะมีการลดน้ำหนักการลงทุนในช่วงที่ตลาดปรับตัววลดลงมาถือเงินสดแทนการถือหุ้น และจะกลับไปลงทุนในหุ้นอีกครั้งเมื่อตลาดมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น"

สำหรับ กองทุนเปิด บีที ไลฟ์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน โดยมีนโยบายการลงทุน ที่เน้นลงทุนในหุ้นสามัญบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ หรือได้รับการสนับสุนนจากนโยบายของรัฐบาลหรือหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น